KS Daily View 18.03.2022 >>> ตลาดหุ้นโลกและตลาดหุ้นเอเซียคาดแกว่งตัว รอติดตามวันนี้ประธานาธิบดีโจ ไบเดนจะพูดคุยประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ทั้งเรื่องรัสเซีย-ยูเครน และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ/ SET คาด 1685 -1690 หุ้นแนะนำ MICRO

ตลาดต่างประเทศ : นับตั้งแต่การประชุม Fed ช่วงกลางสัปดาห์ตลาดหุ้นต่างประเทศ(สหรัฐ, ยุโรป และฝั่งเอเซีย) ปรับขึ้นติดต่อกัน 3 วัน โดยเช้านี้ตลาดหุ้นเอเซียเหนือ อาทิ ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้ปรับขึ้นในกรอบแคบๆ 0.4% ส่วนไทยคาดปรับขึ้นต่อแต่แกว่งในกรอบ 1685 -1690

KS ยังคงคำแนะนำคือ ขึ้นมาให้ขายทำกำไร โดยเฉพาะกลุ่มธนาคาร, กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์, กลุ่มปิโตรเคมี ฯลฯ ทั้งนี้เนื่องจากตลาดหุ้นโลกน่าจะ Price In ข่าวบวกไปแล้วทั้งประเด็นหลัง Fed ขึ้นอัตราดอกเบี้ย 25 bps ตามคาดและจะขึ้นต่อเนื่องอีก 6 ครั้งๆละ 25 bpsในปีนี้ รวมถึงสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครนมีพัฒนาการที่ดีขึ้น แม้จะยังมีการปะทะกัน แต่อีกฝั่งนึงการเจรจาเพื่อยุติและบรรลุสันติภาพยังมีอยู่ ปัจจุบันคือ รอบที่ 4 เป็นประเด็นที่ต้องติดตามต่อและติดตามวันนี้ประธานาธิบดีโจ ไบเดนจะพูดคุยทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนเพื่อหารือเรื่องรัสเซีย ยูเครน และปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

KS ประเมินว่าการปะทะรัสเซีย-ยูเครนมีโอกาสใกล้ถึงจุดสูงสุดในการปะทะกัน (Indicator ที่ใช้ประกอบ คือค่าเงินรูเบิล/ดอลลาร์ทิศทางแข็งค่าต่อเนื่อง 5 วันและแข็งค่าจากจุดสูงสุดราว 25% มาอยู่ที่ 103 บ่งชี้ว่าตลาดมองสงครามรัสเซีย ยุเครนทิศทางคลี่คลาย) แต่อย่างไรก็ตามระยะกลางถึงยาว KS เชื่อว่านานาประเทศจะยังคงมาตรการคว่ำบาตร หรือ Sanction ต่อรัสเซียต่อไป ตัวอย่างคล้ายๆกับ Trade war สหรัฐกับจีน หรือ อิหร่านที่ถูกคว่าบาตร ปัจจุบันยังถูกคว่ำบาตร

โดยรวมภาวะสงครามที่ยืดเยื้อจะกระทบเศรษฐกิจโลกในปี 2565 เป็นต้นไปอาจชะลอตัว หรือ เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย(Recession) นิยาม Recession คือ GDP ต้องติดลบ QoQ 2 ไตรมาสติดต่อกัน KS ประเมินเศรษฐกิจโลกและสหรัฐ โอกาสการเกิด Recession มีแต่โอกาสน้อย ให้น้ำหนักไปที่ยุโรปมากกว่า คาด GDP มีโอกาสหดตัว QoQ ในงวด 2Q-3Q65 เนื่องจากเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบจากสงครามมากกว่าประเทศอื่นๆเพราะมีการค้า ทั้งการนำเข้าพลังงานจากรัสเซียในอัตราที่สูง

ภาวะที่ปัจจัยภายนอกมีความเสี่ยง จากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว และตลาดเริ่มกังวลภาวะ Recession ซึ่งสะท้อนผ่าน Treasury Yield Spread เริ่มจาก 10-7 Year Treasury Yield Spread ช่วงกลางอาทิตย์ ลงมาติดลบครั้งแรก และเมื่อคืนตามมาด้วย 10-5 Year Treasury Yield Spread พลิกลงมาติดลบ ส่วน 10-2 Year Treasury Yield Spread ซึ่งเป็น Indicator ที่ KS ให้น้ำหนักมาตลอด ล่าสุด อยู่ที่ 26 bps คำแนะนำให้ติดตาม หากแนวโน้มยังเป็นขาลงต่อเนื่อง ยิ่งเข้าใกล้ 0 แนะนำทยอยลดน้ำหนักหุ้นในพอร์ต) แต่อีกฝั่งนึงเมื่อโอกาสเกิด recession มากขึ้น จะทำให้ Fund Flow ไหลเข้าไปใน 1.) สกุลเงินดอลลาร์ หนุนเงินบาทอ่อนค่าบวกต่อหุ้นส่งออก (แนะนำหุ้นส่งออก ASIAN, TU) 2.)พันธบัตร เงินจะไหลเข้า จะทำให้ Bond Yields ปรับลง และหุ้นกลุ่ม Tech จะเป็นที่พักเงิน(ทั้งฝั่งสหรัฐ และฮ่องกง)

ผลต่อตลาดหุ้นไทย KS ประเมินระยะถัดไป SET Index มีโอกาส Underperform แต่หุ้นกลุ่ม Growth มีโอกาส Outperform โดยคำแนะนำลงทุน Trading ในช่วงนี้ คือ 1.)กลุ่ม Tech Consult อาทิ BBIK BE8 2.)กลุ่มโรงไฟฟ้า GULF SSP ส่วนคำแนะนำสำหรับนักลงทุนที่ต้องการซื้อและถือ(BUY&Hold) คือกลุ่มการเงิน (THANI TIDLOR AEONTS BAM) และกลุ่มเครื่องดื่ม (OSP) ส่วนกลุ่มที่แนะนำชะลอการลงทุน คือ กลุ่มธนาคาร, กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์, กลุ่มปิโตรเคมี

มุมมองตลาดหุ้น SET คาด 1685 -1690 หุ้นแนะนำ MICRO

Top pick :

MICRO (ราคาพื้นฐาน 11.2 บาท) เมื่อวานนี้เราจัดงาน KS C-Series เชิญผู้บริหารสำคัญของ MICRO มาให้ข้อมูลกับกลุ่มลูกค้าสถาบันของเรา โดยเรามีมุมมองเชิงบวกเล็กน้อยจากการประชุม คงเป้าหมายเพิ่มการเติบโตของสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ใหม่เชิงรุก การมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับตัวแทนจำหน่ายเป็นจุดได้เปรียบในการแข่งขันที่สำคัญ โดยผลกระทบจากราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นค่อนข้างจำกัด โดยลูกค้าส่วนใหญ่ของ MICRO ตั้งราคาบวกจากต้นทุน โดยราคาหุ้นปัจจุบันเปิด Upside จากราคาเป้าหมายสูงราว 35%

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ

  • วันศุกร์ ติดตาม ตัวเลขยอดผลิตรถยนต์ของไทยในเดือน ก.พ. ตัวเลขเงินเฟ้อของญี่ปุ่น เดือน ก.พ. คาด +0.2% MoM และ +0.7% YoY การประชุมธนาคารกลางของญี่ปุ่น (BoJ) คาดคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ -0.1% การประชุมของธนาคารกลางรัสเซียคาดคงดอกเบี้ยนโยบายที่ 20% และตัวเลข Oil rig counts รายสัปดาห์ของสหรัฐฯ (ล่าสุด +8 แท่นเป็น 527 แท่น
- Advertisement -