บล.ทิสโก้ :
คาดงบ 2Q21F ขาดทุนเพิ่มขึ้น QoQ จากสถานการณ์ COVID-19 ระลอก 3
เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” จาก
1) คาดผลประกอบการ 2Q21F ขาดทุนเพิ่มขึ้น QoQ จากสถานการณ์ COV ID-19 ระลอก 3
2) คาดผลประกอบการจะกลับมาฟื้นตัวในปีหน้าจากการคาดสถานการณ์ COVID-19 จะบรรเทาลงหลังจากได้เริ่มมีการใช้วัคซีนป้องกัน COVID-19 ในประเทศ ประกอบกับสถานการณ์ COVID-19 ในต่างประเทศและอเมริกาเริ่มดีขึ้น และรายการหนังต่างประเทศเริ่มทยอยเปิดตัวฉายแล้ว ราคาเป้าหมายใหม่เป็นปี 2022 อยู่ที่ 31 บาท
คาดผลประกอบการ 2Q21F ยังคงขาดทุน จากผลกระทบ COVID-19
เราคาด MAJOR จะมีผลประกอบการ 2Q21F ขาดทุน 392 ล้านบาท เทียบกับ 2Q20 ที่ขาดทุน 475 ล้านบาท และ 1Q21 ที่ขาดทุน 120 ล้านบาท โดยคาดรายได้รวม 2Q21F อยู่ที่ 470 ล้านบาท (+126%YoY, -45%QoQ) เพิ่มขึ้น YoY เนื่องจากปีที่ผ่านมามีการระบาด COVID-19 ระลอกแรกส่งผลปิดโรงหนังทั่วประเทศ แต่ลดลง QoQ จากผลกระทบ COVID-19 ระลอก 3 ที่นานกว่าระลอก 2 ในช่วง ม.ค.21 (ณ มิ.ย.21 บริษัทได้ปิดโรงหนัง 14 จังหวัด 67 สาขา 427 โรง เทียบกับ 1Q21 ที่มีการระบาดระลอก 2 ช่วงสั้นในเดือน ม.ค.21 ปิดโรงหนัง 15 สาขา 52 โรง)
ประกอบกับหนังไทยได้เลื่อนฉาย แม้จะมีหนัง Hollywood ได้แก่ “Godzilla vs. Kong” ที่เข้าฉายปลายเดือนมี.ค.21 และมีเรื่อง Mortal Kombat และโดเรมอน ในขณะที่ต้นทุนและค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารลดลงเล็กน้อยจาก 1Q21 เนื่องจากบริษัทได้ส่วนลดต่อเนื่องจากปีที่แล้ว
ปรับประมาณใหม่สะท้อนการขายหุ้น SF และผลกระทบ COVID-19 ระลอก 3
เราคาดผลประกอบการจะกลับมาเป็นกำไรได้ใน 4Q21F จากคาดสถานณการณ์ COVID-19 ผ่อนคลาย และหนังค่ายสตูดิโอดังต่างๆ เตรียมพร้อมฉายภาพยนตร์ได้ตั้งแต่เดือน ส.ค.21 เป็นต้นไป ได้แก่ Fast &Furious 9, Black Widow, Venom, Infinite, Top Gud 2 , Spider Man3, Jungle Cruise, Minions เป็นต้น
เราปรับประมาณการผลประกอบการปี 2021F เป็นกำไรสุทธิ 2,338 ล้านบาท โดยหากไม่รวมกำไรจากการขายหุ้น SF จำนวน 2,824 ล้านบาท และการหยุดรับส่วนแบ่งกำไรจากการขายหุ้น SF ตั้งแต่เดือน ส.ค.21 เป็นต้นไป บริษัทจะขาดทุนจากธุรกิจหลัก 486 ล้านบาท เนื่องจากผลกระทบ COVID-19 ระลอก 3 รุนแรงกว่าที่คาดไว้ ส่งผลให้มีการปิดโรงหนังในพื้นที่เสี่ยงต่อเนื่องและความกังวลของผู้บริโภคในการเข้าพื้นที่เสี่ยง และคาดปี 2022F จะกลับมาเป็นกำไรสุทธิได้ 647 ล้านบาท หลังสถานการณ์ COVID-19 ผ่อนคลายและหนัง Hollywood หลายเรื่องที่ทยอยฉาย ด้านต้นทุนและค่าใช้จ่ายปี 2021F ยังคงลดลงต่อเนื่องจากการต่อรองเจรจาในปีนี้
เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ”
ราคาเป้าหมายใหม่เป็นปี 2022 อยู่ที่ 31 บาท จากเดิม 22.5 บาท (อ้างอิงวิธี sum of the part) โดยมูลค่า MAJOR อยู่ที่ 30 บาท (DCF, WACC 7.1%) และ MJLF 1 บาท คาดสถานะการเงินแข็งแกร่งเป็น net cash โดยคาดหลังจากการขาย SF และจ่ายคืนหนี้บางส่วนแล้วจะมีเงินสดในมือปี 2021 ที่ 5,200 ล้านบาท เราคาดบริษัทจะจ่ายเงินปันผลคาด Dividend Yield’21-22 ที่ 4.1% และ 2.6% ตามลำดับ
เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” จากสถานการณ์การแพร่ระบาด COVID-19 คาดจะค่อยๆดีขึ้นในช่วง 4Q21F เป็นต้นไป หลังจากเริ่มมีการใช้วัคซีนป้องกัน COVID-19 และค่ายหนังใหญ่เริ่มกลับมาฉายได้ ความเสี่ยง : 1) เศรษฐกิจซบเซา 2) สถากนารณ์ COVID-19 ยืดเยื้อ