Daily Focus Value and Domestic Play
2022 SET Target: 1770
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index ฟื้นตัวได้ดี +17.18 จุด หลังจากร่วงแรงในวันก่อนหน้า จากความกังวลสงครามรัสเซีย-ยูเครน สถาบันในประเทศขายสุทธิในตลาดหุ้น 777 ลบ. ขณะที่นักลงทุนต่างชาติพลิกมาซื้อสุทธิ 2.5 พันลบ. (ต่างชาติ Short SET50 Index Futures อีกเล็กน้อย 3.7 พันสัญญา)
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาด SET Index ยังแกว่งตัวผันผวนในกรอบ 1,670-1,685 จุด จากสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนที่ยังกดดัน แม้ว่าวานนี้จะมีข่าวว่าผู้แทนทั้ง 2 ฝั่งจะเจรจากันที่ชายแดนเบลารุส-ยูเครน แต่การปะทะยังคงมีต่อเนื่อง และฝั่ง EU มีการสนับสนุนด้านอาวุธแก่ยูเครน นอกจากนี้มาตรการคว่ำบาตรของชาติตะวันตกต่อรัสเซีย โดยเฉพาะการตัดออกจากระบบ SWIFT จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในภูมิภาค ทำให้สินทรัพย์เสี่ยงระยะสั้นยังถูกกดดัน ขณะที่ราคา Commodity ปรับตัวขึ้นแรงโดยเฉพาะน้ำมัน ซึ่งยังทำให้กลุ่มพลังงานช่วยประคองตลาด ส่วนเงินเฟ้อ PCE สหรัฐฯเดือน ม.ค. 22 ออกมาสูงกว่าคาด +0.6 M-M, +6.1% Y-Y กดดัน FED ในการดำเนินนโยบายการเงินที่จำเป็นต้องตึงตัวเร็วอย่างต่อเนื่อง เรายังมองหุ้น Value และ Domestic Play โดยเฉพาะกลุ่ม Commodity ต้นน้ำ ธนาคาร ค้าปลีก อสังหาฯ จะยังปรับตัวได้แข็งแรงกว่าตลาด
กลยุทธ์ : เลือกลงทุนในหุ้น Value และ Domestic Play ที่แนวโน้มกำไร 1H22 แข็งแกร่ง
หุ้นเด่นเดือน ก.พ. : GFPT, HMPRO, PJW, SC, TKS
หุ้นเด่นวันนี้ : HMPRO
- แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายจาก FSSIA 18.30 บาท
- โมเมนตัมกำไร 1Q22 คาดแข็งแรงต่อเนื่องจาก SSSG ที่คาดยังเติบโต รวมถึงได้อานิสงส์บางส่วนในช่วงครึ่งไตรมาสแรกจากแรงหนุนของมาตรการช้อปดีมีคืน
- ภาพปี 2022 สดใสตามเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวหนุนการเติบโตของรายได้ นอกจากนี้ยังเน้นเพิ่มสินค้า House Brand เพื่อเพิ่ม Margin และเปิดสาขาใหม่เชิงรุกมากขึ้น เราคาด กําไรปี 2022 +22% Y-Y
- แนวรับ 15-14.8 บาท แนวต้าน 15.50//16-16.50 บาท
Fund Flow: วานนี้กระแสเงินทุนยังคงไหลออกจากภูมิภาคอีก US$1,348 ล้าน นำโดยไต้หวันที่ยังไหลออกหนัก US$1,681 ล้าน แต่พลิกมาไหลเข้าเกาหลีใต้ US$185 ล้าน ตามลำดับ ส่วนอาเซียนยังแข็งแรงโดยไหลเข้าไทยและอินโดนีเซียประเทศละ US$76 ล้าน แนวโน้มของกระแสเงินทุนคาดยังค่อนไปในทิศทางไหลออกจาก สถานการณ์รัสเซีย-ยูเครนที่ยังตึงเครียดและการคว่ำบาตรของชาติตะวันตกที่เข้มข้น แต่มองเม็ดเงินยังไหลเข้าอาเซียน
ประเด็นสำคัญวันนี้
(+) CRC กำไร 4Q21 ใกล้เคียงคาดที่ 2.4 พันลบ.พลิกจากขาดทุนทั้ง 3Q21 และ 4Q20 และทำให้ทั้งปีมีกำไรบางๆ 59 ลบ.ทรงตัวจากปีก่อน อย่างไรก็ตาม โมเมนตัมการฟื้นตัวของ SSSG จะเกิดขึ้นต่อเนื่องใน 1Q22 และได้อานิสงส์จากช้อปดีมีคืน คาดมีกําไรเร่งตัวเป็น 4.7 พันลบ.ปีนี้ ยังคงราคาเป้าหมาย 43 บาท แนะนำ “ซื้อ” (Source: FSSIA)
(-) HANA ขาดทุนสุทธิใน 4Q21 เพราะรายการพิเศษ แต่หากตัดออกกำไรปกติ 44% Q-Q, -17% Y-Y ต่ำกว่าคาดมาก แม้รายได้จะโตดี แต่ถูกกระทบจาก Margin ที่แผ่วแรง จบปี 2021 กำไรปกติ +25% Y-Y เราอยู่ระหว่างทบทวนประมาณการกำไร และราคาเป้าหมายปัจจุบันที่ 92 บาท
(0) NSL กำไร 4Q21 ผื่นดีกว่าคาด +82% Q-Q, +8% Y-Y ตามการคลาย Lockdown และปัญหา Supply Chain ที่คลี่คลาย จบปี 2021 กำไร +26% Y-Y ทำ New High อย่างไรก็ตาม แนวโน้มปี 2022 มีความเสี่ยงมากขึ้นจากต้นทุนแป้งสาลีที่ปรับตัวสูง 10 20% Y-Y ซึ่งอาจเป็นแรงกดดันให้ประมาณการกำไรปัจจุบันที่ +50% Y-Y มี Downside รวมถึงราคาเป้าหมายที่ 23 บาท อย่างไรก็ตาม ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ”
(+) HL กำไร 4Q21 -12% Q-Q, +64% Y-Y ดีกว่าคาดจาก SSSG ที่ยังแข็งแรง และ Margin ยังเพิ่มขึ้น จบปี 2021 กำไร +53% Y-Y แนวโน้มปี 2022 ยังแข็งแรงจากการเปิดสาขาใหม่ 4-5 สาขา และเริ่มออกสินค้าแบรนด์ตนเองใหม่ เรายังคงประมาณการกำไรปี 2022 +41% Y-Y และคงราคาเป้าหมาย 15 บาท แนะนำ “เก็งกำไร
(+) SC เรามีมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มการเติบโตปี 2022-2025 ผ่านกลยุทธ์ Thriving Connecting และ Sustaining และมีเป้าหมายปี 2022 เชิงรุกทั้งเป้ารายได้ 2.2 หมื่นลบ. +13% Y-Y และแผนเปิดโครงการใหม่ 27 โครงการรวม 4 หมื่นลบ. มากกว่าปีก่อนๆอย่างมีนัยยะสะท้อนความเชื่อมั่นของผู้บริหารต่อภาพอุตสาหกรรมที่เป็นบวก เราปรับประมาณการกำไรปี 2022 ขึ้นเป็น +17 Y-Y และปรับเพิ่มราคาเป้าหมายเป็น 4.60 บาท แนะนำ “ซื้อ”
(+) ตลาดดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 834.92 จุด หรือ 2.51% ปิดที่ 34,058.75 จุด หลังมีรายงานข่าวว่ารัสเซียส่งสัญญาณพร้อมเจรจากับยูเครน รวมถึงมีการเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐเพิ่มขึ้น 1.6% ในเดือนม.ค. เทียบ กับเดือนธ.ค. +1.2% และดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงานเพิ่มขึ้น 5.2% Y-Y ในเดือนม.ค. สูงกว่านักวิเคราะห์คาดที่ 5.1% อย่างไรก็ตาม เช้านี้ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ปรับลงกว่า 400-500 จุด หลังจากประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูดิน ผู้นำรัสเซีย ได้สั่งการให้กองกำลังป้องปรามด้วยอาวุธนิวเคลียร์เตรียมพร้อมในระดับสูงสุด
(+) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดบวก จากความคาดหวังเกี่ยวกับการเจรจาทางการทูตระหว่างรัสเซียและยูเครน
(0) ตลาดหุ้นเอเชีย ปรับตัวผสม ท่ามกลางความกังวลว่าหลายประเทศอาจใช้มาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติมต่อรัสเซีย หลังจากรัสเซียบุกโจมตียูเครน
(-) ค่าเงินบาท อ่อนค่าลง ล่าสุดอยู่ที่บริเวณ 32.70 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ลดลง 1.22 ดอลลาร์ หรือ 1.3% ปิดที่ 91.59 ดอลลาร์/บาร์เรล จากขายทำกำไรหลังปรับขึ้นในช่วงก่อนหน้า รวมถึงเจ้าหน้าที่สหรัฐยืนยันว่าสหรัฐจะไม่คว่ำบาตรการส่งออกน้ำมันจากรัสเซีย ท่ามกลางวิกฤตยูเครน
(-) ราคาทองคำ COMEX ลดลง 38.7 ดอลลาร์ หรือ 2.01% ปิดที่ 1,887.6 ดอลลาร์/ออนซ์ จากแรงขายสินทรัพย์ปลอดภัยหลังคลายกังวลเกี่ยวกับวิกฤตยูเครน
SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 1,026.99 / -2.32
