สรุปภาวะตลาด

วันพุธที่ผ่านมา ดัชนีปรับตัวในแดนบวกสลับลบ มีแรงซื้อเข้ามามากในหุ้นกลุ่มธนาคาร และหุ้นที่ประกาศผลการดำเนินงานออกมาดี ส่วนหุ้นท่ีเกี่ยวข้องกับการขุดคริปโตฯ มีแรงขายออกมามาก เช่น JTS, ZIGA, UPA ปัจจัยกดดันหลักยังมาจากความกังวลสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครน ที่ตึงเครียดมากข้ึน ประกอบกับจานวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศอยู่ในระดับสูง ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,696.45 จุด +5.33 จุด +0.32% มูลค่าการซื้อขาย 87,668 ลบ.ต่างชาติ +1,571.88 ลบ. TFEX +6,542 สัญญา ตราสารหน้ี +2,611.71 ลบ.

ปัจจัยบวก

+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มข้ึน 19 เซนต์ +0.2% ปิดที่ 92.10 ดอลลาร์/บาร์เรล ได้แรงหนุนจากคาดการณ์ ปริมาณน้ำมันดิบในตลาดโลกจะได้รับผลกระทบจากการคว่ำบาตรรัสเซียและแนวโน้มท่ีรัสเซียจะบุกโจมตียูเครน

+ ปธน.วลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซียกล่าวว่ารัสเซียเปิดกว้างสำหรับการเจรจาที่จริงใจและตรงไปตรงมาเพื่อแก้ไขปัญหาท่ีซับซ้อน แต่จะไม่ต่อรองผลประโยชน์ความมั่นคงรัสเซีย

+ บริษัท มีเดีย อินเทลลิเจนซ์จากัด (MI) ประเมินภาพรวมการใช้เงินโฆษณาปี 65 มีมูลค่า 84,250 ล้านล้านบาท พลิกเติบโต 12% จาก 74,713 ล้านบาท ติดลบ 0.6% ในปี 64 เนื่องจากคนไทยเริ่มมีพฤติกรรมออกมาทำกิจกรรมการตลาดอย่างคึกคัก

+ไทยหลุดแบล็กลิสต์ผู้แทนการค้าสหรัฐอเมริกา (USTR) เผยแพร่รายชื่อตลาดท่ีมีการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา สูงท่ัวโลกประจำปี 2564 ไม่มีย่านการค้าและตลาดออนไลน์ของไทยเป็นครั้งแรก

ปัจจัยลบ

– ศบค.รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้พบผู้ติดเชื้อรายใหม่รวม 23,557 ราย ATK 22,240 ราย มีผู้เสียชีวิต 38 ราย รักษาหาย 16,131ราย สธ. พบแนวโน้มติดเชื้อโอมิครอน BA.2 ใน ไทยสูงข้ึน แต่อาการไม่รุนแรง

– ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 464.85 จุด -1.38% ถูกกดดันจากวิกฤตการณ์รัสเซีย-ยูเครน ขณะที่ยูเครนประกาศภาวะฉุกเฉินแล้วและสหรัฐระบุว่ามีแนวโน้มที่รัสเซียจะบุกโจมตียูเครนในไม่ช้านี้

– MSCI ส่งสัญญาณว่าจะดำเนินการตามขั้นตอนต่างๆ เช่น ระงับการซื้อขายดัชนีหุ้นต่างๆ ของรัสเซีย หากการคว่ำบาตรคร้ังใหม่ส่งผลกระทบต่อการลงทุนของนักลงทุนส่วนใหญ่ทั่วโลก

– รมว.ต่างประเทศสหรัฐยกเลิกการประชุมกับรมว. ต่างประเทศรัสเซียในวันที่ 24 ก.พ. หลังจากรัสเซียรับรองเอกราชแก่แคว้นโดเนตสก์และลูฮันสก์ ซึ่งตั้งอยู่ในภูมิภาคดอนบาสของยูเครน

– สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า สหรัฐ สหภาพยุโรป เยอรมนี และอังกฤษประกาศมาตรการคว่ำบาตรเพื่อลงโทษด้านการเงินกับรัสเซียแล้ว ขณะท่ีมีความวิตกว่ารัสเซียจะรุกรานยูเครนเพิ่มข้ึนอีก

– กระทรวงพาณิชย์เปิดเผยว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปสูงขึ้น 3.23% (YoY) ในเดือนม.ค. 2565 เนื่องจากราคา พลังงานเพิ่มสูง ส่งผลต่อราคาสินค้าอุปโภคบริโภค และอัตราเงินเฟ้อ

แนวโน้มตลาดวันนี้

คาดดัชนีในวันน้ีมีโอกาสปรับตัวลงตามทิศทางตลาดต่างประเทศ โดยยังคงถูกกดดันจากวิกฤตการณ์รัสเซีย-ยูเครน ประกอบกับจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศรายใหม่ทำจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง มองกรอบการเคลื่อนไหวในวันน้ีที่ 1,685-1,700 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

  • ชุดตรวจ ATK : SMD WINMED TM
  • หุ้น Value Play : KBANK BBL SCB EA GULF ADVANC TRUE DTAC
  • หุ้นได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น : PTTEP PTT TOP PTTGC
  • มาตรการอุดหนุน EV : EA NEX BYD GPSC NDR
  • FTSE Global Equity Index Series (ใช้ราคาปิด 18 มี.ค.65) : Large Cap : – , Mid Cap : – , Small Cap หุ้นเข้า : TIPH JTS SINGER หุ้นออก: UV WHART , Micro Cap หุ้นเข้า : 2S, ACC, AQ, APCO, B, BIG, CEN, CTW, CMR, CV, CGH, ECL, EE, FORTH, GJS, IT, MILL, MTI, METCO, NTV, PAP, PTL, SUC, CFRESH, SF, SKY, BFIT, SCM, TOG, TVI, TRC, UBE, UVAN, UV, VNG, WICE หุ้นออก : BYD, TIPH, MK, NEX, OISHI, QHHR, SABUY, SINGER, SYNEX, XPG

หุ้นรายงานพิเศษ

TWPC (Bloomberg Consensus 6.70) <ซื้อ> คาดปี 65 เติบโตต่อเนื่อง

  • รายงานกำไร 4Q64 ท่ี 81 ลบ. เติบโต 8 เท่าYoY และเติบโต 108%QoQ โดยได้แรงหนุนจากคำสั่งซื้อที่แข็งแกร่ง จากท้ังในและต่างประเทศ หนุนให้รายได้เติบโตสู่ 2.49 พันลบ. เติบโต 19%YoY จากทุกธุรกิจ ขณะท่ีอัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวขึ้นจากปีก่อนที่ 15% สู่ 18% เนื่องจากราคาส่งออกมันสำปะหลังปรับตัวข้ึน และค่าเงินบาททรงตัวในระดับสูง 480$/Ton และ 33.62 บาท/$ เพิ่มข้ึน 3%YTD และ 11.5%YTD ตามลำดับ และรายงานกำไรปี 64 ท่ี 323 ลบ. เติบโต 7.5 เท่าจากปีก่อน
  • ผบห. ตั้งเป้าการเติบโตของรายได้ Double digit ในปี 65 และคงเป้า GPM ท่ี 20% เท่ากับปี 64 นอกจากนี้ ยังเตรียมรับรู้รายได้จากการขายเม็ดไบโอพลาสติกใน 2Q65 เพิ่มเติมจากที่ลงทุนสร้างโรงงานต้ังแต่ปี 64 นอกจากนี้บริษัทเน้นขยายผลิตภัณฑ์ไปยัง Ready to Eat เพิ่มขึ้นเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง
page4image956974176

  • ความเห็น เรามีมุมมองบวกเนื่องจาก ใน 1Q65 จะเป็น High season ของธุรกิจ และได้รับแรงหนุนจากการปลูกมันสำปะหลังเพิ่มขึ้นจากปี 64 เนื่องจากไม่มีภาวะภัยแล้ง นอกจากนี้ คาดว่าธุรกิจไบโอพลาสติกจะมี GPM สูงกว่าค่าเฉลี่ยของบริษัทเป็นปัจจัยหนุนเพิ่มเติมต้ังแต่ 2Q65 เป็นต้นไป จึงแนะนำซื้อ

หุ้นมีข่าว

  • (+) ORI (Bloomberg Consensus 14.15 บาท) เล็งเพิ่มสัดส่วนรายได้ประจำ ส่ง “วัน ออริจิ้น” เข้าซื้อโรงแรมไอบิส 3 แห่ง ในเครือ ERW มูลค่า 1,000 ล้านบาท คาดรับรู้รายได้ในเดือน พ.ค. 2565 นี้ ขณะที่มีแผนซื้อกิจการ-ขายสินทรัพย์เข้ากอง REIT ต่อเนื่อง พร้อมดัน “วัน ออริจิ้น” เข้าตลาดภายในปี 2566 (ที่มา ทันหุ้น
  • (+) WINMED (Bloomberg Consensus – บาท) เปิดตัว “วินเมด คลินิกเทคนิคการแพทย์” ลุย ให้บริการตรวจคัดกรองหาเชื้อโควิด-19 เต็มรูปแบบ พร้อมบริการตรวจเฉพาะทางด้านอื่นครบวงจร คาดกวาดรายได้ปีนี้ 120 ล้านบาท หวังเป็นตัวขับเคลื่อนธุรกิจ ปักเป้ารายได้ปี 2565 โต 50% (ท่ีมา ทันหุ้น)
  • (+) GLOBAL (Bloomberg Consensus 26.00 บาท) วางเป้ายอดขายปี 2565 โต 15% แย้ม SSSG ในช่วงม.ค.-ก.พ.2565 ขยายตัวตัวเลขหลักเดียวระดับสูง จับตาไตรมาสแรกเข้าไฮซีซัน หนุนยอดขายพุ่ง เดินหน้าขยายสาขาใหม่ในไทยอีก 7-8 สาขา และขยายสาขาต่างแดนปีนี้เพิ่มอีก 3 แห่ง วางงบ 2 พันล้านบาท รองรับการเติบโต (ที่มา ทันหุ้น)
  • (+) ITEL (Bloomberg Consensus 7.10 บาท) มั่นใจรายได้ปี 2565 นิวไฮทะลุ 3,200 ล้านบาท จ่อปิดดีล M&A หุ้นเทค สตาร์ทอัพ พร้อมออกวอร์แรนต์ เพื่อรองรับกลยุทธ์เติบโตแบบ Inorganic (ซื้อกิจการ) ส่วนปี 2564 ฟอร์มเด่น กวาดรายได้อยู่ท่ี 2,509 ล้านบาท เติบโต 22% และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 251 ล้านบาท เติบโต 37% จากกลุ่มธุรกิจขยายตัวต่อเนื่อง (ที่มา ทันหุ้น)

ปัจจัยจับตาในประเทศ

  • 24 ก.พ. สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) แถลงยอดการผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์
  • สัปดาห์ที่ 4 สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) แถลงดัชนีอุตสาหกรรม สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค, ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค
  • 28 ก.พ. กำหนดวันสุดท้าย บจ. ส่งงบการเงินปี 64 ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย

ปัจจัยจับตาต่างประเทศ

  • 24 ก.พ.สหรัฐเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ที่ GDP 4Q64 (ประมาณการครั้งที่ 2) ดัชนีกิจกรรมเศรษฐกิจท่ัวประเทศเดือน ม.ค. ยอดขายบ้านใหม่เดือนม.ค.และสต็อกน้ำมัน
  • 25 ก.พ. อียูรายงานความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ก.พ.

สหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือน ม.ค. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ก.พ. จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน

  • 28 ก.พ. สหรัฐรายงานดัชนีการผลิตเดือน ก.พ. จากเฟดดัลลัส
  • 2-3 มี. ค. นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะแถลงนโยบายการเงินรายครึ่งปีต่อคณะกรรมการด้านบริการการเงินของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐและวุฒิสภา
  • 15-16 มี.ค. กำหนดประชุม FED
- Advertisement -