สัญญาณดี คือการที่ไม่มีอะไรที่แย่ยิ่งไปกว่าสิ่งที่คาดการณ์

สถานการณ์ยูเครน ยังประเมินว่ารัสเซียต้องการเจรจา ตลาดหุ้นโลกวานนี้ฟื้นตัวหลังมีข่าวรัสเซียถอนกําลังทหารบางส่วนจากชายแดนกลับสู่ที่มั่นทางทหาร ช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ และยืนยันมุมมองของเราที่ประเมินรัสเซียต้องการกดดันเพื่อให้เกิดการเจรจาให้ยูเครนเป็นรัฐกันชนที่ปลอดจากอำนาจแทรกแซงจากทาง NATO และสหรัฐฯ แม้จะมีรายงานเชิงลบที่มีข้อมูลขัดแย้ง แต่ส่วนใหญ่มาจากฝั่งสหรัฐฯ ด้วยการประชุมระหว่างผู้นำสหรัฐฯ และรัสเซียที่จะเกิดขึ้นช่วงปลายสัปดาห์ เรามองสถานการณ์ในระยะสั้นทรงตัว และจะคลี่คลายด้วยการเจรจา

ไม่มีข่าวร้ายใหม่จากรายงานการประชุมเฟด ข้อมูลจากรายงานการประชุม (Fed minute) ยังคงออกมาในโทนตึงตัว (Hawkish) แต่ไม่มีปัจจัยลบใหม่ที่ตลาดไม่รับทราบมาก่อน ซึ่งเมื่อรวมกับยอดค้าปลีก (Retail sales) ม.ค.ที่ 3.8% ที่ดีกว่าที่ตลาดคาดที่ 2.1% เราควรเห็นค่าเงินสหรัฐฯ ที่แข็งค่าขึ้น แต่ค่าเงินสหรัฐฯ คืนที่ผ่านมากลับอ่อนตัวลง รวมทั้งดัชนีสำคัญทั้ง 3 ฟื้นตัวจากประมาณลบ 1% กลับมาปิดในระดับเกือบทรงตัว สะท้อนมุมมองว่าตลาดรับรู้ข่าวร้ายและแนวโน้มการดำเนินนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ ไปพอสมควรแล้ว

ระวังแรงทํากําไรระยะสั้น ในน้ำมันดิบและกลุ่มพลังงาน สถานการณ์ตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่เริ่มลดความร้อนแรงลง ประกอบกับความคืบหน้าในการเจรจายกเลิกคว่ำบาตรอิหร่านของสหรัฐฯ เพื่อคาดหวังน้ำมันดิบที่จะมาช่วยลดแรงกดดันด้านราคาพลังงาน คาดจะเป็นปัจจัยให้น้ำมันดิบมีโอกาสถูกขายทํากําไรในระยะสั้น นักลงทุนจึงควรระวังแรงทำกำไรหุ้นพลังงานต้นน้ำ หรือหากจะเข้าเก็งกำไรให้ใช้กลยุทธ์ซื้อเมื่อปรับลง (Buy on dip) และไม่ไล่ราคา

กลุ่มบันเทิง – เป็นหุ้นได้ประโยชน์จากการเปิดเมือง และการฟื้นตัวของเม็ดเงินโฆษณาที่มักจะโต 1.5-2 เท่าของ GDP และคาดจะรายงานกำไรไตรมาส 4/64 ออกมาแข็งแกร่ง ทั้งนี้เรามองกลุ่มบันเทิงที่เป็นทีวี มีโอกาสฟื้นตัวตามเม็ดเงินโฆษณา นอกจากนี้การที่ Google เองจะเริ่มดำเนินการ cross-app tracking ที่จะทำให้แอพพลิเคชั่นต่างๆ เข้าถึงข้อมูลลูกค้าได้ยากขึ้น จะส่งผลให้ความได้เปรียบของสื่อออนไลน์ที่มีต่อสื่อดั้งเดิมลดลง ซึ่งเรามองเป็นบวกกับผู้ประกอบการสื่อแบบดั้งเดิม โดยเฉพาะที่มีคอนเทนต์ในมือแข็งแกร่ง

ประเด็นเก็งกำไรอื่น

1) กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง การเปิดประมูลโครงการขนาดใหญ่ บวกต่อ CK, STEC, ITD, UNIQ

2) กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์ ตลาดเก็งกำไรการเข้าสู่ธุรกิจใหม่เกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิตอล และผลประกอบการปี 2564 ที่น่าจะเห็นการจ่ายปันผลในระดับที่ดี อย่างไรก็ตาม ยังมีความไม่ชัดเจนของภาพรายได้ปี 2565 อีกมาก การเก็งกําไรจึงควรกำหนจุดตัดขาดทุนทุกครั้ง KGI, ASP, CGH, FSS

3) กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ เป็นกลุ่มที่มักจะเคลื่อนไหวได้ดีในภาวะเงินเฟ้อ อีกทั้ง valuation ต่ำ และปันผลสูง ทำให้มีโอกาสเห็นการฟื้นตัวของ LH, SPALI, AP, SC, ASW

4) กลุ่มบันเทิง ผลประกอบการมีแนวโน้มฟื้นตัวจากงบโฆษณาที่ฟื้นตัวตามเศรษฐกิจ บวกต่อ ONEE, BEC, WORK, MONO

5) หุ้นเก็งกำไรทางเทคนิค อาทิ SFT, WFX, CV, UBE, RAM, IND, MAKRO, CPALL, JAS, BCP, AJ, PTL

ภาพรวมกลยุทธ์:

ไม่หลุด 1,685 ภาพรวมปรับขึ้นทดสอบ 1,720 / 1,740 จุด เน้นเก็งกําไรสลับรายกลุ่ม โดยเลือกหุ้นที่ยังมีความน่าสนใจในเชิงของ valuation  และมีทิศทางการเติบโตของกําไรเป็นบวก

หุ้นแนะนำ: CPN*, ONEE*, MAKRO*, SFT*

แนวรับ: 1,685-1,695 / แนวต้าน : 1,708-1,720 จุด สัดส่วน : เงินสด 50%:พอร์ตหุ้น 50%

ประเด็นการลงทุน

  • GULF – จับมือเครือเจริญโภคภัณฑ์ (กลุ่มซีพี) ตั้งบริษัทร่วมทุน “เอจี โคราช” ถือหุ้น 50:50 รุกธุรกิจโซลาร์รูฟท็อปและโซลาร์ฟาร์ม เจาะกลุ่มลูกค้าโรงงานอุตสาหกรรม
  • KEX – วางเป้า 3 ปี ดันปริมาณการขนส่งโตปีละ 30% เตรียมเจาะฐานลูกค้าให้ครบ – ทุกเซกเมนต์
  • เงินเฟ้อจีนชะลอต่ำสุดในรอบ 6 เดือน – เงินเฟ้อด้านราคาผู้ผลิตของจีนชะลอตัวลงสู่อัตราต่ำสุดในรอบ 6 เดือนในเดือนม.ค. เนื่องจากมาตรการของรัฐบาลจีนที่ควบคุมการพุ่งขึ้นของราคาวัตถุดิบทำให้ราคาผู้ผลิตลดลง

ประเด็นติดตาม: 21 ก.พ. – EU Manufacturing PMI เดือน ก.พ. / 21 ก.พ. – TH: 4Q GDP / 22 ก.พ. – US Consumer Confidence เดือน ก.พ.

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)

ประเด็นลงทุนสําหรับหุ้นแนะนำ

  • เก็งกำไร CPN* (65) : ผลประกอบการฟื้นตัว ได้ประโยชน์จากการเปิดเมือง ตัดขาดทุน 54.50 บาท
  • เก็งกำไร ONEE* (13.50) : แนวโน้มไตรมาส 4/64 เติบโตเด่น การบล็อคการเข้าถึงข้อมูลผู้ใช้ของ Apple และ Google บวกต่อสื่อดั้งเดิม ตัดขาดทุน 11.80 บาท
  • เก็งกำไร MAKRO (50) : หุ้นขนาดใหญ่ที่ยัง taggard และได้อานิสงค์ทั้งจากเปิดเมืองและการท่องเที่ยวที่จะฟื้นในปี 2566 ตัดขาดทุน 39 บาท
  • เก็งกำไร SFT* (8.00) : ผลการดำเนินงานฟื้นตัวต่อเนื่อง และซื้อขายต่ำกว่าศักยภาพการเติบโต ตัดขาดทุน 6.00 บาท

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBIH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)

Market News & Factors

ตลาดหุ้นสหรัฐ

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเล็กน้อยในวันพุธ (16 ก.พ.) ขณะที่ดัชนี S&P500 ดีดตัวขึ้นในช่วงท้ายตลาด หลังจากรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) บ่งชี้ว่าเฟดอาจจะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรุนแรงไปกว่าที่ตลาดได้คาดการณ์ไว้แล้ว นอกจากนี้ บรรยากาศการซื้อขายยังได้รับแรงหนุนจากรายงานยอดค้าปลีกที่แข็งแกร่งเกินคาดของสหรัฐ (อินโฟเควสท์)

ตลาดหุ้นยุโรป

ตลาดหุ้นยุโรปปิดไร้ทิศทางในวันพุธ (16 ก.พ.) ขณะที่นักลงทุนยังคงประเมินแนวโน้มสถานการณ์ตึงเครียดระหว่าง ยูเครนและรัสเซีย หลังจากรัสเซียอ้างว่าได้ถอนทหารบางส่วนออกจากชายแดนที่ติดกับยูเครน ส่วนราคาหุ้นรายตัว ในตลาดยังคงเคลื่อนไหวจากปัจจัยการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน (อินโฟเควสท์)

ตลาดหุ้นญี่ปุ่น

ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดพุ่งขึ้นกว่า 2% (16 ก.พ.) โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนคลายความวิตกเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่ลดลงที่รัสเซียจะบุกโจมตียูเครน

ตลาดน้ำมัน

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นในวันพุธ (16 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวล เกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในยูเครน หลังจากองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ระบุว่ารัสเซียยังคงเสริมกำลังทหารตามชายแดนยูเครน (อินโฟเควสท์)

GULF

จับมือเครือเจริญโภคภัณฑ์ (กลุ่มซีพี) ตั้งบริษัทร่วมทุน “เอจี โคราช” ถือหุ้น 50:50 รุกธุรกิจโซลาร์รูฟท็อป และโซลาร์ฟาร์ม เจาะกลุ่มลูกค้าโรงงานอุตสาหกรรม

KEX

วางเป้า 3 ปี ในปริมาณการขนส่งโตปีละ 30% เตรียมเจาะฐานลูกค้าให้ครบทุกเซกเมนต์

เงินเฟ้อจีนชะลอต่ำสุดในรอบ 6 เดือน

เงินเฟ้อด้านราคาผู้ผลิตของจีนชะลอตัวลงสู่อัตราต่ำสุดในรอบ 6 เดือนในเดือนม.ค. เนื่องจากมาตรการของรัฐบาลจีนที่ควบคุมการพุ่งขึ้นของราคาวัตถุดิบทำให้ราคาผู้ผลิตลดลง

Report & Corporate News

DELTA Maintained SELL TP : 360.0 บาท

DELTA รายงานกำไรสุทธิที่ 2.1 พันลบ. (+37% yoy, +75% gog) จากการเติบโตของรายได้ที่แข็งแกร่ง และ SG&A-to-sale ratio ที่ลดลง โดยรายได้โต 26% yoy และ 9% qoq อยู่ที่ 23.3 พันลบ. ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นหดตัวลง 4.1 ppt yoy จากต้นทุนค่าขนส่งและวัตถุดิบที่เพิ่มสูงขึ้น

MTC Maintained BUY TP : 69.00 บาท

MTC รายงานกำไรไตรมาส 4/64 โตต่ำกว่าคาด อยู่ที่ 1.1 พันลบ. (-20% yoy, -8% qoq) จาก OPEX ที่สูง กว่าคาด และตัวเลขการตั้งสำรอง อย่างไรก็ตาม เราคาดว่ากำไรจะกลับมาฟื้นตัวแกร่งในปี 2022 ที่ระดับ 29% yoy จากการขยายตัวของสินเชื่อ

TOP Maintained BUY TP : 65.0 บาท

TOP รายงานกำไรสุทธิที่ 5 พันลบ. โต 144% qoq แต่ลดลง 30.7% yoy เป็นไปตามที่เราและตลาดคาด โดย ได้รับแรงหนุนจากค่าการกลั่นที่ฟื้นตัว เราประเมินกำไรหลัก (core EPS) โต 74.1% yoy ในปีนี้จากผลของฐานที่ต่ำในปี 2021 รวมถึงค่าการกลั่นที่ทรงตัวในระดับสูง

OR Maintained BUY TP : 31.00 บาท

OR รายงานกำไรสุทธิที่ 2,350 ล้านบาท ใน 4Q21 ฟื้นตัวขึ้น 24.4% qoq แต่ลดลง 19.4% yoy หลักๆ มา จากธุรกิจ Lifestyle (non-oil) ที่ฟื้นตัวได้ค่อนข้างเร็ว โดยมียอดขาย Cafe Amazon ฟื้นตัวแรงถึง 27.9% qoq มาอยู่ที่ 87 ล้านแก้ว ใน 4Q21 จาก 68 ล้านแก้ว ใน 3Q21 รวมถึงร้านค้าเช่าต่างๆ ที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน หลังจากมีการคลาย Lock down ขณะที่ EBITDA margin ของ Lifestyle business ก็ฟื้นตัวจาก 21.8% ใน 3Q21 มาเป็น 23.7% ใน 4Q21 โดยรวมคาดว่าผลประกอบการก็ผ่านจุด Bottom ไปแล้วใน 3Q21 และต่อเนื่องไปใน 1Q22 หลักๆ มาจากธุรกิจ Lifestyle จากการคลาย Lockdown และไม่มีค่าใช้จ่ายช่วยเหลือ Franchisees แล้วใน 1Q22 ขณะที่ 4Q21 ช่วย 1 เดือน ใน 3Q21 ช่วยเหลือ นอกจากนี้ธุรกิจ Mobility ก็คาด ว่าจะมี market share เพิ่มต่อเนื่องจาก 4Q21 ที่อยู่ 43.4% (3Q21:41.8%)

- Advertisement -