บล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์:
Krung Thai Bank Plc. ธนาคาร กรุงไทย จำกัด (มหาชน)
คาดความร่วมมือในกลุ่ม ช่วยหนุนการเติบโตของกำไรปีนี้
- กำไรปี 64 โตสูง +29% YoY โดยมีสินเชื่อที่โตสูง +12.6% โดยสินเชื่อภาครัฐเป็นตัวหนุนหลัก
- คาดปี 65 ยังได้แรงหนุนจากสินเชื่อภาครัฐ จากการต้องเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำให้ KTB ยังมีสินเชื่อที่โตสูง บวกกับความร่วมมือของกลุ่มธุรกิจที่ใกล้ชิดมากขึ้น หนุนกำไรปี 65 โต 16% YoY
- KTB ถือเป็นหุ้นธนาคารที่มีราคาถูก เทรดเพียง 0.5xBV + คาดกำไรปี 65 ยังโตต่อเนื่อง + มี Dividend Yield ราว 3.1% ประกอบกับราคายังมี upside 17.8% แนะ “ซื้อ”
ประเด็นการลงทุน
- กำไรปี 64 โตดี +29% YoY โดยมีสินเชื่อโตสูงถึง 12.6% หนุนโดยสินเชื่อภาครัฐเป็นหลัก ทั้งนี้ กำไร ของ KTB ปี 64 เติบโตสูงถึง 29% YoY จากการตั้งสำรองที่ลดลงมาก เพราะตั้งมาก่อนหน้าเป็นจำนวนมาก มองว่าเพียงพอรองรับสินทรัพย์ด้อยคุณภาพระดับหนึ่ง ขณะที่ปี 64 มีสินเชื่อที่โตโดดเด่นมาก โดยโตสูงถึง 12.6% YoY ทั้งนี้ จะเห็นการเติบโตโดดเด่นของสินเชื่อภาครัฐที่โตสูงถึง 51% YoY ขณะที่สิ่งที่ทำได้ดีอีกอย่างคือการควบคุมจัดการกับค่าใช้จ่ายได้ดียังคงลดลงเล็กน้อยจากปีก่อน สำหรับลูกหนี้ที่เข้ามาตรการช่วยเหลือล่าสุดเหลือราว 4% ของสินเชื่อรวม ซึ่งมาตรการช่วยเหลือจบไปตั้งแต่สิ้นปี 64 โดยยังมีลูกหนี้จำนวนหนึ่งที่ยังต้องดูแล โดยใช้การปรับโครงสร้างหนี้ต่อไป
- ปี 65 ยังเน้นโตอย่างระมัดระวัง ตั้งเป้าสินเชื่อปี 65 โต 3-4% ปี 65 KTB ตั้งเป้าสินเชื่อโตเพียง 3-4% เน้น โตสินเชื่อรายย่อย ซึ่งเป้าดังกล่าวไม่รวมสินเชื่อภาครัฐ โดยหากมีสินเชื่อภาครัฐเข้ามาถือเป็น upside เพิ่มเติม ขณะที่รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยคาดโต single digit growth ส่วนเป้า NIM ทรงตัวใกล้เคียงปีก่อน ขณะที่ credit cost ใกล้เคียงปีก่อน +/- เล็กน้อย โดยระดับ Coverage ratio ที่ราว 160% เป็นระดับที่เหมาะสม และตั้งเป้าคุม NPL <3.5% ทั้งนี้ยังมองโอกาสการทำ cross selling ผ่าน digital หลังทำระบบ “เป๋าตังค์” ให้ภาครัฐจากฐานลูกค้ารายย่อยที่เพิ่มขึ้น และเน้นการเติบโตของกลุ่มธุรกิจ ร่วมมือกับบริษัทลูกๆ อย่าง KTC, กรุงไทยแอกซ่า เป็นต้น โดยจะทำให้กลุ่มธุรกิจมีความแข็งแกร่งมากขึ้น บนผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย เหมาะกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย เพื่อสร้างฐานธุรกิจให้แข็งแกร่งและเพิ่มรายได้และกำไรให้กับกลุ่มต่อไป ขณะเรื่องการจัดตั้ง AMC มองเป็นสิ่งที่ดีในการบริหารจัดการสินทรัพย์ โดยอยู่กำลังเจรจาอยู่กับบริษัททั้งในและนอกตลาดฯ 3-4 ราย แต่ยังไม่ได้ข้อสรุป
- ประเมินกำไรปี 65 โต 16% YoY + ประกาศจ่ายปันผลงวดปี 64 @0.418 บ. เราได้ประเมินกำไรสุทธิปี 65 ใหม่ ภายใต้สมมติฐานสินเชื่อโต 4% และ NIM ใกล้เคียงปีก่อน credit cost ที่ 1.25% ของสินเชื่อรวม ลดลงจาก 1.3% ปีก่อน คาดจะมีกำไร 2.5 หมื่นลบ. โตขึ้น 16% YoY ล่าสุดประกาศปันผลสำหรับงวดผลประกอบการปี 64 สำหรับผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิ @0.5725 และสำหรับผู้ถือหุ้นสามัญ @0.418 บ. XD 20 เม.ย.นี้ คิดเป็นอัตราเงินปันผลตอบแทน 4.24% และ 3.1%ต่อปี
คําแนะนํา
- แนะนำ “ซื้อ” เราประเมินราคาเป้าหมายใหม่ ภายใต้สมมติฐาน LT ROE ที่ 7.6% Cost of Equity ที่ 9.5% และ Long-term Growth 5% จะได้ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 15.90 บ. อิง 0.6xPBV65F ประกอบกับหุ้น KTB ปัจจุบันเทรดกันที่เพียง 0.5xPBV ถือว่าราคาค่อนข้างถูก และมี upside ถึง 17.8% แนะนำ “ซื้อ” ยังมีปันผลรับอีกราว 3.1%
ปัจจัยเสี่ยง
- การระบาดระลอกใหม่ของโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ + วิกฤติสงครามยูเครน-รัสเซียยืดเยื้อ ทำให้เศรษฐกิจถดถอยลงมากกว่าคาด + เกิดหนี้เสียเพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ