สรุปภาวะตลาด
วันศุกร์ท่ีผ่านมา ดัชนีปรับตัวลงในช่วงเช้าตามทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศ ก่อนท่ีดัชนีจะฟื้นตัวเคลื่อนไหวในกรอบแคบ หุ้นกลุ่มขนส่ง ไอซีที และค้าปลีกปรับตัวข้ึนได้ดี เช่น AOT, BTS, BEM และ TRUE +10.68%, DTAC +8.47% ส่วนหุ้นกลุ่มธนาคารและพลังงาน กดดันดัชนี นักลงทุนติดตาม รมว.ต่างประเทศรัสเซีย-สหรัฐ เตรียมเจรจาปมยูเครนในสัปดาห์หน้า ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิด ตลาดท่ี 1,713.20 จุด +1.62 จุด +0.09% มูลค่าการซ้ือขาย 95,680 ลบ.ต่างชาติ -1,777.47 ลบ. TFEX +436 สัญญา ตราสารหน้ี +1,652.82 ลบ.
ปัจจัยบวก
+ สภาพัฒน์ เผย GDP ปี 64 โต 1.6% ดีกว่าคาดการณ์เดิมท่ีระดับ 1.2% GDP 4Q64 ขยายตัว 1.9%
+ WHO ออกคำแนะนำใหม่สำหรับประเทศที่กำลังเผชิญกับยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ท่ีพุ่งสูงขึ้น ลดระยะเวลากักตัว ลงเหลือ 14 วันในบางกรณี ซึ่งจะเป็นประโยชน์สำหรับประเทศท่ีบริการด้านสาธารณสุขมีแรงกดดันหนัก
+ หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัลรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า คณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐ (FDA) กำลังเล็งท่ีจะอนุมัติการฉีดวัคซีนโควิด-19 เข็มท่ี 4 ในฤดูใบไม้ผลิปีน้ี
+ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินว่า หลังมาตรการส่งเสริมรถยนต์ไฟฟ้าจะทำให้จูงใจคนซื้อรถอีวีมากข้ึน และทำให้ยอดขายรถประเภทบีอีวีในปีนี้ไม่ต่ำกว่า 4,500-5,000 คัน เทียบกับกรณีไม่มีมาตรการนี้ที่อาจมียอดขายเพียง 3,500 คัน
+ ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์เปิดเผยว่าในปี 2565 ภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะมีโครงการที่อยู่อาศัยกรุงเทพฯ- ปริมณฑล เปิดตัวใหม่เพิ่มข้ึน 1 เท่าตัว หรือ 81,226 ยูนิต คิดเป็นมูลค่า 4.28 แสนล้านบาท ใกล้เคียงค่าเฉลี่ย ก่อนเกิดสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19
ปัจจัยลบ
– ศบค.รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด- 19 ในประเทศวันน้ี พบผู้ติดเชื้อรายใหม่รวม 18,883 ราย ATK 15,010 ราย มีผู้เสียชีวิต 32 ราย รักษาหาย 14,914 ราย
– ดัชนีดาวโจนส์ปิด ลดลง 232.85 จุด -0.68% ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา DJIA ลดลง 1.9%นลท.เทขายหุ้นออกมาก่อนวันหยุดยาวของสหรัฐ วิตกสถานการณ์ที่ตึงเครียดมากข้ึนในยูเครน ขณะที่สหรัฐเตือนว่ามีความเป็นไปได้ที่รัสเซียจะบุกโจมตียูเครน
– ราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 69 เซนต์ -0.8% ปิดท่ี 91.07 ดอลลาร์/บาร์เรล และลดลง 2.2% ในรอบสัปดาห์นี้ ถูกกดดันจากความคืบหน้าในการเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน ซึ่งอาจปูทางให้อิหร่านกลับมาส่งออกน้ำมันสู่ ตลาดโลกอีกครั้ง
– รัฐบาลฮ่องกงเปิดเผยว่า จำนวนผู้เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลในฮ่องกงพุ่งแตะ 90% และศูนย์กักตัวถึงขีดจำกัดแล้ว เนื่องจากเผชิญปัญหาในการควบคุมจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ใหม่ที่เพิ่มขึ้นเป็นประวัติการณ์ จากการใช้ กลยุทธ์กลยุทธ์ Zero-Covid ของจีนแผ่นดินใหญ่
– คามาลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐ ยืนยันว่าจะพยายามใช้การทูตกับรัสเซีย แต่พร้อมคว่ำบาตรหากบุก ยูเครน
– กองกำลังเพื่อการป้องปรามเชิงยุทธศาสตร์ของรัสเซียดำเนินการซ้อมรบครั้งใหญ่ ภายใต้การนำของปธน. วลาดิเมียร์ ปูติน หลังวิกฤตการณ์ยูเครนรุนแรงย่ิงขึ้น
แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาสปรับตัวลงตามทิศทางตลาดต่างประเทศ โดยยังคงวิตกกังวลเก่ียวกับสถานการณ์ตึงเครียด ในยูเครน หลังสหรัฐเตือนว่ามีความเป็นไปได้ที่รัสเซียจะบุกโจมตียูเครน ประกอบกับตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ราย ใหม่ในประเทศยังอยู่ในระดับสูง มองกรอบดัชนีในวันน้ีท่ี 1,700-1,720 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
- ชุดตรวจ ATK : SMD WINMED TM
- หุ้น Value Play : KBANK BBL SCB EA GULF ADVANC TRUE DTAC
- หุ้นได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันปรับตัวข้ึน : PTTEP PTT TOP PTTGC
- มาตรการอุดหนุน EV : EA NEX BYD GPSC NDR
- FTSE Global Equity Index Series (ใช้ราคาปิด 18 มี.ค.65) : Large Cap : – , Mid Cap : – , Small Cap หุ้นเข้า : TIPH JTS SINGER หุ้นออก: UV WHART , Micro Cap หุ้นเข้า : 2S, ACC, AQ, APCO, B, BIG, CEN, CTW, CMR, CV, CGH, ECL, EE, FORTH, GJS, IT, MILL, MTI, METCO, NTV, PAP, PTL, SUC, CFRESH, SF, SY, BFIT, SCM, TOG, TVI, TRC, UBE, UVAN, UV, VNG, WICE หุ้นออก : BYD, TIPH, MK, NEX, OISHI, QHHR, SABUY, SINGER, SYNEX, XPG
หุ้นรายงานพิเศษ
TIDLOR (ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 46.50 บาท) Consensus คาดกาไร 4Q64 +26%%yoy -4%QoQ
- คาดวันนี้จะส่งงบปีงวด 4Q64 เป็นช่วงไฮซีซั่นหนุนสินเช่ือเติบโตดี NIM 4Q64 ดีกว่า 3Q64 ขณะที่คชจ.ในการดำเนินงานเพิ่มสูงข้ึนตามฤดูกาล ทำให้ฝ่ายวิจัยคาดทิศทางผลประกอบการ 4Q64 ทรงตัว QoQ เติบโต YoY เมื่อเทียบกับเป้าหมายการเติบโตของสินเช่ือในปี 64 15-20% ทำได้ดีเกือบถึงกรอบบน ขณะท่ีรายได้ขายประกันเติบโตดีในทิศทางเดียวกันท่ีระดับ 25-30% หนุนผลประกอบการทั้งปีเติบโต Bloomberg Consensus คาดกาไร 4Q64 เฉลี่ย 782 ล้านบาท +26%%YoY -4%QoQ คาดกำไรปี 64 เฉลี่ย 3,155 ล้านบาท +31% และเติบโตต่อเนื่อง 26%YoY เป็น 3,977 ล้านบาท ในปี 65 ทั้งนี้ 9M64 มีกำไรสุทธิ 2,374 ล้านบาท +32%YoY
- ความเห็น ฝ่ายวิจัยมีมุมมองบวกต่อศักยภาพในการเติบโตต่อเนื่อง ท้ังรายได้ค่านายหน้าจากการรับประกันและการปล่อยสินเช่ือ รวมทั้งผลการดำเนินงานท่ีมีแนวโน้มเติบโตดี และยังมีโอกาสเติบโตแบบ inorganic ในอนาคตจากการท่ีบริษัทจัดตั้ง Investment Committee เพื่อพิจารณาการลงทุนในลักษณะ M&A ในธุรกิจที่เก่ียวเนื่องกัน ราคาหุ้น -4.8%YTD และยังต่ำราคา IPO 36.50 บาท แนะนำซื้อ
หุ้นมีข่าว
(+) STGT (Bloomberg Consensus 28.00 บาท) บอร์ดไฟเขียวทุ่ม 3.6 พันล้านบาท ซื้อหุ้นคืน จัดหนักปันผลงวดไตรมาส 4/2564 ที่ 0.65 บาทต่อหุ้น ขณะที่ผลการดำเนินงานปี 2564 ทำนิวไฮมีกำไร 2.37 หมื่นล้านบาท และมีรายได้ 4.75 หมื่นล้านบาท จากดีมานด์ถุงมือยางและราคาขายที่เพิ่มขึ้น (ที่มา ทันหุ้น)
(+) TRUE-DTAC (Bloomberg Consensus 5.09 , 48.50 บาท) บอร์ด TRUE-DTAC ไฟเขียวควบ บริษัท พร้อมแลกหุ้นบริษัทใหม่ ในอัตรา 1 หุ้นเดิม TRUE ต่อ 0.60018 หุ้นบริษัทใหม่ และ 1 หุ้นเดิม DTAC ต่อ 6.13444 หุ้นบริษัทใหม่ โดยใช้โมเดล CAT ควบรวม TOT เป็น NT ชงผู้ถือหุ้นอนุมัติวันที่ 4 เม.ย. 65 คาดควบบริษัทเสร็จสิ้นภายในปี 65 (ท่ีมา ข่าวหุ้น)
(+) DITTO (Bloomberg Consensus – บาท) บอสใหญ่ DITTO “ฐกร รัตนกมลพร” แย้มแผนศึกษาธุรกิจคาร์บอนเครดิต คาดชัดเจนเร็วๆ นี้ พร้อมส่งซิกธุรกิจไตรมาสแรกสดใส หลังบริษัทลูกคว้างานรัฐหลายโครงการมูลค่า 1.02 พันล้านบาท ตั้งเป้ารายได้ปี 2565 โตต่อ 15-20% แย้มงบ ดิจิทัลจ่อออกอีก 200-300 ล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)
(+) TQR (Bloomberg Consensus – บาท) ตามเทรนด์โลก คลอดประกันภัยไซเบอร์ พบดีมานด์ จากองค์กรใหญ่เพียบ บอสใหญ่ “ชนะพันธุ์ พิริยะพันธ์ุ” ส่องทิศทางปีเสือผลงานโตต่อ เล็งคลอดโปรดักต์ใหม่ตอบโจทย์ลูกค้า พร้อมเผยแผนควบรวมใกล้จบไตรมาส 1/2565 (ท่ีมา ทันหุ้น)
ปัจจัยจับตาในประเทศไทย
- 21 ก.พ. สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) แถลงตัวเลข GDP 4Q64
- สัปดาห์ที่ 3 กระทรวงพาณิชย์แถลงตัวเลขการส่งออก-นำเข้า
- 22 ก.พ.สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) แถลงยอดการผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และชิ้นส่วนยานยนต์
- สัปดาห์ที่ 4 สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) แถลงดัชนีอุตสาหกรรม สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค, ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค
- 28 ก.พ. กำหนดวันสุดท้าย บจ. ส่งงบการเงินปี 64 ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย
ปัจจัยจับตาต่างประเทศ
- 21 ก.พ.ธนาคารกลางจีนกำหนดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ LPR ดัชนีราคาบ้านเดือน ม.ค.
อียูรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต-ภาคบริการขั้นต้นเดือน ก.พ.จากมาร์กิต
- 22 ก.พ. สหรัฐรายงานดัชนี PMI ภาคการผลิต – ภาคบริการขั้นต้นเดือน ก.พ.
- 23 ก.พ. อียูรายงานอัตราเงินเฟ้อเดือน ม.ค.
- 24 ก.พ.สหรัฐเปิดเผยจำนว ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ที่ GDP 4Q64 (ประมาณการครั้งที่ 2) ดัชนีกิจกรรมเศรษฐกิจท่ัวประเทศเดือน ม.ค. ยอดขายบ้านใหม่เดือนม.ค.และสต็อกน้ำมัน
- 2-3 มี. ค. นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะแถลงนโยบายการเงินรายครึ่งปีต่อคณะกรรมการด้านบริการการเงินของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐและวุฒิสภา
- 15-16 มี.ค. กำหนดประชุม FED