ทําไมตลาดหุ้นไม่กลัวมุมมองของประธานเฟด

ทำไมเราไม่อยากให้นักลงทุนกลัวมุมมองประธานเฟดมากเกินไป? แม้วานนี้เจอโรม พาวเวล จะให้มุมมองเกี่ยวกับการขึ้นดอกเบี้ยที่ค่อนข้างเร่งตัวกว่าที่ตลาดคาด แต่เหตุใดเราถึงไม่อยากให้นักลงทุนกังวลมากเกินไป และยังมองตลาดในระยะสั้นดี หากสรุปอีกครั้ง มาจาก

1) ตลาดแรงงานสหรัฐฯ แข็งแกร่งมากๆ และกลับมามีตำแหน่งงานมากกว่าช่วงวิกฤติโควิดแล้ว แต่ยังหาคนงานได้ไม่พอ)

2) เศรษฐกิจไม่เคยถดถอยในช่วงที่ขึ้นดอกเบี้ย แต่มักจะเห็นหลังจากวัฏจักรการขึ้นดอกเบี้ยถึงจุดสูงสุดไปแล้วระยะหนึ่ง ขณะที่เฟดพูดถึงการประคองให้เศรษฐกิจชะลอ (soft landing) ทำให้เรามองจะไม่เกิดเศรษฐกิจถดถอยในเร็วๆนี้

3) หุ้นไม่ได้กลัวเงินเฟ้อสูง แต่กลัวเศรษฐกิจแย่หรือถดถอย และในภาวะเงินเฟ้อสูง สินทรัพย์ที่สามารถป้องกันเงินเฟ้อได้มีจำกัด ขณะที่พันธบัตรมีความเสี่ยงจากเงินเฟ้อที่สูงกว่ามาก ทำให้เงินจากพันธบัตรบางส่วนอาจจำเป็นต้องโยกเข้าลงทุนในหุ้น อีกทั้งผลของความขัดแย้งยูเครนรัสเซีย ที่ทำให้เงินเฟ้อน่าจะอยู่ในระดับสูงไปตลอดทั้งปี

ยังคงมุมมองเชิงบวกกับตลาดระยะสั้น และคาดการณ์ว่าจะมี Window dressing ด้วยปัจจัยข้างต้น และการที่เศรษฐกิจไทยที่อยู่ในกลุ่มประเทศกระทบจากสถานการณ์โควิดมากที่สุด จะเริ่มดีขึ้นจากทั้งการเปิดเมืองและเปิดประเทศ ทำให้เราคงมุมมองเชิงบวกต่อตลาดในระยะ 2-4 สัปดาห์ ขณะที่อาจระวังกับแรงทํากําไรจากการปรับลดประมาณการที่อาจจะทำให้ตลาดหุ้นหลังผลประกอบการไตรมาส 1/65 (ปลายเม.ย.-พ.ค.) มีความผันผวนได้ หุ้นเด่นไตรมาส 2/65 ที่เราชอบได้แก่ BBL, TIDLOR, CPN, OSP, TRUE, ONEE, TOP และ ML // ขณะที่หุ้นที่สามารถเลือกเก็งกำไรในช่วงนี้ ได้แก่ KCE HANA, PJW, TTCL, THREL, BLA, IND, MAJOR, WORK, TH เป็นต้น

ประเด็นเก็งกำไรอื่น

1) กลุ่มพลังงาน PTTEP, BANPU, TOP (เน้นโรงกลั่น)

2) กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ เป็นกลุ่มที่มักจะเคลื่อนไหวได้ดีในภาวะเงินเฟ้อ อีกทั้ง valuation ต่ำ และปันผลสูง ทำให้มีโอกาสเห็นการฟื้นตัวของ LH, SPALI, AP, SC, ASW

3) กลุ่มบันเทิง งบโฆษณาที่ฟื้นตัวตามเศรษฐกิจ บวกต่อ ONEE, BEC, WORK, MONO

4) คุณเก็งกำไรทางเทคนิค อาทิ WFX, CV, UBE, RAM, IND, MAKRO, CPALL, JAS, BCP, AJ, PTL, PJW, III, TNP SAP

5) กลุ่มอาหารและเกษตร CPF, TU, GFPT, KSL

6) ค่าระวางเรือ PSL, TTA

7) น้ำมันลง SCC, PTTGC, BGRIM, GPSC, TASCO, AAV, EPG, SCGP, SFT

ภาพรวมกลยุทธ์: บรรยากาศเก็งกําไรโดยรวมยังเป็นบวก จากการเปิดประเทศรับการท่องเที่ยวและมาตรการดูแลค่าใช้จ่าย เป็นปัจจัยหนุนกลุ่มที่เกี่ยวข้อง ขณะที่ความเสี่ยงสําคัญจากการปรับประมาณการหลังงบไตรมาส 1/65 ในอีก 1-2 เดือน เป็นสิ่งที่ต้องจับตา

หุ้นแนะนำ: TOP*, ICHI*, TRUE*, PJW*

แนวรับ: 1,669-1,676 / แนวต้าน : 1,692-1,700 จุด สัดส่วน : เงินสด 50%:พอร์ตหุ้น 50%

ประเด็นการลงทุน

  • โกลด์แมนแซคส์คาดเฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.5% เดือนพ.ค.-มิ.ย. – โกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.50% ในการประชุมเดือนพ.ค.และเดือนมิ.ย. เพื่อสกัดเงินเฟ้อ
  • ธปท. ยันระบบธนาคารพาณิชย์ไทยยังแข็งแกร่ง แม้ S&P ปรับลดเครดิต – ธปท. ยันระบบธนาคารพาณิชย์ไทยยังแข็งแกร่ง โดยมีอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS ratio) อยู่ที่ 20% โดยระหว่างปี 2563-2564 และมีเงินสำรองของระบบธนาคารพาณิชย์ อยู่ที่ 8.9 แสนล้านบาท คิดเป็นกว่า 1.6 เท่าของสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL coverage ratio)
  • ครม.เห็นชอบมาตรการค้ำประกันสินเชื่อจาก พ.ร.ก. Soft Loan – ครม. เห็นชอบมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ที่ได้รับสินเชื่อภายใต้ พ.ร.ก.การให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบวิสาหกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ. 2563
  • AOT – เตรียมรับโอนสนามบินกระบี่-อุดร-บุรีรัมย์เพิ่ม Hub ภาคหนุนขึ้นศูนย์กลา อาเซียน
  • Opportunity day – 23 มี.ค. THANA, AIMIRT, WINMED, SCN, KK, GRAMMY / 24 มี.ค. SHR, ZEN, MOONG, PAP, SISB, SELIC, CPF / 25 มี.ค. STECH, TPIPL, NNCL, HPT, ASK, DEMCO, TKT

ประเด็นติดตาม: 23 มี.ค. – TH Trade Balance เดือน ก.พ., US New Home Sales เดือน ก.พ.

ประเด็นลงทุนสําหรับหุ้นแนะนำ

  • เก็งกำไร TOP* (65) : ผลการดำเนินงานเข้า high season และค่าการกลั่นคาดจะสูงในช่วงเม.ย.จากการปิดซ่อมโรงกลั่นทั่วโลก ตัดขาดทุน 49 บาท
  • เก็งกำไร ICHI* (12.60) : เก็งกำไรผลประกอบการเข้า high season ตัดขาดทุน 10.50 บาท
  • เก็งกำไร TRUE* (5.60) : เก็งกำไรมูลค่าหุ้นที่มีโอกาสปรับเพิ่มจาก Synergy ของการควบรวม ตัดขาดทุน 4.84 บาท
  • เก็งกำไร PJW* (5.50) : เก็งกำไรธุรกิจมีแนวโน้มที่ดีจากการเข้าสู่ธุรกิจพลาสติกที่ใช้ในการพทย์ ตัดขาดทุน 4.64 บาท

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของ ของราคาที่เข้าซื้อ)

Market News & Factors

ตลาดหุ้นสหรัฐ

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 200 จุดในวันอังคาร (22 มี.ค.) ขณะที่ดัชนี Nasdaq ดีดตัวขึ้นเกือบ 2% เนื่องจากนักลงทุนช้อนซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนปรับตัวรับถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ส่งสัญญาณเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทไนกี้ (อินโฟเควสท์)

ตลาดหุ้นยุโรป

ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นในวันอังคาร (22 มี.ค.) โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มธนาคารที่ปรับตัวขึ้นขานรับแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเชิงรุก หลังนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แสดงความเห็นว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่า 0.25% หากจำเป็น เพื่อสกัดกั้นเงินเฟ้อ (อินโฟเควสท์)

ตลาดหุ้นญี่ปุ่น

ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดบวก เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มส่งออก โดยเงินเยนอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับ ดอลลาร์ ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เสนอว่าอาจปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพื่อจัดการกับเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นในสหรัฐ (อินโฟเควสท์)

ตลาดน้ำมัน

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันอังคาร (22 มี.ค.) หลังมีรายงานว่าประเทศสมาชิก สหภาพยุโรป (EU) เสียงแตกเรื่องการคว่ำบาตรน้ำมันจากรัสเซีย โดยเฉพาะเยอรมนีที่ต้องพึ่งพาพลังงานจากรัสเซีย อย่างมาก ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันนี้ (อินโฟเควสท์)

โกลด์แมนแซคส์คาดเฟด ขึ้นดอกเบี้ย 0.5% เดือน พ.ค.-มิ.ย.

โกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.50% ในการประชุม เดือนพ.ค.และเดือนมิ.ย. เพื่อสกัดเงินเฟ้อ

ธปท. ยันระบบธนาคาร พาณิชย์ไทยยังแข็งแกร่ง แม้ S&P ปรับลดเครดิต

ธปท. ยันระบบธนาคารพาณิชย์ไทยยังแข็งแกร่ง โดยมีอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสียง (BIS ratio) อยู่ที่ 20% โดยระหว่างปี 2563-564 และมีเงินสำรองของระบบธนาคารพาณิชย์อยู่ที่ 8.9 แสนล้านบาท คิดเป็นกว่า 1.6 เท่าของสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL coverage ratio)

ครม.เห็นชอบมาตรการค้ำประกันสินเชื่อจาก พ.ร.ก. Soft Loan

ครม. เห็นชอบมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ที่ได้รับสินเชื่อภายใต้ พ.ร.ก.การให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบวิสาหกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ. 2563

AOT

เตรียมรับโอนสนามบินกระบี่-อุดร-บุรีรัมย์เพิ่ม Hub ภาคหนุนขึ้นศูนย์กลางอาเซียน

Report & Corporate News

Electronics Maintained MARKET WEIGHT

มีสถานการณ์ตึงเครียดมากมายทั่วโลก เช่น วิกฤตรัสเซีย-ยูเครน และการปิดเมืองจากโควิด-19 ในจีน เราคิดว่าหุ้นอิเล็คทรอนิกส์ของไทยบางบริษัท เช่น DELTA และ SVI น่าจะ outperform ซึ่งหนุนการเติบโตของกำไรในปี 2022 แม้จะมีอุปสรรคในระยะสั้น แต่เรายังคง MARKRT WEIGHT ในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์และแนะนำให้เลือกลงทุนรายตัว โดย top pick ของเราคือ DELTA และ SVI

KUN

แนวโน้มยอดโอนโครงการในไตรมาส 1/65 ในช่วงไตรมาส 1/65 มั่นใจว่าจะทำได้เกินเป้าหมายที่ตั้งไว้ 450 ล้านบาท หลังจากปัจจุบันมียอดขายไปได้แล้วกว่า 350 ล้านบาท จากจำนวนผู้เข้าชมโครงการเพิ่มขึ้นมากอย่างต่อเนื่อง  แม้ว่าจะยังมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด – 19 แต่ความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยแนวราบยังสูง จากพฤติกรรมการซื้อที่อยู่อาศัยหลังวิกฤติโควิด-19 ที่เปลี่ยนแปลงมาหาพื้นที่เพิ่มขึ้น โดยพบว่าลูกค้าส่วนใหญ่เข้ามาชมโครงการบ้านเดี่ยวระดับราคา 5 ล้านบาท (อินโฟเควสท์)

BBIK

ทำรายการขายหุ้นผ่านระบบการซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์บนกระดานใหญ่ (Big Lot) ให้กับกองทุนต่างชาติ ทั้งหมด 3 ราย จำนวน 4.8 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 60 บาท หรือคิดเป็น 4.8% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด (อินโฟเควสท์)

SABUY

เผยว่าปี 65 SABUY มีความมุ่งมั่นที่จะขยายจุดให้บริการให้เติบโตต่อไป โดยมีเป้าหมายในการเพิ่มจุดให้บริการ (Touch Point) ให้เป็นไม่ต่ำกว่า 500,000 จุด รวมทั้งเพิ่มบริการและเพิ่มความแข็งแกร่งรองรับการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี จึงเดินหน้าเตรียมความพร้อมด้วยการจัดตั้ง SABUY Digital ขึ้นมารองรับการเติบโตดังกล่าวนี้ (อินโฟเควสท์)

- Advertisement -