PROEN มือขึ้น คว้างานใหม่จากบริษัทโทรคมนาคมแห่งชาติ ลงนามสัญญาจ้างงานเปลี่ยนระบบสายเคเบิลอากาศเป็นสายเคเบิลใต้ดิน รองรับการเป็นมหานครแห่งอาเซียน รวม 3 โครงการ มูลค่ากว่า 105 ล้านบาท ส่งผลให้มูลค่า Backlog เพิ่มขึ้นเป็น 815 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ต่อเนื่อง ช่วยผลักดันผลงานปีนี้เติบโตไม่ต่ำกว่า 20% ตามเป้า พร้อมเดินหน้าเข้าประมูลงานใหม่เพิ่มต่อเนื่อง รุกขยายธุรกิจที่มีมาร์จิ้นสูง
นายกิตติพันธ์ ศรีบัวเอี่ยม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โปรเอ็น คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ PROEN เปิดเผยว่า บริษัทได้ลงนามในสัญญาจ้างงานเปลี่ยนระบบสายเคเบิลอากาศเป็นสายเคเบิลใต้ดิน เพื่อรองรับการเป็นมหานครแห่งอาเซียน จำนวน 3 สัญญา มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 105,163,599.66 บาท ซึ่งเป็นการลงนามร่วมกับบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT
สำหรับรายละเอียดสัญญาประกอบด้วย สัญญาจ้างงานเปลี่ยนระบบสายเคเบิลอากาศเป็นสายเคเบิลใต้ดิน เพื่อรองรับการเป็นมหานครแห่งอาเซียนในถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน (ฝั่งซ้ายถนนจอมทอง – ถนนอินทรพิทักษ์) สัญญาจ้างงานเปลี่ยนระบบสายเคเบิลอากาศเป็นสายเคเบิลใต้ดิน ในถนนรามคำแหง (ถนนเพชรบุรี – ถนนศรีนครินทร์) และสัญญาจ้างงานเปลี่ยนระบบสายเคเบิลอากาศเป็นสายเคเบิลใต้ดิน ในถนนเจริญราษฎร์ (ถนนพระราม 3 – ถนนสาทร) สำหรับโครงการดังกล่าวมีกำหนดงานแล้วเสร็จภายในวันที่ 24 กันยายน 2565
“การรับงานในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นว่า บริษัทยังคงมีการทยอยรับงานใหม่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง และช่วยสนับสนุนให้มูลค่างานในมือรอรับรู้รายได้ (backlog) เพิ่มขึ้นแตะระดับ 815 ล้านบาท ซึ่งจะมีรายได้รองรับการเติบโตในระยะ 1-2 ปีข้างหน้า ขณะเดียวกัน ยังคงมีแผนเดินหน้าเข้าประมูลงานในปีนี้อีกหลายโครงการ ทั้งโครงการที่เป็นกลุ่มเทคโนโลยีและงานโครงสร้างพื้นฐาน ตามการเปิดให้เข้าร่วมประมูลในโครงการต่างๆ ของหน่วยงานภาครัฐที่คาดว่าจะมีออกมาอย่างต่อเนื่อง หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ผ่อนคลายในทางที่ดีขึ้น จะเห็นได้จากการที่ภาครัฐและเอกชนเริ่มหันกลับมาทำกิจกรรมทางเศรษฐกิจมากขึ้น ”
ส่วนภาพรวมของการดำเนินธุรกิจในปีนี้ บริษัทตั้งเป้าหมายการเติบโตมากขึ้น และยังคงมุ่งเน้นการเติบโตในกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยี ที่สร้างรายได้ประจำ (Recurring Income) โดยตั้งเป้าการเติบโตไม่น้อยกว่า 20% จากฐานรายได้ปีก่อน และมุ่งเน้นกลุ่มธุรกิจที่มีอัตรากำไรสูง ซึ่งมีปัจจัยสนับสนุนรายได้ ทั้งในส่วนของฐานลูกค้าในกลุ่มธุรกิจ E-Commerce, Game Online ที่มีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และบริการใหม่ในกลุ่มธุรกิจบล็อกเชน (Blockchain)
ขณะเดียวกัน บริษัทมีความแข็งแกร่งทางการเงิน และอยู่ระหว่างการเตรียความพร้อมที่จะเข้าไปลงทุนในธุรกิจใหม่เพิ่มเติม โดยเฉพาะในธุรกิจด้านเทคโนโลยีรูปแบบใหม่ๆ ตลอดจนเข้าไปมีส่วนร่วมในกลุ่มธุรกิจดิจิทัลที่กำลังมีแนวโน้มเติบโตสูง และกำลังก้าวเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของทุกคนมากขึ้นอีกด้วย
******
