บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง: 

AAPICO Hitech (AH) แนวโน้มปี 2565 จะเติบโต

Company Update

ประเด็นการลงทุน

แนวโน้มปี 2565 ผู้บริหารตั้งเป้าหมายจะเติบโตสูง 30% แรงหนุนจากอุตสาหกรรมรถยนต์ที่จะเติบโต รวมถึงได้รับคำสั่งซื้อใหม่ ซึ่งเป็น Global Model ดีกว่าอุตสาหกรรมรถยนต์ที่ยอดผลิตรถยนต์ในปีนี้ 1.8 ล้านคัน เติบโต 7% ประมาณการของเราค่อนข้างอนุรักษ์นิยม ประเมินยอดขาย 23,045 ล้านบาท โต 12.8% และมีกำไรสุทธิ 1,130 ล้านบาท โต 10% ส่วนกำไรปกติโต 43% ราคาหุ้นปัจจุบันมี Valuation ที่ถูก ซื้อขาย P/E ปี 2565 ที่ 7.4 เท่า P/BV 0.9 เท่า และอัตราเงินปันผลตอบแทน 4.7% เราคงประเมินราคาเป้าหมาย 28 บาท บนค่า Forward P/E ปี 2565 เท่ากับ 8.8 เท่า โดยให้ส่วนลดจากค่าเฉลี่ย Forward P/E 10 ปี ซึ่งเท่ากับ 9.9 เท่า คงแนะนำ ซื้อ

4Q64 กำไรลดลง แต่รวมปี 2564 กำไรฟื้นตัวแรง

AH ประกาศผลประกอบการ 4Q64 มีกำไรสุทธิที่ลดลงเหลือเพียง 128 ล้านบาท (-45%QoQ, -18%YoY) แม้ว่าไตรมาสนี้จะมียอดขายที่ฟื้นตัวที่ดีขึ้น 5,770 ล้านบาท (+36%QoQ, +4%YoY) และอัตรากำไรขั้นต้นปรับดีขึ้นเป็น 10.0% จาก 9.3% ในไตรมาสก่อน และ 6.8% ในปีก่อน แต่ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพิ่มเป็น 449 ล้านบาท (+45%QoQ, +13%YoY) โดยถูกฉุดจากประเทศโปรตุเกสที่ขาดทุนร่วม 100 ล้านบาท จากปัญหาขาดแคลนไมโครชิปและเหล็กที่ขึ้นราคายังไม่สามารถปรับราคากับลูกค้าได้ รวมปี 2564 เป็นปีที่มีการฟื้นตัวแรงมียอดขายเท่ากับ 20,433 ล้านบาท โต 19% และมีกำไรสุทธิเท่ากับ 1,024 ล้านบาท เติบโตสูงถึง 593%YoY

แนวโน้มปี 2565 ผู้บริหารตั้งเป้าหมายจะโตสูง 30%

AH ได้จัดประชุมนักวิเคราะห์เมื่อวาน (15 มี.ค.) ผู้บริหารตั้งเป้าหมายในปีนี้จะเติบโตสูง 30% แรงหนุนจากอุตสาหกรรมรถยนต์ที่เติบโต ได้รับคำสั่งซื้อใหม่รถกระบะ Ford ซึ่งเป็น Global Model รับรู้ปีนี้ 800 ล้านบาท ปีหน้า 1.1 พันล้านบาท รถ EV จากค่าย Vinfast ของเวียดนาม 100 ล้านบาท เป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เพิ่มขึ้น คือ Mazda, MG, GWM เทียบกับยอดผลิตรถยนต์ในปีนี้ 1.8 ล้านคัน เติบโต 7% โดย AH จะเติบโตได้ดีกว่าอุตสาหกรรมรถยนต์รวมจากคำสั่งซื้อใหม่ สำหรับบริษัทย่อยในโปรตุเกส (สัดส่วน 18% ของยอดขาย) ซึ่งไตรมาสสี่ประสบปัญหาขาดแคลนไม่โครชิป ทำให้ตลาดยุโรปลดลงถึง 25% และทำให้ขาดทุนถึง 100 ล้านบาท ไตรมาสแรกจะฟื้นดีขึ้นไม่ขาดทุน และช่วงที่เหลือของปีจะมีกำไรที่ดีขึ้นเล็กน้อย

คงประมาณการแบบอนุรักษ์นิยม คาดยอดขายและกำไรปีนี้จะเติบโตต่อ

เราคงประมาณการแบบอนุรักษ์นิยม และต่ำกว่าประมาณการของผู้บริหาร ประเมินยอดขายเท่ากับ 23,045 ล้านบาท เติบโต 12.8% ดีกว่าอุตสาหกรรมรถยนต์ที่มียอดผลิต 1.8 ล้านบาท เติบโต 7% และคาดจะมีกำไรสุทธิ 1,130 ล้านบาท เติบโต 10% ถ้าไม่รวมกำไรอัตราแลกเปลี่ยนในปีก่อนจะมีกำไรปกติที่โตถึง 43%

- Advertisement -