บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส :
กำไรสุทธิ 1Q64/65 หนุนโดยค่าใช้จ่ายดำเนินงานที่ลดลง
กำไรสุทธิ1Q64/65 (มี.ค.-พ.ค.64) ดีกว่าคาด 38% โดยอยู่ที่ 1.15 พันล้านบาท เติบโต +117%YoY จากค่าใช้จ่ายดำเนินงานลดลง แต่ถ้าเทียบไตรมาสก่อนหน้าจะลดลง -3%QoQ
สินเชื่อสิ้นพ.ค.64 หดตัว -0.8%QoQ และ -2.0%YoY เป็น 86.7 พันล้านบาท เนื่องจากวิกฤตโควิด และหนี้สินภาคครัวเรือนสูง รวมทั้งสินเชื่อในเมียนมาหดตัวแรง -83%YoY เพราะปัญหาโควิดและการเมือง (ปัจจุบันงดให้สินเชื่อชั่วคราว ลดค่าใช้จ่าย และเร่งเก็บหนี้) ด้านสินเชื่อในกัมพูชา -14%YoY
รายได้ไตรมาสนี้ -11%YoY (+1%QoQ) โดยหลักมาจากสินเชื่อลดลง, Yield ต่ำลงจากการลดอัตราดอกเบี้ยตามนโยบายธปท. โครงสร้างรายได้มาจากการปล่อยสินเชื่อ 52%, บัตรเครดิต 31%, เช่าซื้อ 5% และรายได้อื่น (รวมหนี้สูญได้รับคืน) 12% (ไตรมาสนี้อยู่ที่ 328 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +31%YoY) สำหรับรายได้บัตรเครดิต -11%YoY และ -1%QoQ ใน 1Q64/65 เนื่องจากการใช้จ่ายผ่านบัตรลดลง และอัตราดอกเบี้ยต่ำลง (เพดานดอกเบี้ยลดจาก 18%เป็น 16% ตั้งแต่ส.ค.63) ส่วรายได้จากสินเชื่อเช่าซื้อโต +10%YoY
ค่าใช้จ่ายดำเนินงานลดลง -8%YoY จากการลดลงค่าใช้จ่ายพนักงาน, ค่าเดินทาง, ค่าใช้จ่ายด้านการตลาด และลดพื้นที่เช่า ส่วน C/I ratio เพิ่มเป็น 41.9% จาก 41.0% ใน 1Q63/64 เพราะรายได้หดตัวมากกว่าการลดลงของค่าใช้จ่าย
NPL ratio เพิ่มขึ้นเป็น 5.7% ในสิ้นพ.ค.64 (จาก 3.7% ในสิ้นพ.ค.63) การตั้งสำรองลดลง -49%YoY (+39%QoQ) ณ สิ้นพ.ค.64 มี Coverage ratio 225%
แนะนำซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน 272 บาท อิงกับ P/BV ปี 64/65 ที่ 3.4 เท่า ความเสี่ยงหลัก คือ การแข่งขันในธุรกิจที่รุนแรง, มีความเสี่ยงที่ต้องลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกเพื่อช่วยเหลือลูกค้าในช่วงโควิด, การด้อยค่าของสินทรัพย์