CEYE เตรียมตัวเป็นหุ้นน้องใหม่ในตลาดหลักทรัพย์ mai หลัง ก.ล.ต.นับหนึ่งไฟลิ่ง รอไฟเขียวเสนอขาย IPO จำนวน 70 ล้านหุ้น เตรียมเดินสายโรดโชว์ให้ข้อมูลนักลงทุน คาดลงกระดานเทรดได้ในช่วงไตรมาส  2/25 ชูจุดเด่นจากการเป็นผู้คร่ำหวอดในวงการสื่อโฆษณาระดับบริษัทบิ๊กเนมทั้งในและต่างประเทศเ รวมทั้งเป็นเจ้าของธุรกิจสตูดิโอไม้ยืนต้นและสื่อออนไลน์แบบครบวงจร

 

นางสาวสุวรรณี สุวรรณแสงโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ตาชำนิ จำกัด (มหาชน) หรือ CEYE เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญในการขยายบริการให้ครบวงจร เป็น One stop services creative and production solution และลงทุนในส่วนขั้นตอนภายหลังการผลิต ธุรกิจที่เกี่ยวข้อง และโปรดักชันแพลตฟอร์ม เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมครีเอทีฟ และการให้บริการด้านผลิตคอนเทนต์ ให้มีความพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงของการตลาดในยุคต่อไป และความพร้อมสำหรับการขยายธุรกิจไปในต่างประเทศ แบบไร้ขีดจำกัด

สำหรับประเภทธุรกิจของบริษัทแบ่งเป็น 5 กลุ่มหลัก ได้แก่ บริการผลิตภาพนิ่งสำหรับสื่อโฆษณา  บริการผลิตภาพเคลื่อนไหวสำหรับสื่อโฆษณา  บริการตกแต่งภาพด้วยคอมพิวเตอร์ บริการให้เช่าสตูดิโอ และบริการอื่นๆ ได้แก่ ผลิตสื่อออนไลน์ 5 สื่อ ประกอบด้วย Spectrum, Shifter, Love Like Laugh, Myanmar Good Friend และ Landmark ผ่านช่องทาง Facebook, Youtube, Instagram, Website, Twitter และ TikTok และให้บริการบริหารสื่อออนไลน์ให้แก่ลูกค้า เช่น Facebook

ส่วนวัตถุประสงค์การใช้เงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ เพื่อใช้ลงทุนโครงการในอนาคต รองรับโอกาสในการขยายไปยังกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้อง เพื่อเพิ่มความสามารถในการเติบโต และสร้างผลตอบแทนสูงสุดต่อผู้ถือหุ้น โดยนำไปใช้ลงทุนโครงการก่อสร้างอาคารสำนักงานแห่งใหม่ พื้นที่ประมาณ 1,000 ตารางเมตร และโครงการลงทุนในส่วนอุปกรณ์การผลิต โดยลงทุนในอุปกรณ์การถ่ายภาพ ถ่ายวีดีโอ รวมทั้งนำไปชำระคืนเงินกู้ให้แก่สถาบันการเงิน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ เพื่อสร้างความแข็งแกร่งทางด้านการเงิน

ขณะที่ภาพรวมผลประกอบการงวดประจำปี 2564 มีรายได้รวม 272.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 17.53% และมีกำไรสุทธิ 28.45 ล้านบาท เติบโต 101.89% เมื่อเทียบกับปีก่อน เนื่องจากมีรายได้เติบโตขึ้นในทุกกลุ่มธุรกิจ โดยมีสัดส่วนรายได้จากการให้บริการผลิตภาพนิ่ง 50.07% ผลิตภาพเคลื่อนไหว 26.73% รายได้จากการให้บริการตกแต่งภาพด้วยคอมพิวเตอร์ 11.50% รายได้จากการให้เช่าสตูดิโอ 3.82% และรายได้จากการให้บริการอื่นๆ ได้แก่ บริหารสื่อออนไลน์ (Social Media Management) และผลิตสื่อออนไลน์ (Online Media) อยู่ที่ 5.50% ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจใหม่ของบริษัทที่น่าจับตามอง เพราะกำลังจะต่อยอดไปสู่รูปแบบบริการ และกิจกรรมใหม่ๆ ที่บริษัทมั่นใจว่าจะเป็นอีกกลุ่มธุรกิจที่จะสามารถสร้างความเติบโตได้ในระยะยาว และมีรายได้อื่นอีก 2.38%

นอกจากนี้ ในไตรมาส 4/64 มาตรการผ่อนคลายของรัฐบาลในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 มีทิศทางที่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2563 ถึงไตรมาส 3/64 ที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการ Lockdown ส่งผลให้ผลประกอบการงวดไตรมาส 4/64 ของ CEYE ปรับตัวดีขึ้นอย่างมาก โดยมีรายได้รวม 87.29 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 52.95% จากไตรมาสก่อน และกำไรสุทธิ 15.30 ล้านบาท เติบโตขึ้น 1,430% จากไตรมาสก่อน ดังนั้น แนวโน้มการเติบโตของกลุ่มบริษัทมีทิศทางสดใสมากขึ้น สอดรับกับเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวต่อเนื่องในปี 2565 อีกทั้งการผ่อนคลายมาตรการ Lockdown และมาตรการการจำกัดการรวมกลุ่ม ทำให้กระบวนการผลิตสื่อโฆษณาสามารถกลับมาดำเนินการได้ตามปกติ

ด้านนายเอกจักร บัวหภักดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แคปปิตอล วัน พาร์ทเนอร์ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของ บริษัท ตาชำนิ จำกัด (มหาชน) หรือ CEYE เปิดเผยว่า ล่าสุด สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้นับหนึ่งแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ของ CEYE เป็นที่เรียบรอ้ยแล้ว โดยบริษัทเตรียมเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 70 ล้านหุ้น คิดเป็น 25.93% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ และคาดจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในหมวดธุรกิจบริการ (service) ในช่วงไตรมาส 2/65

“ปัจจุบัน CEYE มีทุนจดทะเบียน 135 ล้านบาท ทุนที่เรียกชำระแล้ว  100 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท โดย CEYE มีจุดเด่นจากทีมผู้บริหารและผู้ก่อตั้งมีชื่อเสียง และประสบการณ์กว่า 30 ปี ซึ่งเป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายในวงการโฆษณา ไม่หยุดนิ่งในการมุ่งเน้นพัฒนาคุณภาพของการให้บริการ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันในระยะยาว รวมถึง กลยุทธ์ในการต่อยอดสื่อโฆษณาที่บริษัทมีความแข่งแกร่ง ไปยังแพลตฟอร์มหรือช่องทางใหม่ๆ รับเทรนด์ผู้บริโภคและเข้าสู่ยุคดิจิทัล โดยชูความครีเอทีฟและคุณภาพงานเป็นหัวใจในการดำเนินธุรกิจ มีฐานลูกค้าเป็นองค์กรมีชื่อเสียง ถึงแม้ภายใต้สถานการณ์โควิด แต่เทรนด์สื่อโฆษณายังเป็นที่น่าจับตามอง CEYE จึงพร้อมนำเงินระดมทุนเสริมโอกาสการเติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยบริษัทเตรียมนำเสนอข้อมูลต่อนักลงทุน (โรดโชว์) ในช่วงปลายเดือนมีนาคมนี้” นายเอกจักร กล่าว

********

- Advertisement -