ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ (รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)
ผันผวน ลดลงไม่แรง
ฝ่ายวิจัย KGI ประเมิน SET Index วันพฤหัสฯ เทรดผันผวนต่อ แต่ท้ายสุดแล้วน่าจะลงไม่แรง และน่าจะยังแข็งกว่าตลาดหุ้นโลก… หลังจากเมื่อวานนี้ ตลาดหุ้นไทยฟื้นตัวในช่วงบ่ายมาปิดบวก (ดีกว่าคาด) หนุนการรีบาวด์ของหุ้นตัวหลักในกลุ่มธนาคาร และกลุ่มเชื่อมโยงการท่องเที่ยว หลังจาก ศบค. ไม่มีมาตรการคุมเข้มใดๆ และปรับเกณฑ์การตรวจนักท่องเที่ยวในวันที่ 5 จาก RT-PCR เป็นเพียง ATK ขณะที่ในวันนี้ ปัจจัยต่างประเทศยังคงเป็นลบ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับลงแรงต่อเนื่อง สะท้อนความเสี่ยงสงครามในยูเครน หลังจากรัสเซียสั่งการให้เจ้าหน้าที่ทางการทูตออกจากกรุงเคียฟของยูเครน ขณะที่ยูเครนประกาศภาวะฉุกเฉินทั่วประเทศ 30 วัน ส่งผลให้ตลาดมองว่าอาจมีการปะทะกันในเร็วๆ นี้ ฝ่าย วิจัยฯ ยังมองว่าฟันด์โฟลว์เข้าตลาดหุ้นไทยที่ยังดีอยู่ ผนวกกับค่าเงินบาทที่แข็งค่ามากกว่าที่คาด น่าจะยังหนุนให้ SET Index แข็งแกร่งกว่าตลาดหุ้นต่างประเทศต่อไป… ด้านปัจจัยภายในประเทศ เช้าวันนี้ ศบค. รายงานจำนวนผู้ติดเชื้อ COVID-19 พุ่งขึ้นอีก 23,557 ราย (นอกเหนือจากผล ATK-positive ซึ่งอยู่ที่ 22,240 ราย) เสียชีวิต 38 ราย และหายป่วยกลับบ้าน 16,131 ราย
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน (สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียน : 28668)
เก็งกำไร COM7*, BEC*, LEO
- COM7* (เป้าพื้นฐาน 95 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 78.5 บาท / แนวต้าน 81.5 – 85.0 บาท หากผ่าน กรอบแนวต้านนีไปได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป +/-90 บาท (Stop loss 76 บาท) 2) ฝ่ายวิจัยฯประเมินกำไร 4Q64 = 629 ล้านบาท (+13% YoY, +10% QoQ) และประเมินแนวโน้มกำไรปี 2565 โตต่ออีก +35% YoY ทั้งจาก Organic growth และการจับมือกับพันธมิตรต่างๆ อาทิ BIGC TRUE ILM เป็นต้น 3) เราประเมินสถานการณ์การ Work from Home (WFH) ที่คาดจะยังต่อเนื่องในปีนี้ จะเป็นตัวเร่งการเปลี่ยน Cycle โน๊ตบุ๊ค / สมาร์ทโฟน ใน 1 – 2 ปีข้างหน้า หลังจากที่มีการเริ่มซื้อโน๊ตบุ๊ค สมาร์ทโฟนใหม่ในปี 2563 (เริ่มต้น WFH) 4) Forward PE 30 เท่า ยังไม่แพง (+1 เท่าของส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน +/- 33 เท่า) และคาดประมาณการฯมี Upside ให้ปรับขึ้นอีก
- BEC* (เป้าพื้นฐาน 18 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 16 บาท / แนวต้าน 16.5 – 17.0 บาท (Stop loss 15 บาท) 2) ฝ่ายวิจัยฯคาดผลการดำเนินงานปีนี้จะเติบโตต่อเนื่อง +46% YoY เป็น 1.1 พันล้านบาท หลังเริ่มต้น Turnaround พลิกเป็นกำไรได้ในปีก่อน ผลจากการปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่ 3) Upside จากธุรกิจใหม่ เพลงและภาพยนต์ ยังไม่รวมในประมาณการฯ
- LEO (เป้าพื้นฐาน 19 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 15.2 บาท / แนวต้าน 16.0 – 16.5 บาท (Stop loss 14.3 บาท) 2) คาดมีโอกาสปรับประมาณการฯปี 2565 ขึ้นจาก i) การซื้อธุรกิจขนส่งทางอากาศล่าสุดเรายังไม่ได้รวมในประมาณการฯ ii) คาดมีดีลลงทุนเพิ่มเติมอีกในปีนี้เป็น Upside 3) คาดค่าระวางเรือคอนเทนเนอร์จะฟื้นตัวกลางปีนี้ หลังจากชะลอ QoQ ใน 1Q65 ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก หลังโควิด-19 เริ่มผ่อนคลาย
หุ้นมีข่าว
(+) ORI* อัพพอร์ตรายได้ประจำ ทุ่มพันล้านซื้อโรงแรมไอบิส (ทันหุ้น) ORI* เล็งเพิ่มสัดส่วนรายได้ประจำ ส่ง “วัน ออริจิ้น” เข้าซื้อโรงแรมไอบิส 3 แห่ง ในเครือ ERW มูลค่า 1,000 ล้านบาท คาดรับรู้รายได้ในเดือน พ.ค. 2555 นี้ ขณะที่มีแผนซื้อกิจการขายสินทรัพย์เข้ากอง REIT ต่อเนื่อง พร้อมกับนำ “วัน ออริจิ้น” เข้า ตลาดภายในปี 2566
(+) ERW* ลุยปั้นโมเดลแฟรนไชส์ปูพรม “ช็อปอินน์ (กรุงเทพธุรกิจ) “ดิ เอราวัณ กรุ๊ป” กางแผนเร่งโต ปั้นโมเดลแฟรนไชส์แบรนด์โรงแรมบัดเจ็ท “ฮ็อป อินน์” หนุนขยายเครือข่ายทั่วไทย-เอเชียแปซิฟิก รับตลาดพื้นหลังโควิดคลี่คลาย เล็งปักหมุด 77 จังหวัด เปิด 100 แห่ง ในปี 2568 พร้อมขายโรงแรมไอบิส 3 แห่งให้ “วัน ออริจิ้น” ตุนเม็ดเงินสานแผนลงทุน-ปรับพอร์ตโฟลิโอ
(- UBE, KSL, KTIS) ค้านปรับสูตรผสมเอทานอลในเบนซิน (ไทยโพสต์) ผู้ผลิตเอทานอลต้านรัฐปรับสูตรผสมเอทานอลในน้ำมันเบนซิน แก๊สโซฮอล์ทุกชนิดเหลือแค่ E10 ชี้ไม่เห็นประโยชน์ หวั่นกระทบทั้งกระบวนการโดยเฉพาะเกษตรกร พร้อมจับตา กบง.ถูกอีกครั้งในสัปดาห์หน้า
(+) ITEL ดีลซื้อกิจการหุ้นเทคสตาร์ทอัพปี 64 ฟอร์มเด่น 22% (ทันหุ้น) ITEL มั่นใจรายได้ปี 2565 นิวไฮทะลุ 3,200 ล้านบาท จ่อปิดดีล M&A หุ้นเทคสตาร์ทอัพ พร้อมออกวอร์แรนต์ เพื่อรองรับกลยุทธ์เติบโตแบบ Inorganic (ซื้อกิจการ) ส่วนปี 2564 ฟอร์มเด่น กวาดรายได้อยู่ที่ 2,500 ล้านบาท เติบโต 22% และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 251 ล้านบาท เติบโต 37% จากกลุ่มธุรกิจขยายตัวต่อเนื่อง
(+) WINMED เปิดศูนย์โควิด ปักเป้าโกยรายได้ 120 ล. (ทันหุ้น) WINMED เปิดตัว “วินเมด คลินิกเทคนิค การแพทย์” ลุยให้บริการตรวจคัดกรองหาเชื้อโควิด-19 เต็มรูปแบบ พร้อมบริการตรวจเฉพาะทางด้านอื่นครบวงจร คาดกวาดรายได้ปีนี้ 120 ล้านบาท หวังเป็นตัวขับเคลื่อนธุรกิจ ปักเป้ารายได้ปี 2565 โต 50%
หุ้นที่เคยแนะนำก่อนหน้า
- BH* (เป้าพื้นฐาน 148 บาท) แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 149 บาท)
- HMPRO* (เป้าพื้นฐาน 16 บาท) แนวรับ 15.2 บาท / แนวต้าน 15.7 บาท หากผ่านได้แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 15 บาท)
- MAKRO (เป้าพื้นฐาน 50 บาท) แนวรับ 42.75 บาท / แนวต้าน 44 – 46 บาท (Trailing stop 42 บาท)
- MAJOR* (เป้าพื้นฐาน 26.75 บาท) แนวรับ 20.2 บาท / แนวต้าน 21.0 – 21.5 บาท (Stop loss 20.2 บาท)
- INTUCH* (เป้าพื้นฐาน 89.5 บาท) แนวรับ 76.5 บาท / แนวต้าน 78.5 – 80 บาท (Stop loss 76 บาท)
- SHR (เป้าพื้นฐาน 4.8 บาท) แนวรับ 3.34 บาท / แนวต้าน 3.5 – 3.6 บาท (Stop loss 3.34 บาท)
Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
- ERW* แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 3.7 บาท จากการประชุมนักวิเคราะห์ มุมมองเป็นบวก แม้จะรายงานผลการดำเนินงาน 4Q64 แย่กว่าคาด แต่แนวโน้มการฟื้นตัวของ RevPar เริ่มชัดเจนขึ้นแล้ว อย่างไรก็ดี สําหรับ 1Q65 คาดผลการดำเนินงานจะชะลอตัวลงระยะสั้นจากผลกระทบของโควิด-19 โอมิครอน แต่ยังคงคาดการฟื้นตัวในระยะยาวต่อไป จึงยังคงแนะนำ “ซื้อ”
- DOHOME* แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 27 บาท จากการประชุมนักวิเคราะห์ มุมมองเป็นบวกต่อการขยายสาขาใหม่และการเพิ่มสินค้า House brand อย่างไรก็ดี ฝ่ายวิจัยฯปรับลดเป้าหมาย PE ลง สะท้อนอัตราการเติบโตของกำไรที่คาดจะเริ่มชะลอลง (ผลจากหุ้น Stock dividend) ราคาเป้าหมายใหม่ลดลงเป็น 27 บาท
- QH* แนะนํา “ถือ” เป้าพื้นฐาน 2.6 บาท งานกําไร 4Q64 = 494 ล้านบาท (-15% YoY, +18% QoQ) คาด -10% ทั้งนี้คาดผลการดำเนินงาน 1Q65 จะชะลอตัวลงจาก Backlog ในมือที่ไม่มาก และผลจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ใน 1Q65 ฝ่ายวิจัยฯปรับลดประมาณการฯลง แต่ปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 2.6 บาท (ผลจากการปรับเป้าหมาย PE ขึ้น)
- TNP แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 7 บาท รายงานกำไร 4Q64 = 53 ล้านบาท (+21% YoY, +42% QoQ) ดีกว่าคาด +16% คาดแนวโน้มผลการดำเนินงานปีนี้ยังโตต่อเนื่องจากการขยายสาขาใหม่ๆ