ZIGA มาตามนัด โชว์กำไรปี 64 พุ่งทะยานแตะ 204.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 73.49% จากงวดเดียวกันปีก่อน ทำระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ต่อเนื่อง ระบุเป็นผลสำเร็จจากการหาตลาด niche market รุกขยายช่องทางออนไลน์ ขณะที่ธุรกิจเหล็กสำหรับโครงสร้างโรงเรือนเพาะกัญชา กัญชง สร้างรายได้เพิ่ม ขณะที่แผนงานปี 65 ก้าวสู่ยุคทรานฟอร์ม จากธุรกิจเหล็กเป็นเทคโนโลยีทุกมิติ เดินหน้าลุยขยายเหมืองขุดบิคอยน์เพิ่ม หลังเริ่มรับรู้รายได้จากเครื่องขุดชุดแรกที่ติดตั้งปลายปี 64 จำนวน 100 เครื่อง มูลค่า 6 แสนบาทแล้ว มั่นใจช่วยผลักดันทั้งรายได้ กำไรเติบโตอย่างแข็งแกร่ง

 

นายศุภกิจ งามจิตรเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซิก้า อินโนเวชั่น จำกัด(มหาชน) หรือ ZIGA เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานปี 2564 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 204.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 73.49% จากงวดเดียวกันปีก่อนมีกำไรสุทธิเท่ากับ 117.7 ล้านบาท ขณะที่มีรายได้จากการขาย 1,141.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.3% จากงวดเดียวกันปีก่อนมีรายได้รวมเท่ากับ 972.9 ล้านบาท โดยปัจจัยที่สนับสนุนให้กำไรปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากการเพิ่มกลุ่ม niche market โรงเรือนกัญชา กัญชง และการขายให้กับกลุ่มลูกค้าท่อร้อยสายไฟ DAIWA  ขณะเดียวกันได้รุกขยายเพิ่มช่องทางการขายช่องทาง Online

“ในปีที่ผ่านมา บริษัทสามารถรักษาการเติบโตในทิศทางที่ดีต่อเนื่อง และความสามารถในการทำกำไรยังคงทำสถิติสูงสุดประวัติการณ์ได้อย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นจากปี 2563 จาก 65,000 ตัน เป็น 110,000 ตัน ทำให้ช่วยในเรื่องการประหยัดต้นทุนได้เป็นอย่างดี และมีการออกผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพเป็นสินค้าที่มีมาร์จิ้นสูง ตลอดจนการขยายช่องทางการจำหน่ายสินค้าสู่ระบบออนไลน์และการทำระบบ Franchise “ZIGA FC” ซึ่งผลตอบรับที่ดีมาก อีกทั้งยังมีการรุกขยายสู่ธุรกิจใหม่ โรงเรือนเพาะปลูกกัญชา กัญชง สามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้น และมีสัญญาณที่ดีต่อเนื่อง”

สำหรับภาพรวมการดำเนินธุรกิจปี 2565 บริษัทตั้งเป้าที่จะมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดได้ในทุกมิติ ทั้งธุรกิจเดิมและธุรกิจใหม่ และเชื่อว่าจะเป็นปีแห่งการก้าวเข้าสู่การทรานฟอร์ม จากธุรกิจเหล็กไปเป็นธุรกิจเทคโนโลยีอย่างเต็มตัว โดยเฉพาะการเข้าไปลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวกับ Cryptocurrency ซึ่งปัจจุบันได้เข้าไปการลงทุนในธุรกิจ bitcoin mining ผ่านบริษัทย่อยอย่าง บริษัท ซิก้า เอฟซี จำกัด ล่าสุดมีการสั่งซื้อเครื่องขุดบิทคอยน์อีก จำนวน 200 เครื่อง เป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 100 ล้านบาท จากที่มีเครื่องขุดอยู่แล้ว 200 เครื่อง โดยได้สั่งซื้อไปเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และคาดว่าจะติดตั้งแล้วเสร็จภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้  และหากการติดตั้งเครื่องขุดบิตคอยน์เป็นไปตามแผนคาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้จากเครื่องขุดทั้งหมด 400 เครื่องภายในไตรมาส 1/65 เป็นต้นไป

“จากที่ลงทุนเครื่องขุดเหมืองบิตคอยน์ชุดแรกเมื่อปลายปีที่ผ่านมา จำนวน 100 เครื่อง ตอนนี้สามารถสร้างรายได้กว่า 6 แสนบาทแล้ว และมีแนวโน้มที่ดีต่อเนื่องในปี 2565 นี้ เพราะมีจำนวนเครื่องขุดเพิ่มขึ้น ก็น่าจะช่วยผลักดันรายได้และกำไรมากขึ้นด้วย” นายศุภกิจ กล่าว

นอกจากนี้ บริษัทยังมีความพร้อมในด้านแหล่งเงินทุนรองรับการรุกขยายธุรกิจใหม่ เนื่องจากได้ขออนุมัติวงเงินในการออกหุ้นกู้ในวงเงินล่วงหน้าไว้ที่ระดับ 4,000 ล้านบาท โดยคาดว่าจะมีการแบ่งทยอยออกหุ้นเป็นชุดในมูลค่าที่ไม่สูง ตามวงเงินที่จำเป็นต้องการใช้ในแต่ละโครงการ

*********

- Advertisement -