บล.เคจีไอ (ประเทศไทย):

Minor International (MINT.BK/MINT TB)* ผลประกอบการ 4Q64: พลิกกลับมาเป็นกำไร

Event

ผลประกอบการ 4Q64

Impact

พลิกมาเป็นกำไรปกติ 1.7 พันล้านบาท ซึ่งดีกว่าที่เราคาดไว้

หากไม่รวมรายการพิเศษ (ผลขาดทุนจากการปรับราคาประเมินที่ดิน 3 พันล้านบาท) กำไรปกติของ MINT ใน 4Q64 อยู่ที่ 1.66 พันล้านบาท (ดีขึ้นจากขาดทุนปกติ 2.4 พันล้านบาทใน 3Q64) ซึ่งเป็นครั้งแรกที่บริษัทสามารถพลิกเป็นกำไรได้ตั้งแต่ COVID-19 ระบาด ทั้งนี้ ผลประกอบการออกมาดีกว่าที่เราคาดไว้ว่าจะขาดทุน 2 พันล้านบาท และดีกว่า consensus ที่คาดว่าจะขาดทุน 1.8 พันล้านบาท เนื่องจากรายได้จากธุรกิจร้านอาหาร และอัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจโรงแรมสูงเกินคาด

โดยภาพรวม รายได้จากธุรกิจโรงแรมใน 4Q64 ทำสถิติสูงสุดใหม่ในรอบ 2 ปีที่ 1.57 หมื่นล้านบาท (+134% YoY, +19% QoQ) จากผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งของโรงแรมในยุโรปและมัลดีฟส์ ในขณะเดียวกันรายได้จากธุรกิจร้านอาหารที่ทำสถิติสูงสุดในรอบสองปีเช่นกันที่ 5.8 พันล้านบาท (+10% YoY, +23% QoQ) ซึ่งส่วนหนึ่งผลักดันจากการกลับมาเปิดบริการสาขาร้านที่ปิดไปชั่วคราว ทั้งนี้ อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นเป็น 42.6% (+32.7ppts YoY, +8.5ppts QoQ) จากอัตรากำไรที่ดีขึ้นในทุกกลุ่มธุรกิจโดยเฉพาะธุรกิจโรงแรม

RevPar โตถึง 276% YoY

RevPar เพิ่มขึ้นเป็น 1,901 บาท (+276% YoY, +7% QoQ) เนื่องจาก OCC เพิ่มขึ้นเป็น 48% ใน 4Q64 (จาก 17% ใน 4Q63) และ ARR เพิ่มขึ้น 38% YoY ผลการดำเนินงานของโรงแรมในทุกทำเลที่ตั้งได้แรงหนุนจากกิจกรรมการเดินทางที่ดีขึ้น โดย RevPar ของโรงแรมในยุโรป (NH Hotel group) โตถึง 340% YoY จาก ARR ที่เพิ่มขึ้น และอุปสงค์ที่แข็งแกร่งจากลูกค้าในภาคธุรกิจ ทั้งนี้ การฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งของโรงแรมในยุโรปถึงจุดสูงสุดในเดือนพฤศจิกายน 2564 โดย occupancy ขยับขึ้นไปถึง 70% ก่อนที่ถูกกดดันจากการระบาดของสายพันธุ์ Omicron

SSSG ดีขึ้นเป็น -1.7% YoY (จาก -7.2% YoY ใน 3Q64)

Same-store-sales growth (SSSG) ฟื้นตัวต่อเนื่องเป็น -1.7% YoY ใน 4Q64 (จาก -7.2% ใน 3Q64) โดยร้านในประเทศไทยมีผลการดำเนินงานดีที่สุดใน 4Q64 (SSSG ทรงตัว YoY) เนื่องจากจำนวนลูกค้าที่ทานอาหารในร้านเพิ่มขึ้นในช่วงเทศกาล

Valuation & action

เราคาด Omicron และ low season ของโรงแรมในยุโรปจะส่งผลให้ผลประกอบการ 1Q65F สะดุด QoQ แต่เราคาดแนวโมของผลประกอบการจะกลับมาแข็งแกร่งได้ตั้งแต่ 2Q65F เป็นต้นไป เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ MINT โดยประเมินราคาเป้าหมายที่ 39 บาท อิงจาก EV/EBITDA ปี 2566F ที่ 17.2x เท่ากับค่าเฉลี่ยระยะยาว ทั้งนี้ เราได้ทำการ discount ราคาเป้าหมายปี 2566F กลับมาหนึ่งปี โดยใช้ WACC ที่ 9.0%

Risks

ความวุ่นวายทางการเมือง และ COVID-19 ระบาดนานกว่าที่คาดไว้

- Advertisement -