บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):
Action
BUY (Maintain)
TP upside (downside) +14.9%
Close Feb 10, 2022 Price (THB) 35.25
12M Target (THB) 40.50
Previous Target (THB) 42.40
What’s new?
- คาด 4Q64 ขาดทุนปกติที่ 369 ล้านบาท ดีขึ้น QoQ และ YoY โรงแรมที่มีการฟื้นตัวเด่นยังเป็นกลุ่ม Maldives ส่วนธุรกิจอาหารเราคาดฟื้นตัวดีขึ้น หนุนจากการผ่อนคลายข้อจำกัดการทานอาหารในร้าน
- คาด 1Q65 ผลกระทบจากการระบาดของ Omicron จำกัดหนุนจาก 1) ธุรกิจโรงแรมในไทยประคอง Occ. Rate ได้ QoQ, รายได้จากโรงแรมที่ Maldives และ Dubai ช่วยหนุน และ 2) ธุรกิจอาหารฟื้นตัวต่อเนื่องจาก Sentiment การบริโภคที่ดีขึ้น
Our View
- เราปรับลดกำไรปกติปี 2565-66 ลง 57% และ 29% เพื่อสะท้อนการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยที่ถูกเลื่อนออกไปเป็นช่วง 2H65 จากผลกระทบของ Omicron
- เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” แม้เราจะปรับลดราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2565 ลงเป็น 40.50 บาทต่อหุ้น (อิง EV/EBITDA ที่ 14x เทียบเท่า +1.0SD) แต่การฟื้นตัวของ CENTEL จะทำได้ดี และราคาหุ้นยังไม่ได้ Price In ผลบวกทั้งหมดในมุมมองของเรา
CENTRAL PLAZA HOTEL ฟื้นตัวดี ราคาหุ้นยังเหลือ Upside
คาดผลประกอบการ 4Q64 ดีขึ้น QoQ และ YoY
เราคาดผลประกอบการ 4Q64 ขาดทุนปกติ 369 ล้านบาท ขาดทุนลดลง QoQ และ YoY จากขาดทุนปกติ 656 ล้านบาทใน 3Q64 และขาดทุนปกติ 387 ล้านบาทใน 4Q63 สรุปสาระสำคัญดังนี้
1) ธุรกิจโรงแรม คาด RevPar เฉลี่ยใน 4Q64 อยู่ที่ 1,470 บาท (+163%QoQ, +77%YoY) และคาด Occ. Rate เฉลี่ยที่ 30% ดีขึ้นเทียบกับ 16% ใน 3Q64 และ 27% ใน 4Q63 กลุ่มโรงแรมที่มีการฟื้นตัวเด่นคือโรงแรมใน Maldives คาด Occ. Rate ที่ระดับ 81% ฟื้นตัวต่อเนื่องจาก 64% ใน 3Q64 ขณะที่ภาพตลาดในไทยการคลาย Lockdown และโครงการเราเที่ยวด้วยกันเป็นตัวหนุนสำคัญที่ทำให้ Occ. Rate เร่งตัวจาก 13% ใน 3Q64 มาอยู่ที่ 27% ใน 4Q64 โดยโรงแรมในกรุงเทพฯ กลับมาเติบโตได้ดี โดยเฉพาะการจัดงานประชุม หรือสัมมนาต่างๆ ขณะที่โรงแรมในต่างจังหวัดฟื้นตัวดีในพื้นที่ Driving Distance เช่น หัวหิน พัทยา เป็นต้น นอกจากนี้ ADR เฉลี่ยยังสามารถปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง โรงแรมในไทย +16% YoY โรงแรม ใน Maldives +45% YoY
2) ธุรกิจอาหารคาดรายได้ใน 4Q64 ที่ 2.6 พันล้านบาท (+33% QoQ, +2% YoY) เราคาด SSSG เฉลี่ยใน 4Q64 ที่ -2%YoY ดีขึ้นเทียบกับ -30%YoY ใน 3Q64 หนุนจากการผ่อนคลายข้อจำกัดการทานอาหารในร้าน
3) คาด GPM ใน 4Q64 ที่ 33% เพิ่มขึ้นเทียบกับ 27% ใน 3Q64 และ 31% ใน 4Q63 แม้จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นตามรายได้ แต่คาดเพิ่มเฉพาะในส่วนของค่าใช้จ่ายผันแปร ทำให้มีอัตราการทำกำไรดีขึ้น หาก 4Q64 ออกมาตามคาด ผลขาดทุนปกติทั้งปี 2564 จะอยู่ที่ 2.2 พันล้านบาท In-line กับประมาณการของเรา
ปรับลดประมาณการปี 2565-66 แต่ยังคงมุมมองกลับมาทำกำไรในปี 2565
ธุรกิจโรงแรม เราคาดผลประกอบการใน 1Q65 ทรงตัว QoQ คาดผลกระทบจาก Omicron ค่อนข้างจำกัด ตัวเลข Occ. Rate ในเดือน ม.ค.65 อยู่ในระดับที่ทรงตัว QoQ อีกทั้งได้แรงหนุนจากโรงแรมใน Maldives ที่ยังอยู่ในช่วง High season และโรงแรมใหม่ที่ Dubai (CENTEL ถือ 40% ใน 4Q64 มี Occ. Rate สูงถึง 58% หนุนจากการจัดงาน World Expo ในช่วง 4Q64-1Q65) นอกจากนี้การนำ Test&Go กลับมาใช้ในเดือน ก.พ. เร็วกว่าที่เราเคยคาดไว้จะหนุนการเดินทางระหว่างประเทศอย่างมีนัยสำคัญในช่วง 2H65
ธุรกิจอาหาร เราคาดเห็นแนวโน้มการฟื้นตัวดีขึ้นต่อเนื่องจากสถานการณ์ COVID-19 ที่ลดแรงกดดันลง คาดตัวเลข SSSG ในเดือน ม.ค.65 กลับมาเติบโต YoY และบริษัทฯ พยายามรักษาระดับ GPM แม้มีการปรับขึ้นของราคา ต้นทุนวัตถุดิบ เราคาดธุรกิจอาหารจะกลับสู่ภาวะปกติในปี 2565 เป็นตัวหนุนสำคัญที่ทำให้กระแสเงินสดมีความ แข็งแกร่ง ในช่วงเวลาที่ธุรกิจโรงแรมยังต้องรอนักท่องเที่ยวต่างชาติ อีกทั้งคาดเห็นดีล M&A เพิ่มเติมในธุรกิจอาหาร (บริษัทฯ ยังไม่ให้รายละเอียด) ซึ่งหากเกิดขึ้นจะเป็น Upside Risk ที่ยังไม่รวมในประมาณการของเรา
เรายังคงมุมมองการกลับมาทำกำไรของ CENTEL ตั้งแต่ปี 2565 เป็นต้นไป แต่ภาพการฟื้นตัวอาจไม่ได้เร็วเท่าที่ เคยคาดไว้ ทำให้เราปรับลดประมาณการกำไรปกติปี 2565-66 ลง 57% และ 29% ตามลำดับ หลักๆ จากการปรับลดประมาณการรายได้ของธุรกิจโรงแรมลง เพื่อใส่ผลกระทบการระบาดของ Omicron ที่ส่งผลให้การเปิดประเทศในช่วงแรกทำได้ไม่เต็มศักยภาพ ทำให้ภาพการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวในไทยถูกเลื่อนออกไปในช่วง 2H65 จากที่เดิมเราเคยคาดไว้ตั้งแต่ช่วง 4Q64
คงคำแนะนำ “ซื้อ” ปรับราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2565 เป็น 40.50 บาท
เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” แม้ผลของการปรับลดประมาณการทำให้ราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2565 ลดลงเป็น 40.50 บาทต่อหุ้น (อิง EVIEBITDA ที่ 14x เทียบเท่า +1.0SD ของค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี) แต่ราคาหุ้นในปัจจุบันยังไม่ สะท้อนภาพการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของ CENTEL ทำให้ยังเหลือ Upside แต่หากเทียบกับตัวเลือกอื่นในกลุ่มเรา ชอบ MINT มากกว่า จาก Upside Risk ที่สูงกว่าบนกรอบราคาเหมาะสมที่ +1SD เหมือนกัน และกำไรมีโอกาสฟื้นตัวก่อน CENTEL จากการฟื้นตัวในยุโรปที่กำลังจะเข้าสู่ช่วง High Season ใน 2Q65
ความเสี่ยงสำคัญ ได้แก่ 1) จำนวนนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะต่างชาติอาจต่ำกว่าคาดการณ์ และ 2) การระบาดของ COVD-19 เกิดการกลายพันธุ์ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อสูงขึ้นอีกครั้ง