บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):
Action
BUY (Maintain)
TP upside (downside) +28.6%
Close Feb 25, 2022 Price (THB) 21.00
12M Target (THB) 27.00
Previous Target (THB) –
What’s new?
- BAM รายงานกำไรสุทธิ 4Q64 จำนวน 986 ลบ. โตเด่น 39.4%YoY และ 71.1%QoQ ดีกว่าที่เราและตลาดคาด หลัก ๆ มาจาก การเร่งตัวขึ้นของทั้งการจัดเก็บเงินสดจาก ลูกหนีปรับโครงสร้าง, การรับชำระหนี้ผ่าน กรมบังคับคดีที่สูงขึ้น และยอดขาย NPA ที่ เร่งตัวขึ้น ขณะที่บริษัทยังสามารถควบคุม การเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายได้ดี
- ส่วนปี 65 คาดกำไรสุทธิ 2,979 ลบ. โต 14.6%YoY หนูนจากยอดขาย NPL และ NPA ที่ปรับตัวดีขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจ
Our View
- เรามอง BAM จะมีผลดำเนินงานที่ปรับตัวดีขึ้น หนุนจากภาพรวมเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวขึ้น และสถาบันการเงินต่าง ๆ กลับมาเปิดประมูลขายหนี้มากขึ้น อีกทั้งมี Upside Risk จากการจัดตั้ง JVAMC ร่วมกับสถาบันการเงิน
- ขณะที่ราคาหุ้นยัง Laggard คู่แข่ง ซื้อขายด้วย PBV ต่ำเพียง 1.6x และราคาหุ้นปัจจุบันมี Upside 28.6% จากมูลค่าพื้นฐานใหม่ปี 2565 ที่ 27 บาท จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ”
BANGKOK ASSET MANAGEMENT ผลดำเนินงานโตดี แต่ราคาหุ้นยัง Laggard
กําไร 4Q64 โตดีกว่าคาด หลังมีบันทึกยอดขาย NPL และ NPA เพิ่มขึ้นมาก
BAM รายงานกำไรสุทธิ 4064 จำนวน 986 ลบ. โตเด่น 39.4%YoY และ 71.1%QoQ ดีกว่าที่เราและตลาดคาดมาก โดยมีแรงหนุนหลักจากทั้ง 1) รายได้ดอกเบี้ยรับสุทธิโต 3.5%QoQ จากลูกหนี้ปรับโครงสร้างหนี้เร่งตัวขึ้นหลังเศรษฐกิจในประเทศฟื้นตัวขึ้น ทำให้ศักยภาพในการชำระคืนหนี้ของลูกหนี้ NPL ปรับโครงสร้างปรับตัวดีขึ้น ประกอบกับบริษัทมีมาตรการผ่อนปรนเงื่อนไขการชำระหนี้ให้ยืดหยุ่นกับกระแสเงินสดของลูกหนี้มากขึ้น 2) กำไรจากการให้สินเชื่อลูกหนี้โต 12%QoQ หลังได้รับการชำระหนี้ของลูกหนี้รายใหญ่เพิ่มเข้ามาจากปกติ บวกกับเป็นผลจากการที่กรมบังคับคดีกลับมาเปิดดำเนินงานเต็มไตรมาส ทำให้ BAM สามารถรับรู้รายได้จากช่องทางดังกล่าวได้มากขึ้น 3) กำไรจากการขาย NPA เพิ่มขึ้น 55%QoQ หลักๆ เป็นผลจากการทำ Pricing Strategy และ Promotion ในช่วงปลายปี เพื่อเร่งระบาย NPA ในพอร์ต รวมถึงได้อานิสงค์บวกจากตลาดอสังหาฯ มือหนึ่งที่ฟื้นตัวได้ดี ทำให้ความต้องการซื้ออสังหาฯ มือสองของ BAM ปรับตัวดีขึ้นตาม และ 4) บริษัทมีความสามารถในการบริหารค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานได้ดี สะท้อน ได้จาก Cost to Income Ratio ที่ลดลงจาก 27.2% ใน 3Q64 เหลือ 24.4%
ปี 65 คาดกำไรโตต่อ หนุนจากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว และการเร่งระบาย NPA
เรามีมุมมองเชิงบวกต่อทิศทางของผลดำเนินงานของ BAM ในปี 2565 มากขึ้น หลังเห็นแนวโน้มที่ดีของการชำระคืนเงินของลูกหนี้ในพอร์ต NPL ภายใต้การบริหารของบริษัท และด้วยการที่กรมบังคับคดีกลับมาเปิดดำเนินงานปกติ ช่วยให้การประมูลหลักประกันเพื่อขายทอดตลาดเร็วขึ้น นอกจากนี้คาด BAM จะเริ่มธุรกิจบริหารหนี้ที่ไม่มีหลักประกันเพื่อต่อยอดสร้างผลตอบแทนเพิ่มเติมจากพอร์ตหนี้เสียในมือ ขณะที่ยอดขาย NPA มีทิศทางเร่งตัวขึ้นต่อ หลังราคาบ้านมือหนึ่งเริ่มมีราคาสูงขึ้น นอกจากนี้บริษัทยังคงเน้นทำการตลาดเชิงรุก ทั้งการคัดทรัพย์ราคาพิเศษเพื่อเสนอขายในราคาต่ำ และการทำ Promotion ผ่านช่องทาง Offline และ Online พร้อมทั้งขยายการขายแบบผ่อนชำระให้กับลูกค้ารายย่อยมากขึ้น ทำให้เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิตั้งแต่ปี 2565 ขึ้นเฉลี่ยปีละ 10.1% โดยภายใต้ประมาณการใหม่คาด BAM จะมีกำไรสุทธิในปี 2565 จำนวน 2,979 ลบ. โต 14.6%YoY
มองราคาหุ้น Laggard และมี Upside Risk จากการจัดตั้ง JVAMC
เรายังชอบ BAM จากแนวโน้มการฟื้นตัวของผลดำเนินงานที่สอดรับไปกับภาพรวมของเศรษฐกิจในประเทศ อีกทั้งตั้งแต่ปี 2565 สถาบันการเงินต่างๆ จะเริ่มทยอยกลับมาเปิดประมูลขายหนี้ NPL และ NPA มากขึ้น รวมทั้งมี Upside Risk จากการร่วมจัดตั้ง JVAMC ร่วมกับสถาบันการเงิน ซึ่ง BAM จัดเป็นผู้เล่นศักยภาพสูงในการให้บริการบริหารหนี้เสียแบบมีหลักประกัน และมีฐานทุนที่ใหญ่เมื่อเทียบกับคู่แข่ง ทำให้เราคาดบริษัทจะเริ่มทยอยประกาศแผนจัดตั้ง JVAMC ใน 1H65 ขณะที่ในแง่ Valuation ของ BAM ถือว่า Laggard คู่แข่ง ปัจจุบันซื้อขายด้วย PBV ต่ำเพียง 1.6x ขณะที่ JMT และ CHAYO ซื้อขายด้วย PBV 10.9x และ 4.9% ตามลำดับ โดยราคาหุ้นปัจจุบันบันมี Upside 28.6% จากมูลค่าพื้นฐานใหม่ปี 2565 ที่ 27 บาท (อิง Prospective PBV ที่ 2x) อีกทั้งล่าสุดบริษัทประกาศจ่ายปันผลอีกหุ้นละ 0.55 บาท (XD วันที่ 29 เม.ย. และจ่ายปันผลวันที่ 20 พ.ค.) คิดเป็น Div. Yield 2.6% เราจึงคงคำแนะนำ “ซื้อ”