KWM ส่งซิกยอดคำสั่งซื้ออุปกรณ์ทางการเกษตรพุ่ง หลังลูกค้าเก่าซื้อซ้ำ ลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น ล่าสุดคว้าออเดอร์ใบผาล แล้วกว่า 50,000 ใบ ระบุจ่อรับออเดอร์เพิ่มหากมียอดคำสั่งซื้อพุ่งต่อเนื่อง เผยตุนสต็อกสินค้าพร้อมส่งทุกออเดอร์ รับช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ พร้อมสบช่องเดินเกมรุกขยายช่องทางออนไลน์ ภายใต้แบรนด์ “Pegasus” หวังเจาะตลาดลูกค้าโดยตรง เชื่อสามารถปั้นยอดขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ แตะ 100 ล้านบาท ดันรายได้รวมปีนี้เพิ่ม 10-15% ตามแผน

 

นางสาวติยาภรณ์ วนโกสุม กรรมการผู้จัดการ บริษัท เค.ดับบลิว.เม็ททัล เวิร์ค จำกัด (มหาชน) หรือ KWM เปิดเผยว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมการเกษตรในปี 2565 ยังคงมีการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง จากราคาพืชผลทางการเกษตรที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นตั้งแต่ปีก่อน ประกอบกับปริมาณน้ำที่ยังคงมีเพียงพอสำหรับการทำเกษตร จึงส่งผลในเชิงบวกต่อภาคการเกษตร จึงมองว่าเป็นโอกาสการเติบโตทางธุรกิจของกลุ่มผู้ประกอบการการผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์ทางการเกษตร ซึ่ง KWM ก็ได้รับอานิสงส์ดังกล่าวด้วย

ทั้งนี้ จากประเด็นดังกล่าว ส่งผลให้ KWM ประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 1/65 ว่า  จากดีมานด์การฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน มียอดคำสั่งซื้อกลับเข้ามาอย่างชัดเจน ประกอบกับบริษัทมีการสต็อกสินค้าไว้พร้อมสำหรับส่งมอบ โดยปัจจุบันบริษัทมีออดเดอร์ใบผาลเข้ามาแล้วอยู่ที่ประมาณ 50,000 ใบ ซึ่งถือว่ามากกว่าปกติที่จะผลิตได้ 30,000-40,000 ใบ โดยบริษัทมีความพร้อมในการส่งมอบสินค้าให้ครบในทุกคำสั่งซื้อ

อย่างไรก็ตาม บริษัทเตรียมสต็อกสินค้าไว้ตั้งแต่ช่วงปลายปีก่อน เพื่อรองรับช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ ซึ่งหากมียอดคำสั่งซื้อเข้ามามากกว่าปกติ บริษัทมีสินค้าเพียงพอและพร้อมส่งมอบเต็มจำนวนอย่างแน่นอน  ซึ่งสอดรับกับแผนกลยุทธ์สำหรับการรองรับการเติบโตทางธุรกิจ หลังจากที่บริษัทวางงบลงทุนไว้ 50 ล้านบาท ในการเพิ่มเครื่องจักรในการผลิตไลน์ใหม่ ซึ่งเป็นไลน์การผลิตที่ 3 ในระบบออโตเมชั่น ที่สามารถลดการใช้แรงงานและสามารถผลิตได้รวดเร็วยิ่งขึ้น โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงไตรมาส 1/65

ขณะเดียวกัน ยังมีแผนขยายการลงทุนในคลังสินค้า เพื่อรองรับความต้องการสินค้าช่วงไฮซีซั่นที่มีความต้องการสินค้ามากกว่าช่วงเวลาปกติ 2-3 เท่าตัว ซึ่งคลังสินค้าดังกล่าวคาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาส 2/65 ดังนั้น จากปัจจัยดังกล่าวเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพความพร้อมทั้งด้านการลงทุน การผลิต และการส่งมอบออดเอร์ที่ตอบโจทย์ตรงตามความต้องการของลูกค้า

“ปัจจัยหนุนที่ทำให้ยอดคำสั่งซื้ออุปกรณ์ทางการเกษตรเพิ่มขึ้น มาจากทั้งลูกค้าเดิมที่มีการซื้อซ้ำ ประกอบกับการมีลูกค้าใหม่ๆ เข้าเพิ่ม ซึ่งการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้คนหันมาทำการเกษตรมากขึ้น รวมถึงผู้ประกอบการรายใหญ่มีการปรับเปลี่ยนกระจายความเสี่ยง (Diversify) ไปในหลายธุรกิจมากขึ้น จึงทำให้มีการสั่งซื้ออุปกรณ์ทางการเกษตรเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง”

สำหรับแนวโน้มของผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ มีการฟื้นตัวอย่างชัดเจน หลังมีการสต็อกสินค้าและวัตถุดิบไว้แล้ว ประกอบกับการผลิตและจำหน่ายให้กับกลุ่มบริษัทการเกษตรชั้นนำ ได้แก่ บริษัท สยามคูโบต้า คอร์ปอเรชั่น จำกัด ภายใต้แบรนด์ “ตราช้าง” บริษัทเตรียมพัฒนาผลิตภัณฑ์ในกลุ่มใบจอบหมุน (ใบโรตารี่) และใบเกลียวรุ่นใหม่ๆ เพื่อเข้าไปจำหน่ายเพิ่มเติม เนื่องจากในช่วงก่อนหน้านี้ บริษัทสยามคูโบต้า ได้มีการนำเข้าสินค้าดังกล่าวจากต่างประเทศบางส่วน ซึ่งสยามคูโบต้า เล็งเห็นว่าหลังจากนี้จะให้ทาง KWM เป็นผู้ผลิตสินค้าดังกล่าวทดแทนจากนำเข้า ส่งผลให้ยอดคำสั่งซื้อจากช่องทางนี้เพิ่มขึ้น

ส่วนสินค้าภายใต้แบรนด์ “Pegasus” ซึ่งเป็นตราสินค้าของบริษัทที่ผลิตอุปกรณ์การเกษตร อาทิ ใบผาล ใบจักร ใบคัดท้าย โครงผาล ใบดันดิน ใบเกลียวลำเลียงนั้น ยังคงมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทเตรียมบุกตลาดเพิ่มมากขึ้น เพื่อจำหน่ายสินค้าผ่านระบบออนไลน์  ซึ่งการขยายช่องทางการจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์นั้น มองว่า มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เนื่องจากเป็นการขายตรงถึงผู้บริโภค (Consumer) แบบไม่มีผ่านคนกลาง ทำให้บริษัทตั้งเป้ายอดขายของบริษัทย่อยทั้งหมดโดยรวม ประมาณ 100 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ทำได้ 60 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 20% ของยอดขายรวม โดยจะเน้นทำการตลาดผ่านแพลตฟอร์ม อาทิ Facebook, TikTok และ Lazada ประกอบกับมีการออกแคมเปญทางการตลาดเพิ่มมากขึ้น ซึ่งการจำหน่ายผ่านช่องทางดังกล่าวมีมาร์จิ้นสูงกว่าช่องทางอื่นๆ ซึ่งจากแผนธุรกิจดังกล่าว ประเมินอัตราการเติบโตรายได้รวมในปีนี้เพิ่มขึ้น 10-15% จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 567.30 ล้านบาท

*****

- Advertisement -