บล.เคจีไอ (ประเทศไทย):
Supalai (SPALI.BK/SPALI TB)*ผลประกอบการ 4Q64: ผลการดำเนินงานทำสถิติสูงสุดใหม่
Event
ผลประกอบการ 4Q64
Impact
กำไรสุทธิดีกว่าที่คาด 19%
SPALI รายงานกำไรสุทธิใน 4Q64 อยู่ที่ 2.9 พันล้านบาท (+54% YoY, +67 QoQ) ดีกว่าประมาณการของเรา 19% เนื่องจาก EBIT margin สูงกว่าที่คาดไว้ 1.ppts โดยปัจจัยสำคัญที่หนุนโมเมนตั้มกำไร ได้แก่ ยอดโอนโครงการที่อยู่อาศัยที่ทำสถิติสูงสุดใหม่ และอัตรากำไรขั้นต้นที่ทรงตัว QoQ อยู่ในระดังสูงที่ 40.4% นอกจากนี้ กำไรสุทธิในปี 2564 ยังทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 7.1 พันล้านบาท (+66% YoY)
ยอดโอนโครงการที่อยู่อาศัยอยู่ที่ 1.09 หมื่นล้านบาท (+36 YoY, +48% QoQ) แบ่งเป็น i) โครงการแนวราบ 5.1 พันล้านบาท (+10% YoY, +48% QoQ) และ ii) โครงการคอนโดมิเนียม 5.8 พันล้านบาท (+74% YoY, +47% QoQ) ผลักดันจากจากยอดโอนโครงการ Supalai Veranda สถานีภาษีเจริญ (ขายได้แล้ว 82% มูลค่าโครงการรวม 4.5 พันล้านบาท)
ปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี 2565/2566F ขึ้นอีก 15%/11%
เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี 2565/2566F ขึ้นจากเดิมอีก 15%/11% เพื่อสะท้อนถึงอัตรากำไรที่ดีเกินคาด และแผนเปิดโครงการใหม่เชิงรุกในปี 2565F
เตรียมขายหุ้นจากโครงการซื้อหุ้นคืนกลับเข้าไปในตลาด
ในปี 2563 SPALI ได้ดำเนินโครงการซื้อหุ้นคืน 194.9 ล้านหุ้น (9.1% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้ว) โดยมีต้นทุนเฉลี่ยอยู่ที่ราว 15.40 บาท/หุ้น สำหรับในระยะต่อไป บริษัทมีแผนจะขายหุ้นดังกล่าวทั้งหมดกลับเข้าไปในตลาดระหว่างวันที่ 8 มีนาคม 2555 ถึง 9 กรกฎาคม 2566 ทั้งนี้ แม้ว่าจะมีหุ้นรอขายเป็นจำนวนมาก แต่เนื่องจากระยะเวลาในการขายหุ้นกลับเข้าไปในตลาดที่นาน (ราว 15 เดือน) นานจึงน่าจะช่วยจำกัดความเสี่ยงด้าน downside ของราคาหุ้นได้
Valuation & Action
เนื่องจากราคาหุ้นยังถือว่าถูก โดยทั้ง forward P/E และ P/BV อยู่ต่ำกว่า 1 S.D. ทั้งคู่ เราจึงยังคงคำแนะนำซื้อ และมีการปรับเพิ่มราคาเป้าหมายใหม่เป็น 29.50 บาท (จากเดิม 27.50 บาท) อิงจาก P/E ปี 2565F ที่ 8.8x (ค่าเฉลี่ยระยะยาว +0.5 S.D.) ทั้งนี้ SPALI ประกาศจ่ายเงินปันผล 0.75 บาท/หุ้น (สำหรับงวด 2H64 กำหนดขึ้น XD วันที่ 27 พฤษภาคม) คิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ 3.3%
Risks
ภาวะเศรษฐกิจอ่อนแอลง และความล่าช้าของงานก่อสร้าง