บล.ทรีนีตี้

ไซมิส แอสเสท จำกัด – SA 

กำไรปี 2564 อ่อนตัวลง YoY ตามคาด พร้อมฟื้นตัวโดดเด่นในปี 2565

  • SA รายงานกำไรสุทธิ 4Q64 ที่ 40.7 ล้านบาท ปรับตัวสูงขึ้น 20.2% QoQ แต่ปรับตัวลดลง 70.3% YoY มีรายได้จากการโอนอยู่ที่ 411 ล้านบาท ปรับตัวลดลง 15% QoQ และ 60% YoY
  • รายงานกำไรปี 2564 ที่ 147 ล้านบาท ใกล้เคียงกับที่เราคาดการณ์ที่ 145 ล้านบาท มี รายได้จากโอนอยู่ที่ 2.08 พันล้านบาท ปรับตัวลดลง 32.8% YoY
  • คาดปี 2565 สามารถเติบโตทั้งรายได้และกำไร โดยการเติบโตจะมาจากโอนโครงการอสังหาริมทรัพย์ และร้านอาหารที่คาดว่าจะฟื้นตัวดีขึ้นจากฐานที่ต่ำ และการเติบโตของรายได้จาก Cloud Kitchen ที่เพิ่มสาขาจาก 5 สาขาเป็น 30 สาขา
  • ประเมินราคาเป้าหมายปี 2565 ที่ 17.50 บาท จากการอิง P/E ที่ 22.0X สูงกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากบริษัทมีการกระจายรายได้ไปยังกลุ่มโรงแรม ร้านอาหาร การขายสินค้า IT และธุรกิจ AMC

4Q64 Earnings Review

  • รายงานกำไรสุทธิ 4Q64 ที่ 40.7 ล้านบาท ปรับตัวสูงขึ้น 20.2% QoQ แต่ปรับตัวลดลง 70.3% YOY
  • รายงานรายได้จากการโอนอยู่ที่ 411 ล้านบาท ปรับตัวลดลง 15% QoQ และ 60% YoY และรายได้จากการบริการอยู่ที่ 38 ล้านบาท มาจากโครงการ Q Box Hotel และรายได้จากกลุ่มร้านอาหาร
  • รายงานกำไรปี 2564 ที่ 147 ล้านบาท ใกล้เคียงกับที่เราคาดการณ์ที่ 145 ล้านบาท ปรับตัวลดลงจากกำไร 542 ล้านบาทในปี 2563 โดยที่มีรายได้จากการขายโครงการอสังหาริมทรัพย์อยู่ที่ 2.08 พันล้านบาท ปรับตัวลดลง 32.8% YoY ในขณะที่รายได้จากการบริการอยู่ที่ 104.8 ล้านบาท ปรับตัวสูงขึ้น 114% YoY
  • Gross Margin กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ทั้งปี 2564 อยู่ที่ 38.7% อ่อนตัวลงจากปี 2563 ที่ 42.8% โดยในปี 2564 มีรายได้จากการโอนมาจาก 4 โครงการหลัก ได้แก่ Ramada Rsidence, Wyndham Garden Residence, Ramada Plaza by Wyndham Bangkok Sukhumvit 48 และ Siamese Exclusive 31

คาด 1Q65 ฟื้นตัวได้ QoQ

  • คาด 1Q65 จะมีผลประกอบการที่ฟื้นตัวได้ของกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ จากการผ่อนปรนมาตรการ LTV และการปลด Lockdown ที่จะช่วยให้ยอด Visit โครงการสูงขึ้น และมาตรการ Test&Go ที่ส่งผลให้มีชาวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลบวกต่อยอดขายโครงการที่เป็นคอนโด และรายได้จากกลุ่มโรงแรม เรายังคงคาดการณ์รายได้รวมปี 2565 ที่ 6.19 พันล้านบาท เติบโต 183%YoY และคาดกำไรสุทธิที่ 976 ล้านบาท เติบโตโดดเด่นจาก 147 ล้านบาทในปี 2564 เราคาดว่าการเปิดตัวโครงการใหม่ในปี 2565 จะมีการตอบรับที่ดี โดยเฉพาะที่อยู่อาศัยแนวราบระดับบน

ประเมินราคาเป้าหมายปี 2565 เท่ากับ 17.50 บาท

  • ยังคงแนะนำ “ซื้อ” และประเมินราคาเป้าหมายปี 2565 ที่ 17.50 บาท (จาก 14.00 บาท) จาก EPS 2565F ที่ 0.79 บาท/หุ้น โดยอิงค่า P/E ที่ 22X เป็นค่าเฉลี่ยย้อนหลังของ MINT ช่วงปี 2561-2562 (Pre-COVID) ซึ่งมีการประกอบธุรกิจที่ใกล้เคียงกับ SA ซึ่งการเติบโตในระยะยาวมีความน่าสนใจจากการเพิ่มฐานรายได้ไปยังกลุ่มที่มีการเติบโตสูง และระดับ P/E ที่สูงกว่ากลุ่มอสังหาริมทรัพย์ อาทิ Cloud Kitchen โรงแรม  โรงพยาบาล และ AMC

ความเสี่ยง : เศรษฐกิจในประเทศชะลอตัว, การระบาดของ COVID-19 ที่ยาวนาน, การแข่งขันและการลดราคาเพื่อเพิ่มยอดขาย, ลูกค้าต่างชาติยังไม่ฟื้นตัว, มาตรการ LTV

- Advertisement -