Our View? ”ผ่อนคลาย”

คาดตลาดวันนี้ “Sideway Up” มองแนวรับที่บริเวณ 1,640/1,635 แนวต้านที่บริเวณ 1,665 / 1,670 คาดตลาดจะได้รับ Sentiment เชิงบวกจากตลาดต่างประเทศ หลังเมื่อคืนนี้กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานตัวเลขดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือน ก.พ. ปรับตัวข้ึน 0.8% น้อยกว่าที่ตลาดคาดที่ 0.9% และต่ำกว่าเดือนก่อนหน้าที่ระดับ 1.2% สะท้อนแนวโน้มเงินเฟ้อจากจากการใช้จ่ายของผู้ผลิตเริ่มชะลอตัวลงบ้าง ผสานกับราคาสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI เมื่อคืนนี้ ยังคงปรับตัวลดลงต่อเนื่องปิดที่ระดับ 96.44 ดอลลาร์/บาร์เรล -6.57 ดอลลาร์ (-6.38%) จากการที่จีนประกาศ Lockdown เมืองเซินเจิ้นและจี้หลิน เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของ COVID-19 รวมถึงแนวโน้มการกลับมาเร่ิมส่งออกน้ำมันของเวเนซุเอลา- อิหร่านให้กับสหรัฐ-ยุโรปต้ังแต่ช่วงกลางปีน้ี เรามองการท่ีราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงเร็ว คาดสะท้อนราคาน้ำมันดิบผ่านจุดสูงสุดไปแล้วท่ีระดับราว 130 ดอลลาร์/บาร์เรล ในช่วงต้นเดือนท่ีผ่านมา บ่งชี้การเร่งตัวข้ึนของอัตราเงินเฟ้ออาจไม่รุนแรงเหมือนที่ตลาดคาดไว้ก่อนหน้า

ทั้งน้ีเรายังคาดว่าตลาดยังคงรอดูผลการประชุม FOMC ของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ในคืนนี้ต่อ โดยเราคาดว่า FED จะขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกที่ระดับ 0.25% ตามที่ตลาดคาด หลังจบการประชุมดังกล่าว อย่างไรก็ตาม เราแนะนำให้ติดตามการเปิดเผยเกี่ยวกับแผนในการปรับลดขนาดงบดุลของ FED ในระยะถัดไป ซึ่งจะเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงความเร็วในการลดลงของกระแสเงินทุนส่วนเกินในตลาด คาดอาจส่งผลให้ตลาดผันผวนได้บ้าง

รวมท้ังยังคงติดตามความไม่แน่นอนระหว่างรัสเซีย-ยูเครน คาดน่าจะเห็นความคืบหน้าในการเจรจาหยุดยิงระหว่างทั้ง 2 ประเทศในระยะถัดไป ขณะการท่ีสหภาพยุโรป (EU) อนุมัติการออกมาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่กับรัสเซีย โดยห้ามการลงทุนในภาคพลังงานของรัสเซีย และห้ามส่งออกสินค้าฟุ่มเฟือย รวมถึงระงับการนำเข้าผลิตภัณฑ์เหล็กจากรัสเซีย คาดส่งผลกระทบต่อทิศทางตลาดค่อนข้างจำกัด อย่างไรก็ตาม เรามองสถานการณ์ดังกล่าวยังมีความไม่แน่นอนค่อนข้างสูง คาดจะส่งผลให้ตลาดยังคงผันผวนได้บ้างเล็กน้อย

สำหรับปัจจัยภายในประเทศ ยังคงแนะนำติดตามสถานการณ์ผู้ติดเชื้อ COVID-19 รายใหม่ในประเทศที่ยังทรงตัวอยู่ในระดับสูง พร้อมทั้งการกลายพันธุ์ของ COVID-19 สายพันธ์ุ Omicron ใหม่ในฮ่องกง (BA.2.2) ที่เริ่มพบในอังกฤษแล้ว คาดอาจส่งผลให้เห็นแรงเก็งกำไรหุ้นในกลุ่มโรงพยาบาล (BCH, BDMS, BH และ CHG) ได้ต่อ อย่างไรก็ดี เรายังคงชอบหุ้นใน 1.) กลุ่มค้าปลีก (MAKRO, CPALL, BJC, CRC, HMPRO, GLOBAL) ท่ียังมีความน่าสนใจในเชิง Valuation ซึ่งยังอยู่ในระดับต่ำ 2.) กลุ่ม AMC (BAM, CHAYO และ JMT) ที่คาดแนวโน้มการ JV กับธนาคารพาณิชย์ คาดจะหนุนทิศทางผลกำไรในปีนี้เติบโตโดดเด่น 3.) กลุ่มขนส่ง (BTS และ BEM) คาดผลการดำเนินงานมีแนวโน้มเริ่มฟื้นตัวขึ้นได้ หลังผ่านพ้นวิกฤต COVID-19 ไปแล้ว คาดผู้โดยสารรถไฟฟ้าเริ่มฟื้นตัวขึ้นตั้งแต่ช่วงต้นปีนี้ อีกทั้งเราเริ่มกลับมาชอบหุ้นใน 4.) กลุ่มธนาคาร (KBANK, SCB และ TTB) อีกครั้ง  หลังราคาที่ปรับตัวลงกดดัน Forward P/B ลงเหลือเพียง 0.68 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 3 ปี ท่ีระดับ 0.71 เท่า ขณะที่ Forward EPS ของหุ้นในกลุ่มธนาคารยังคงปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่องในระยะสั้น ล่าสุดอยู่ท่ีระดับ 46.29 คาดมีโอกาสเห็นแรงซื้อกลับหุ้นในกลุ่มธนาคารได้

ธีมการลงทุน “Selective Play”

หุ้นแนะนำวันนี้ “CPALL”

แนวรับ 66.00 / 65.00 Target 69.00 / 73.50 Stop <64.75

- Advertisement -