บล.เคจีไอ (ประเทศไทย):
Bumrungrad Hospital (BH.BK/BH TB)* ผลประกอบการพลิกกลับสู่ความแข็งแกร่งอีกครั้ง
Event
ปรับเพิ่มประมาณการกำไรตั้งแต่ปี 2565F
Impact
เรามองแนวโน้มของ BH เป็นบวก
ผลการดำเนินงานของ BH แข็งแกร่งเกินคาดใน 2H64 โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน 4Q64 ที่กำไรสุทธิออกมาน่าพอใจที่ 612 ล้านบาท (+253.8% YoY, +106.8% QoQ) ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดใหม่รายไตรมาสในรอบสองปี นอกจากนี้ กำไรสุทธิใน 4Q64 ยังคิดเป็น 70% ของระดับกำไรก่อน COVID ระบาด (จำนวนผู้ป่วยต่างชาติที่บินเข้ามารับบริการคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 50% ของระดับก่อน COVID ระบาด) ในขณะที่ 4Q64 การเปิดประเทศเพิ่งอยู่ในช่วงต้นเท่านั้นใน ซึ่งถือเป็นสัญญาณบวกสำหรับการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งของ BH เนื่องจากรายได้จากผู้ป่วยต่างชาติของ BH ใน 4Q64 เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งถึง 75.5% YoY และ 90.7% QoQ นอกจากนี้ เรายังคาดว่าผลการดำเนินงานของ BH จะดีขึ้นอย่างต่อเนื่องในอีกสองสามปีข้างหน้า เนื่องจาก i) จำนวนผู้ป่วยทั้งไทยและต่างชาติฟื้นตัวขึ้นหลังผ่านช่วงเวลาที่ COVID-19 ระบาดหนัก ii) คุมต้นทุนและค่าใช้จ่าย SG&A ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
แนวโน้มดูสดใสใน 1Q65
สำหรับแนวโน้มใน 1Q65 เราคาดว่าผลการดำเนินงานของ BH จะยังคงแข็งแกร่งต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยหนุนจาก i) โมเมนตั้มที่เป็นบวกของจำนวนผู้ป่วยต่างชาติที่มาใช้บริการของโรงพยาบาล (เหมือนกับใน 4064) ii) ได้อานิสงส์จากการที่มีผู้ติดเชื้อสายพันธุ์ Omicron เพิ่มขึ้นใน 1Q65 และ iii) สามารถคุมต้นทุนและค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ BH มีจำนวนผู้ป่วยต่างชาติ 119 รายในเดือนมกราคม 2565 จาก 217 รายใน 4Q64 ดังนั้น เราจึงเชื่อว่าบริษัทจะยังคงได้ประโยชน์จากผู้ป่วยต่างชาติใน 1Q65 นอกจากนี้ กลุ่มผู้ป่วยชาวไทยของ BH ก็มีแนวโน้มแข็งแกร่งเช่นกัน โดยรายได้จากผู้ป่วยไทยยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง QoQ และทำสถิติสูงสุดใหม่ใน 4Q64 (+16.6% จาก 3Q64, +22.6% จาก 2Q64 และ +37.4% จาก 1Q64)
ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี FY65-66F ขึ้นอีก 34.6% และ 63.1%
เมื่อพิจารณาผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งเกินคาดของ BH ในปี FY64 และแนวโน้มที่สดใสมากขึ้นในระยะต่อไป เราจึงมองบวกกับแนวโน้มการเติบโตของบริษัทในระยะยาว ดังนั้น เราจึงปรับเพิ่มประมาณการกําไรปี 65F และ FY66F โดยคาดว่า i) รายได้จะโต 11.9% จากผู้ป่วยต่างชาติ อัตรากําไรขั้นต้นจะเพิ่มขึ้นเป็น 41.0% และ 43.0% (จาก 40.0%) และ ii) สัดส่วน SG&A/รายได้ จะลดลงเหลือ 23.0% และ 21.0% (จาก 25.0%) ดังนั้น เราจึงปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี FY65F ขึ้นจากเดิม 34.6% เป็น 2.53 พันล้านบาท (+108.3% YoY) และปี FY66F ขึ้นจากเดิม 63.1% เป็น 3.53 พันล้านบาท (+39.4% YoY)
Valuation & Action
จากแนวโน้มที่ดีขึ้นในระยะยาว เราจึงยังคงคำแนะนำถือ และประเมินราคาเป้าหมาย DCF ปี 2565 ใหม่ที่ 182 บาท (ใช้ WACC ที่ 8.2% และ TG ที่ 2%) จากเดิม 148 บาท
Risks
COVID-19 ระบาด, การแทรกแซงของรัฐบาล และเกิดเหตุก่อการร้ายครั้งใหญ่