Our View? “ยังไหว!”

คาดตลาดวันนี้ “Sideway Up” ยังมองแนวรับที่บริเวณ 1,669 / 1,660 แนวต้านที่บริเวณ 1,685 / 1,695  เรามองตลาดยังคงขาดปัจจัยชี้นำใหม่เพื่อสนับสนุนการปรับตัวขึ้นได้ต่อ แม้ว่าเมื่อวานนี้ตลาดจะมีช่วงในการอ่อนตัวลงไปรับรู้ประเด็น นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ส่งสัญญาณในการประชุมสมาคมเศรษฐกิจธุรกิจแห่งชาติของสหรัฐว่า FED พร้อมปรับอัตราดอกเบี้ยสูงกว่าระดับ 0.25% หรือใช้มาตรการคุมเข้มมากกว่าที่ FED เคยทํา เพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่าตัวเลขเงินเฟ้อจะกลับมามีเสถียรภาพอีกครั้ง ในการประชุม FOMC หนึ่งครั้งหรือหลายครั้ง ซึ่งเรามองว่าตลาดรับรู้ (Price-In) ไปบ้างในระดับหนึ่งแล้ว

ขณะที่เรามีมุมมองเชิงบวกจาก Bloomberg รายงานรัฐบาลจีนเก็บสะสมเงินสดไว้เป็นประวัติการณ์ ในช่วง 2 เดือนแรกของปี โดยเพิ่มขึ้นรวมกัน 1.17 ล้านล้านหยวน หรือราว 1.84 หมื่นล้านดอลลาร์ สะท้อนแนวโน้มการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ของจีนในระยะถัดไป

อย่างไรก็ตาม เรามองการเร่งตัวขึ้นเร็วต่อเนื่องของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ (US Bond Yield) โดยรุ่นอายุ 10 ปี เช้านี้ทำจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่องอยู่ที่ระดับ 2.4117% (+3.69%) แม้จะสะท้อนนักลงทุนขายสินทรัพย์ ปลอดภัยและเข้าหาสินทรัพย์เสี่ยง อย่างไรก็ตาม เรามองการเร่งตัวขึ้นเร็วเกินไปของ US Bond Yield ส่งผลให้ส่วน ต่างระหว่างอัตราผลตอบแทนของสินทรัพย์เสี่ยง/สินทรัพย์ปลอดภัย (Earning Yield Gap) แคบลงเร็ว กดดัน-จํากัด Upside ทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงได้บ้าง แต่เป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นในกลุ่มประกัน (BLA และ THREL)

ทั้งนี้ยังต้องติดตามความไม่แน่นอนในการเจรจาหยุดยิงระหว่างรัสเซีย-ยูเครนต่อเนื่อง แม้จะมีสัญญาณเชิงบวกต่อเนื่อง จากแนวโน้มการปธน.เวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย และปธน.โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี อาจมีการเจรจาโดยตรงกันภายในเร็วๆ นี้ แต่มองสถานการณ์ดังกล่าวที่ยังมีความไม่แน่นอนค่อนข้างสูง คาดจะส่งผลให้ตลาดผันผวนระยะสั้นได้อยู่

ทางด้านราคาสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI เดือน เม.ย. เมื่อคืนนี้เริ่มชะลอกำลังลงแล้ว ปิดที่ระดับ 109.27 ดอลลาร์/บาร์เรล -0.70 ดอลลาร์ (-0.64%) ได้รับแรงกดดันจากรายงานรัฐมนตรีต่างประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรป (EU) มีความคิดเห็นไม่ตรงกันในประเด็นการออกมาตรการคว่ำบาตรการนําเข้านํ้ามันจากรัสเซีย โดยเฉพาะเยอรมนีที่พึ่งพิงพลังงานจากรัสเซียในสัดส่วนที่สูง คาดจะช่วยผ่อนคลายความกังวลดังกล่าวได้บ้าง กดดันทิศทางราคาน้ำมันดิบ-หุ้นในกลุ่มพลังงานอ่อนตัวลงถ่วงตลาดได้อีกครั้ง

สำหรับปัจจัยภายในประเทศ เรามีมุมมองเชิงบวกต่อการที่เมื่อวานนี้ที่ประชุม ครม. มีมติออกมาตรการช่วยเหลือประชาชนกว่า 10 มาตรการ โดยรวมแล้วเป็นการปรับลดค่าไฟ-ตรึงราคาน้ำมันดีเซล-ดูแลราคาก๊าซหุ้งต้ม และลดเงินสมทบประกันสังคมทั้ง ม.33 และ ม.39 เรามองเป็นจิตวิทยาเชิงบวกอ่อนๆ ต่อทิศทางเศรษฐกิจไทยได้บ้างเล็กน้อย ในส่วนของการที่ S&P ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของ 4 ธนาคารไทย (KBANK, SCB, KTB และ TTB) เรามองเป็นจิตวิทยาเชิงลบต่อราคาหุ้นในกลุ่มธนาคารได้บ้างในระยะสั้น ซึ่งจะส่งผลให้ธนาคารดังกล่าวมีต้นทุนในการระดมทุนผ่านการออกตราสารหนี้สูงขึ้นบ้าง แต่คาดส่งผลกระทบจํากัด จากการที่ธนาคารดังกล่าวพึ่งพาการระดม ทุนผ่านเงินฝากเป็นหลัก ขณะที่เราเชื่อว่าแนวโน้มเศรษฐกิจไทยที่ฟื้นตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป จะหนุนทิศทางผลประกอบการ-ราคาของหุ้นในกลุ่มธนาคารฟื้นตัวขึ้นได้ต่อเนื่อง

ธีมการลงทุน “Selective Play”

หุ้นแนะนำวันนี้ “BLA”

กลยุทธ์ ซื้อเล่นรอบ แนวรับ 41.00 / 40.00 Target 45.50 / 48.00 Stop <39.50

- Advertisement -