เน้น Trading ในหุ้นท่ีปรับฐานแรง แนะทยอยสะสม M สำหรับลงทุนระยะกลาง
เมื่อคืนการเคลื่อนไหวของสินทรัพย์ที่ได้ประโยชน์จากสงคราม เคลื่อนไหวในรูปแบบผันผวน และมีบางสัญญาณน่าสนใจ อาทิ ทองคำที่ปรับตัวขึ้นไปทดสอบถึงบริเวณ 1974 ก่อนลงมาปิดที่ 1902 น้ำมันดิบ Brt ขึ้นไปทดสอบถึง 105.79 เหรียญ/บาร์เรล ก่อนลงมาปิดที่ 99.08 เหรียญ/บาร์เรล รวมไปถึง Vix ที่ปรับตัวลงแรงเช่นกัน ด้านตลาดหุ้น Nasdaq เปิดตลาดด้วยการปรับฐานแรง 450 จุด (-3.4%) ก่อนพลิกมาปิดบวก 436 จุด (+3.3%) แม้จะมีความตรึงเครียดระหว่างยูเครน-รัสเซีย หลังมีรายงานว่ารัสเซียได้บุกโจมตียูเครนทั้งทางบก ทะเล และอากาศ หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่เรามองว่าน่าสนใจ คือ สำนักข่าว Reuters ระบุนายเยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการองค์การ NATO เผยว่า NATO จะไม่ส่งกำลังจะหารเข้าไปในยูเครนแต่อย่างใด เพราะยูเครนมิได้เป็นสมาชิก NATO สัญญาณดังกล่าวอาจเป็นการบ่งชี้ว่า NATO มิอยากยุ่งกับเรื่องนี้เท่าใดนัก และสอดคล้องกับที่เราประเมินไว้ว่า EU จะไม่กล้าที่จะแตะต้องเรื่องนี้มากนัก เพราะต้องพึ่งพิงแก๊สธรรมชาติจากรัสเซียเยอะ ด้าน Russia เองก็อาจจะพอใจที่ NATO ไม่เข้ามายุ่งกับเรื่องนี้เท่าใดนัก เพราะตรงกับความต้องการของ Russia อยู่แล้ว ที่ไม่ต้องการให้ยูเครนเข้าร่วมกับ NATO ดังนั้น ในความเห็นเราสถานการณ์ถือว่าผ่อนคลายแลัวในระดับนึง จึงเห็นสินทรัพย์แต่ละประเภทเริ่มออกอาการในทางผ่อนคลาย โดยจากนี้แนะติดตามท่าทีของ Russia (ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเช้านี้ +1.6%) ส่วนในประเทศเป็นเรื่องของผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน 4Q21 วานนี้หุ้น มีหุ้นที่ผลประกอบการน่าสนใจ ได้แก่ (M TACC) รถไฟฟ้า (BEM) ส่วนกลุ่มค้าปลีกในภาพรวมถือว่าทำผลประกอบการได้ดีด้วย การรักษาอัตรากำไรขั้นต้นให้ทรงตัวได้ดี ท่ามกลางราคาต้นทุนที่เริ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะ (BJC HMPRO) ส่วน COVID-19 แม้การติดเชื้อจะเร่งตัวสูง (เช้านี้ 24,932 ราย) แต่หากพิจารณาเสียชีวิตพบว่ายังค่อนข้างต่ำ จึงเห็นว่ารัฐบาลไม่ได้เข้มงวดมาตรการคุมเข้มมากนัก ทำให้ Downside ต่อประมาณการเศรษฐกิจและกำไรบริษัทจดทะเบียนไม่สูงมากนัก เราจึงไม่ได้กังวลกับปัจจัยนี้เท่าใดนัก ประเมิน SET ฟื้นตัวกรอบ 1663–1672
เชิงกลยุทธ์การลงทุนยัง Wait&See เช่นเดิม จนกว่าระดับ Valuation จะน่าสนใจ สำหรับสายลงทุนส่วนระยะสั้นเน้น Trading ในหุ้นที่ลงมาแรงวานนี้ อาทิ Bank (BBL KBANK SCB) นิคม (AMATA) ท่องเท่ียว (MINT) ขนส่ง (PSL) แต่แนะสะสม M
KBANK (ซื้อ/ราคาเป้าหมาย 174 บาท) คาดกำไรสุทธิปี 2022 เติบโต 13% YoY เนื่องจากสำรองหนี้ฯ ลดลง และรายได้จากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น มีแผนพัฒนาบริการดิจิทัลแบงก์กิ้งเพื่อมอบประสบการณ์ชั้นเลิศให้กับลูกค้า และเป็นช่องทางในการขยายกิจการผ่านแพลตฟอรม์ดิจิทัลชั้นนำในไทย
M (ซื้อ/ ราคาเป้าหมาย 61 บาท) M มีกำไรสุทธิ 399 ล้านบาท (+ 14%YoY) ใน 4Q21 จากขาดทุนสุทธิใน 2Q21-3Q21 จากการอนุญาตให้รับประทานอาหารที่ร้านอาหารได้ และความเชื่อมั่นของลูกค้าที่ดีขึ้น หลังอัตราการฉีดวัคซีนแล้วสูง รวมถึง M เปิดสาขาใหม่กว่า 12 สาขาใน 4Q21 (+2%QoQ) หลังปิดสาขาต่อเนื่องในช่วง 5 ไตรมาสท่ีผ่านมา