บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง:

Land & Houses (LH TB) กำไรโต ปันผลดี

คงแนะนำ ซื้อ อัพ TP ใหม่เป็น 10.8 บาท

เราคงแนะนำ ซื้อ LH เนื่องจากทุกธุรกิจมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างมีนัยยะ คาดกำไรเติบโต 22% YoY ในปี 2565 และ 10% YoY ในปี 2566 เรามองว่าครึ่งปีหลัง 65 จะเติบโตแข็งแกร่งจากหลายๆ ปัจจัยบวกในไตรมาส 3 ขณะที่ผลการดำเนินงานน่าจะสูงสุดในไตรมาส 4 ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซั่น ความเสี่ยง ได้แก่ แนวโน้มมหภาค อัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นจากราคาพลังงานที่พุ่งสูงขึ้น ปัญหาขาดแคลนแรงงาน และความล่าช้าในการเปิดตัวโครงการใหม่ หรือโครงการเสร็จช้า ปรับเพิ่มราคาเป้าหมายเป็น 10.80 บาท สะท้อนการปรับประมาณการกำไรและมูลค่าสินทรัพย์เพิ่มขึ้น

พรีเซลส์ เดือน ม.ค.- ก.พ. 2565 โตดี

ยอดขายล่วงหน้าในเดือนมกราคมปีนี้อยู่ที่ 3.2 พัน ลบ. และลดลงเหลือ 2.2-2.3 พันลบ. ในเดือนกุมภา เราประมาณการยอดขายล่วงหน้าในช่วงสองเดือนแรกที่ประมาณ 5.5 พันลบ. (+5% YoY) คิดเป็น 18% ของเป้าหมายทั้งปีที่ 3.1 หมื่น ลบ. (+8% YoY) จากโครงการใหม่ที่วางแผนไว้ทั้งหมดมูลค่า 2.9 หมื่น ลบ. (+50% YoY) ประมาณ 1.9 หมื่น ลบ.หรือ 63% จะเปิดตัวในครึ่งปีหลัง ซึ่งหมายความว่าโมเมนตัมจะยังคงแข็งแกร่งในทุกไตรมาสและสูงสุดในไตรมาส 4/65

เหตุการณ์สำคัญที่น่าจะเกิดขึ้นใน 3Q65

โครงการใหม่มูลค่า 1.1 หมื่น ลบ.ส่วนใหญ่มีแผนจะเปิดตัวในไตรมาส 3/65 ขณะเดียวกันก็จะเริ่มบันทึกรายได้จากคอนโดมิเนียม เดอะ คีย์ พระราม 3 มูลค่า 2 พัน ลบ. ส่วนศูนย์การค้า เทอร์มินอล 21 พระราม 3 และโรงแรมแกรนด์เซ็นพอยน์สเปซ พัทยา จะเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ด้วย การขายสินทรัพย์ในสหรัฐก็มีแนวโน้มว่าจะเกิดขึ้นใน 3Q65 เช่นกัน

คาดธุรกิจที่ไม่ใช่ธุรกิจหลักฟื้นตัวดีเช่นกัน

LH คาดว่าอัตราเข้าพักเฉลี่ย (OR) ของโรงแรมในพอร์ตจะเพิ่มขึ้นเป็น 50% ในปี 2565 จาก 25% ในปี 2564 ดังนั้น เราคาดว่ารายได้ค่าเช่า/บริการจะเพิ่มขึ้น 75% YoY เป็น 3.2 พันลบ. ในปีนี้ จาก 1.8 พัน ลบ. ในปี 2564 ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมอาจเพิ่มขึ้น 27% YoY เป็น 3 พันลบ. (ยังคงต่ำกว่าค่าเฉลี่ยก่อนเกิดโรคระบาดในช่วง 3 ปีที่ 3.3 พัน ลบ.) โดยได้แรงหนุนหลักจากการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งในกำไรของ HMPRO และ QH อย่างไรก็ตาม เราคาดว่ารายได้จากธุรกิจที่ไม่ใช่ธุรกิจหลักจะกลับสู่ระดับก่อนโควิดในปี 2567

- Advertisement -