Daily Strategy
ยังเน้นหาจังหวะลดพอร์ต ส่วนระยะสั้นแนะ BBL SCGP
เมื่อคืนที่ผ่านมา Dow Jones พลิกกลับมาบวกได้ 0.74% จากหน้าข่าวรายงานว่าตลาดเริ่ม Price In กับดอกเบี้ย FED ไปพอสมควร จึงเกิดแรงซื้อกลับเข้ามา ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดลบ 0.2% หลังมีรายงานว่ากลุ่ม EU โดยเฉพาะ Germany คัดค้านการที่ EU จะคว่ำบาตรรัสเซียในด้านพลังงาน เพราะมองว่า EU นั้นพึ่งพิงพลังงานจากรัสเซียค่อนข้างมาก โดย EU และสหรัฐจะประชุมหารือกันเรื่องดังกล่าวในวันที่ 24 มี.ค. โดยปัจจุบัน EU พึ่งพิงทั้งแก๊สธรรมชาติและน้ำมันดิบจากรัสเซียอันดับต้นๆ ส่วนเช้านี้ตลาดหุ้น Nikkei แกว่งบวกแข็งแกร่ง 1.78% สำหรับปัจจัยในประเทศวานนี้ รัฐบาลอนุมัติโครงการช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชน (พ.ค. – ก.ค. 2022) หลักๆ จะมี (1) ตรึงราคาขายปลีกน้ำมันดีเซล 30 บาท/ลิตร จนถึงสิ้นเดือน เม.ย. (2) ลดเงินสมทบทั้งนายจ้างและลูกจ้างในระบบประกันสังคมมาตรา 33 ลงเหลือ 1% จากเดิม 5% ผลคือทั้งนายจ้างและลูกจ้างก็จะส่งเงินประกันสังคมต่อเดือนเหลือเพียง 150 บาทจาก 750 บาท หรือมีเงินสดเพิ่มเข้ามาเดือนละ 600 บาท มองกลุ่มอิงการบริโภคจะได้ประโยชน์ อาทิ ค้าปลีก (BJC CPALL DOHOME GLOBAL HMPRO) ร้านอาหาร (M MINT) เครื่องดื่ม (CBG ICHI TACC) ดังนั้นปัจจัยรวมๆค่อนข้างจะดูเป็นบวก จึงประเมิน SET INDEX วันนี้แกว่งขึ้นกรอบ 1679-1690
เชิงกลยุทธ์การลงทุนการปรับขึ้นยังมองเป็นจังหวะลดพอร์ต เพราะเล็งเห็นถึงความเสี่ยงปรับลดประมาณการในช่วงถัดไป และ Valuation ที่ล่าสุดค่อนข้างแพง ระยะสั้นแนะ Trading ธนาคาร (BBL KBANK SCB) หุ้นที่มีน้ำมันเป็นต้นทุน (SCC SCGP)
BBL (ซื้อ/ราคาเป้าหมาย 162 บาท) คาดกำไรสุทธิปี 2022 โต 20% YoY และต่อต่อเนื่อง 10% ในปี 2023 ผลบวกจากสำรองหนี้ฯ ลดลง และรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้นล้อกับสินเชื่อ
SCGP (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 72 บาท) ประเมินภาพรวมกำไร 1Q22 ที่ยังแข็งแกร่ง QoQ จากราคากระดาษคราฟท์ที่แข็งแกร่ง หนุนจากอุปสงค์ทั้งในและต่างประเทศที่ค่อยๆ ปรับดีขึ้น และปัจจัยตามฤดูกาลในช่วงเทศกาลตรุษจีน โดยมองราคาหุ้นล่าสุดสะท้อนต้นทุนที่สูงขึ้นไปพอสมควร
