เต็มไปด้วยปัจจัยกดดัน คงแนะ Wait & See เช่นเดิม ระยะสั้นเลือก PTTEP

วานนี้สภาพัฒน์รายงาน GDP 4Q21 ขยายตัว 1.9%YoY , 1.8%QoQ ดีกว่าตลาดคาดที่ 0.7%YoY ใส้ในได้แรงหนุนจากการบริโภคภาคเอกชน +0.3%YoY การอุปโภคภาครัฐ (+8.1%YoY) มูลค่าส่งออก (+21%YoY) ส่วนแนวโน้มปี 22 ทางสภาพัฒน์คาดเศรษฐกิจขยายตัวได้ 3.5 – 4.5% (เฉลี่ย 4%YoY) โดยจะได้แรงหนุนจากอุปสงค์ภายในประเทศที่จะฟื้นตัว รวมถึงการท่องเที่ยวที่จะค่อยๆดีขึ้นตามสถานการณ์ COVID-19 ที่คลี่คลาย นอกเหนือจากนี้ยังคาดว่าจะได้แรงหนุนจากการลงทุนภาคเอกชนและภาครัฐ โดยรวมก็ถือว่าใกล้เคียงกับที่เราประเมินไว้ว่าปี 22 กลุ่มที่อิงในประเทศจะเป็นกลุ่มที่น่าสนใจ อาทิ ค้าปลีก (BJC CRC CPALL DOHOME GLOBAL) ธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK SCB) ขนส่ง (BTS BEM) อย่างไรก็ตาม ที่ต้องติดตามคงเป็นสถานการณ์ COVID-19 ในประเทศไทย หลังจากการติดเชื้อต่อวันเริ่มเร่งตัวขึ้นอีกครั้ง ข้อมูลการติดเชื้อ ณ วันที่ 22 ก.พ. 1.87 หมื่นรายและ ATK 1.5 หมื่นราย เมื่อรวมกันจะอยู่ที่ราวๆ 3.37 หมื่นราย ถือเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่การเสียชีวิตก็เริ่มเร่งตัวขึ้นมา ส่งผลให้วานนี้สาธารณสุขประกาศยกระดับเตือนภัย COVID-19 สู่ระดับ 4 ทั่วประเทศจากระดับ 3 (ระดับ 4 ได้แก่ งดรับประทานอาหารร่วมกัน งดเข้าสถานที่เสี่ยง WFH 50-80%)ทั้งนี้ระยะอันใกล้ติดตามประชุมศบค.ชุดใหญ่ในวันที่ 23 ก.พ. เบื้องต้นมีการเปิดเผยออกมาว่าจะไม่มีการ Lock Down ทำให้ Downside ของเศรษฐกิจอาจไม่สูงมากนัก แต่ก็ควรติดตามผู้ติดเชื้อควบคู่ไปด้วย เพราะหากหลังจากนี้เร่งตัวพร้อมกับจำนวนเสียชีวิตที่เร่งตัวขึ้น ก็มีความเป็นไปได้ที่รัฐบาลจะเพิ่มความเข้มงวดของมาตรการควบคุม เปิด Downside ของเศรษฐกิจและกำไรบริษัทจดทะเบียน ขณะที่ด้านต่างประเทศความตึงเครียดระหว่างรัสเซียยูเครนส่อแววรุนแรงมากขึ้น หลังจากปูตินได้ประกาศรับรองสถานะการเป็นรัฐอิสระของสาธารณรัฐัโดเนสต์และลูฮันก์ หรืออีกนัยยะคือการประกาศเป็นศัตรูกับยูเครนนเต็มรูปแบบ พร้อมประกาศเพิ่มเติมด้านทองคำเช้านี้ยังปรับตัวขึ้นต่อพร้อมกับ DowJones Future ที่ปรับฐานลง 1.1% และ Nikkei เช้านี้ก็ลบอยู่ 1.6% เมื่อผสานกับสถานการณ์ COVID-19 ในประเทศไทยที่ดูน่ากังวล จึงประเมิน SET เสี่ยงปรับฐานในกรอบ 1680–1691 เชิงกลยุทธ์ตลาดเริ่มปรับฐาน สอดคล้องกับที่เรามองว่าโซน 1,700 ไม่ใช่ จุดน่าลงทุน ดังนั้น แนะ Wait See เช่นเดิม ระยะสั้นแนะ Trading ในกลุ่มน้ำมัน (PTTEP) โรงกลั่น (BCP TOP)

PTTEP (ซื้อ /ราคาเป้าหมาย 146 บาท) ภาพรวมกำไรปี 2022 เป็นบวก เพราะคาดว่ายอดขายจะโตขึ้น 12%YoY เป็น 467kBOED และราคาขายเฉลี่ยคาดโต 5% เป็น US$46/BOE

BCP (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 35 บาท) คาดกำไร 1Q22 จะโตต่อเนื่องจากธุรกิจโรงกลั่นที่มีผลงานดีขึ้น หนุนจากค่าการกลั่นที่สูงขึ้น ในด้านกำไรสุทธิปี 2022 อาจถูกฉุดลงจากคาดการณ์ขาดทุนสต็อกน้ำมัน จากประมาณการว่าราคาน้ำมันจะลดลง แต่คาดว่ากำไรปกติจะโตต่อเนื่องจากธุรกิจโรงกลั่น โรงไฟฟ้า และค้าปลีกน้ำมันที่ปรับดีขึ้น

- Advertisement -