นายสุรศักดิ์ เอิบสิริสุข ประธานกรรมการบริหาร และกรรมการผู้จัดการ บริษัท สหมิตรถังแก๊ส จำกัด (มหาชน) หรือ SMPC

SMPC ปักธงยอดขายปี 2565 โต 10-15% หลังมีออเดอร์ถังแก๊สล้นยาวถึงกลางปี ชี้ตลาดอเมริกาเหนือยังขายดี ประกอบกับเดินหน้าขยายตลาดใหม่ต่อเนื่อง ด้านผลงานปี 2564 ท็อปฟอร์มทั้งรายได้ กำไรนิวไฮ กวาดยอดขาย 4,550.35 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.5% และมีกำไรสุทธิ 727.78 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.6% เมื่อเทียบกับปีก่อน ด้านบอร์ดไฟเขียวเสนอผู้ถือหุ้นจ่ายเงินปันผลงวดครึ่งปีหลังอีก 0.47 บาทต่อหุ้น กำหนดจ่ายเงินปันผล 29 เมษายนนี้ 

 

นายสุรศักดิ์ เอิบสิริสุข กรรมการผู้จัดการ บริษัท สหมิตรถังแก๊ส จำกัด (มหาชน) หรือ SMPC เปิดเผยว่า ผลประกอบการของบริษัทงวดปี 2564 มียอดขายรวม 4,550.35 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 576.97 ล้านบาท หรือ 14.5% เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มียอดขาย 3,973.38 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 727.78 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 109.07 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 17.6% จากงวดปี 2563 ที่มีกำไร 618.71 ล้านบาท  สาเหตุที่ยอดขายและกำไรเพิ่มขึ้น เนื่องจากราคาขายเฉลี่ยสูงขึ้นจากการปรับราคาขายเพิ่มขึ้นให้สอดคล้องกับราคาเหล็กที่เพิ่มขึ้นตามราคาตลาดโลก และสัดส่วนการขายถังสามส่วนที่ราคาสูงเพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ตาม ปริมาณการขายปี 2564 ใกล้เคียงกับปีก่อนหน้า เนื่องจากผลกระทบจากปัญหาระวางเรือขาดแคลน ทำให้เป็นอุปสรรคต่อการส่งออก เป็นผลให้สินค้าสำเร็จรูปปลายงวดคงเหลือเพิ่มขึ้น ในขณะที่ความต้องการใช้ถังแก๊สยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่องโดยเฉพาะลูกค้าในแถบทวีปอเมริกาเหนือ นอกจากนี้ ค่าเงินบาทต่อสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐและยูโรที่อ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ SMPC ในฐานะผู้ส่งออกได้รับประโยชน์จากสถานการณ์ดังกล่าว

“ผลประกอบการออกมาเป็นที่น่าประทับใจ นิวไฮทั้งรายได้และกำไรสุทธิ โดยกำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น 123.98 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 12.8% จาก 970.08 ล้านบาท เป็น 1,094.06 ล้านบาท ขณะเดียวกัน มีอัตรากำไรขั้นต้นที่ 24% ใกล้เคียงกับปีก่อนที่ 24.4% เป็นผลจากราคาเหล็กในตลาดโลกเพิ่มขึ้น”

จากผลการดำเนินงานดังกล่าว ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติให้เสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้นพิจารณาอนุมัติจ่ายเงินปันผล สำหรับผลการดำเนินงานงวดปี 2564 ให้แก่ผู้ถือหุ้น ในอัตราหุ้นละ 0.82  บาท ซึ่งได้จ่ายปันผลระหว่างกาลไปแล้วสำหรับงวด 1 มกราคม – 30 มิถุนายน 2564 ในอัตราหุ้นละ 0.35 บาท เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2564  ยังเหลือเงินปันผลจ่ายสำหรับงวด 1 กรกฎาคม – 31 ธันวาคม 2564 ในอัตราหุ้นละ 0.47 บาท หรือคิดเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้นไม่เกิน 252 ล้านบาท กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล (Record date) วันที่ 8 เมษายน 2565  และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 29 เมษายน 2565

สำหรับแผนธุรกิจในปี 2565 บริษัทคาดยอดขายจะเติบโต 10-15% จากปี 2564 โดยตั้งเป้าขายถังแก๊สไว้ที่ 8 ล้านใบ ขณะเดียวกัน ปีนี้จะมีการขยายตลาดใหม่ๆ เพิ่มเติม เช่น ในทวีปอเมริกาใต้ ซึ่งจะมีการเปิดประมูลเร็วๆ นี้ โดย SMPC มีความพร้อมในการเข้าประมูลงานดังกล่าว  นอกจากนี้ ยังมีประเทศในแถบแอฟริกาที่ยังมีโอกาสการเติบโตอีกมาก ขณะที่ตลาด CLMV ก็มียอดขายดีขึ้นเช่นกัน และในปีนี้ตลาดตะวันออกกลางเป็นตลาดที่น่าสนใจ จากการที่รัฐบาลไทยและซาอุดิอารเบียจะมีการจับมือ Business Matching ซึ่งเป็นผลดีต่อ SMPC ที่จะรุกตลาดตะวันออกกลางมากขึ้น และในช่วงไตรมาส 1/65 บริษัทได้งานประมูลถังในประเทศ เข้ามาเสริมมูลค่างานในมือ (Backlog) ให้เพิ่มมากขึ้น

“ภาพรวมความต้องการถังแก๊สเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทั้งในและต่างประเทศ อีกทั้งสถานการณ์โควิดสายพันธุ์โอมิครอนยังคงระบาดอยู่ในปัจจุบัน ทำให้ประชาชนอยู่บ้านมากขึ้น หรือการทำงานจากบ้าน (Work from Home) จึงมีการทำอาหารรับประทานเอง ส่งผลให้ออเดอร์ถังแก๊สยังคงดีต่อเนื่อง นอกจากนี้ บริษัทได้มีการขยายกำลังการผลิตถังแก๊สขนาดใหญ่ และถังสามส่วนเพิ่มมากขึ้น พร้อมรองรับความต้องการของตลาด ส่วนถังแก๊สปกติกำลังการผลิตเดินเครื่องเต็มกำลังจากออเดอร์ที่เข้ามาต่อเนื่อง จึงเชื่อว่า ปี 2565 จะยังมียอดขายที่เติบโตได้กว่า 10-15% ส่วนเรื่องการขนส่งและราคาเหล็กก็เป็นเรื่องที่ต้องติดตามและบริหารจัดการอย่างใกล้ชิด ซึ่งบริษัทมีแผนบริหารและการรับมือแล้ว เพื่อรักษาอัตรากำไรให้อยู่ในระดับที่ดีต่อเนื่อง” นายสุรศักดิ์ กล่าว

*******

- Advertisement -