บล.เอเชียพลัส
ตั้งเป้า 7 ยุทธศาสตร์สู่ธุรกิจพลังงานในอนาคต
วานนี้ทาง BGRIM เปิดเผยแผน 7 ยุทธศาสตร์ โดยตั้งเป้าแผนระยะยาวเติบโตสู่ 7.2 พันเมกะวัตต์ในปี 2568 และมุ่งสู่ 1 หมื่นเมกะวัตต์ ในปี 2573 เพื่อเป้าหมายรายได้กว่า 1 แสนล้านบาท/ปี จากปัจจุบันที่มีโรงไฟฟ้าที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้ว 48 โครงการ กำลังการผลิตติดตั้ง 3.1 พันเมกะวัตต์
สำหรับแผนการลงทุนระยะยาวในช่วง 10 ปีข้างหน้า ทาง BGRIM คาดว่าจะใช้เงินลงทุนราว 2.5-3 แสนล้านบาท โดยจะใช้เครื่องมือทางการเงินทั้งในตลาดทุนและตลาดตราสารหนี้สำหรับรองรับแผนการลงทุนในอนาคต โดยยืนยันยังไม่มีแผนเพิ่มทุนในช่วง 5 ปีข้างหน้า
สำหรับ 7 ยุทธศาสตร์หลักในการขับเคลื่อนองค์กร ประกอบด้วย
1. ขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าทั้งจากก๊าซธรรมชาติและพลังงานสะอาดภายใต้รูปแบบสัมปทานกับภาครัฐในประเทศต่างๆ ทั่วโลก
2. สร้างบทบาทสำคัญในธุรกิจก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) และเชื้อเพลิงสะอาด
3. ให้บริการลูกค้าอุตสาหกรรมด้านสาธารณูปโภคแบบครบวงจร
4. ให้บริการสาธารณูปโภคครบวงจรสำหรับกลุ่มอาคารพาณิชย์
5. ขยายธุรกิจระบบการส่งและระบบการจำหน่ายไฟฟ้าในภูมิภาค
6. ให้บริการพลังงานที่มีคุณภาพและเสถียรภาพผ่านการซื้อขายในระบบ energy trading
7. เดินหน้าพัฒนาโมเดลธุรกิจในรูปแบบต่างๆ เพื่อรองรับ digital transformation ด้วยความร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำทั้งในประเทศและต่างประเทศ และการขับเคลื่อนด้วยทีมงานคนรุ่นใหม่
ส่วนด้านความคืบหน้าการเข้าซื้อกิจการโรงไฟฟ้า ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการเจรจาราว 3-4โครงการ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งมีทั้งในรูปแบบโรงไฟฟ้าพลังงานก๊าซธรรมชาติและโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน โดยคาดจะสามารถทำ M&A ในปีนี้ได้อย่างน้อย น้อย 300-500 MW ส่วนโครงการอื่นๆ อาทิ โครงการบ่อทอง กำลังการผลิต 16 MW และโครงการอู่ตะเภา 15 MW ยังอยู่ระหว่างก่อสร้างตามแผน นอกจากนี้การนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) อีก 1.2 ล้านตันต่อปีถือเป็นการช่วยลดต้นทุนค่าก๊าซธรรมชาติของบริษัท และช่วยให้ BGRIM เข้าถึงตลาดกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมได้มากขึ้น รวมถึงมีโอกาสต่อยอดในการใช้ไทยเป็นฐานในการส่งออกไปยังตลาดประเทศเพื่อนบ้านและภูมิภาคได้ในอนาคต ทั้งนี้ประเด็นดังกล่าว ถือเป็นแผนกลยุทธ์ในระยะยาว สำหรับมูลค่าเพิ่มที่จะทยอยได้จากโครงการใหม่ๆในอนาคต ซึ่งฝ่ายวิจัยยังไม่รวมไว้ในประมาณการ ถือเป็น upside หากทำได้จริง เบื้องต้นฝ่ายวิจัยยังคงมูลค่าพื้นฐานปี 2564 อยู่ที่ 52 บาท/หุ้น ช่วงที่ผ่านมาราคาหุ้นปรับฐานจนมีupside กว่า 24% แนะนำทยอยซื้อสะสมลงทุน
แนะนำ : buy
ราคาปัจจุบัน (บาท) 41.75
ราคาเป้าหมาย (บาท) 52.00
