บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):
Action
BUY
TP upside (downside) 16.5%
Close Feb 18, 2022 Price (THB) 17.60
12M Target (THB) 20.50
Previous Target (THB) –
What’s new?
- คาดกำไรปกติ 4Q64 ที่ 174 ลบ. (+6.5% QoQ, +206.7% YoY) ทำจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง
- คาดกำไรปกติปี 2565 เดินหน้าทำ All time high ต่อเนื่อง จากธุรกิจขนส่งข้ามพรมแดนที่ออกบริการใหม่ Road-Rail Service และปริมาณการขนส่งทั้ง Sea freight และ Air freight คาดเติบโตต่อจากการขยายสาขาไปที่ประเทศมาเลเซีย และเมือง Ningbo ประเทศจีน
Our View
- ราคาหุ้นปัจจุบัน ซื้อ-ขาย บน PER2565 เพียง 19.4x น้อยกว่าเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมที่ 22.9x อย่างมีนัยสำคัญ
- เริ่มต้นคำแนะนำ “ซื้อ” บนราคาเหมาะสม ณ สิ้น ปี 2565 ที่ 20.50 บาทต่อหุ้น อิง PER2565 ที่ 22.5x เทียบเท่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี ของกลุ่มอุตสาหกรรม (III, JWD, LEO และ SONIC)
WICE LOGISTICS คาดกำไรปี 65 โตต่อ ขณะที่ราคาถูกกว่ากลุ่ม
คาดกำไรปกติ 4Q64 ทำจุดสูงสุดต่อเนื่องจากไตรมาส 3
เราคาดกำไรปกติใน 4Q64 ที่ 174 ลบ. (+6.5% QoQ, +206.7% YoY) จาก 1) คาดรายได้ในส่วน Sea Freight เติบโต 5.0% QoQ และ 517.1% YoY เป็นผลมาจากปริมาณการขนส่งที่เพิ่มขึ้น จากการเข้าสู่ช่วง High season และค่าระวางตู้คอนเทนเนอร์ที่ปรับตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ (อ้างอิง Shanghai Container Freight Index เฉลี่ยใน 4Q64 ปรับตัวขึ้นถึง 137.9% YoY) และ 2) รายได้จากการขนส่งข้ามพรมแดนคาด เติบโต 5.3% QoQ และ 50.6% YoY จากจำนวนเที่ยวขนส่งที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และคาดว่าจะเป็นจุดสูงสุดของปีใน 4Q64 ทั้งนี้หากกำไรปกติใน 4Q64 เป็นไปตามที่เราคาด ทำให้กำไรปกติปี 2564 อยู่ที่ 531 ลบ. (+162.7% YoY) และสูงกว่า Bloomberg consensus 7.1%
คาดกำไรปกติปี 2565 ทำ New high ต่อเนื่อง
เราคาดกําไรปกติปี 2565 591 ลบ. (+11.4% YoY) หลักๆ มาจาก 1) ธุรกิจขนส่งข้ามพรมแดน ซึ่งบริษัทได้ออกบริการใหม่คือ Road-Rail Service ให้บริการขนส่งบนเส้นทาง ไทย ลาว และจีน นอกจากนี้ บริษัทยังตั้งเป้าขยายฐานลูกค้าในบริการขนส่งข้ามพรมแดนแบบ Less than Truck Load (LTL) (ซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้นสูงกว่าแบบ Full Truck Load (FTL) 2) ธุรกิจ Sea freight และ Air freight คาดปริมาณการขนส่งจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในปี 2565 เนื่องจากบริษัทมีการขยายสาขาไปที่เมือง Ningbo ประเทศจีน และเมือง Johor Bahru, Penang ในประเทศมาเลเซีย ตั้งแต่ 2H64 คาดช่วยหนุนปริมาณการขนส่งทั้งทางทะเลและทางอากาศเต็มปีในปีนี้ และ 3) แนวโน้มค่าระวางตู้คอนเทนเนอร์ (ซึ่งเป็นรายได้หลักของบริษัท) เราคาดว่าจะอยู่ในระดับสูงจนถึง 1H65 เป็นอย่างน้อย เนื่องจากปัญหาความแออัดของท่าเรือทั้งในสหรัฐอเมริกาและยุโรปยังไม่มีท่าทีจะคลี่คลายในระยะสั้น อ้างอิง Terminal Congestion Index จาก Sea-Intelligence
ทั้งนี้ เราคาดผลประกอบการปี 2565 ยังมี Upside risk จาก 1) ธุรกิจบริหารจัดการซัพพลายเชน บริษัทมีแผนเพิ่มคลังสินค้าอีก 2 แห่ง ในทำเลบางนา-ตราด กรุงเทพฯ และอ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา พื้นที่เช่ารวม 20,000 ตร.ม. คาดว่าจะเปิดให้บริการและเริ่มรับรู้รายได้ครึ่งหนึ่งในช่วง 2Q65 และอีกครึ่งหนึ่งใน 3Q65 ทำให้ในปีนี้บริษัทจะมีคลังสินค้าให้เช่าทั้งหมด 44,000 ตร.ม. ซึ่งเรายังไม่ได้รวมไว้ในประมาณการ เนื่องจากรอความชัดเจนเกี่ยวกับอัตราการเช่าพื้นที่ ซึ่งปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างเจรจากับลูกค้า และ 2) บริษัทวางงบลงทุนไว้สำหรับการทำ M&A ในปี 2565 ไว้ที่ 200 ล้านบาท คาดจะช่วยหนุนผลประกอบการ ปี 2565-66
เริ่มต้นคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย ณ สิ้นปี 2565 20.50 บาท/หุ้น
เราคาดการณ์กำไรปกติปี 2564 และ 2565 ที่ 531 ลบ. (+162.7% YoY) และ 591 ลบ. (+11.4% YoY) ตามลำดับ เริ่มต้นคำแนะนำ “ซื้อ” อิง PER2565 ที่ 22.5x เทียบเท่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี ของกลุ่ม ได้ราคาเป้าหมาย ณ สิ้นปี 2565 ที่ 20.50 บาท/หุ้น มี Upside 16.5% พร้อมคาดเงินปันผลต่อหุ้นสำหรับงวด ปี 2564-65 ที่ 0.37 บาท และ 0.41 บาท คิดเป็นผลตอบแทน 2.1% และ 2.3% ตามลำดับ