บล.เอเชียพลัส:

ลุ้นกำไร New High พร้อมปันผลระหว่างกาล
คาดกำไร 2Q64 New High ที่ 426 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 400%YoY พร้อมลุ้นปันผลระหว่างกาลครั้งแรก 0.50 บาท ไตรมาสนี้ได้ปัจจัยหนุนจากราคาเหล็กแผ่นรีดร้อนที่ปรับขึ้นทุกเดือน อย่างไรก็ตามราคาเหล็กจีนที่เริ่มพักฐานทำให้ราคาเหล็กในประเทศช่วง 2H64 ไม่น่าขยับขึ้นต่อ ส่งผลให้ Gross margin ครึ่งปีหลังจะค่อยๆลดลงสู่ระดับปกติที่ 7-9% จาก 1H64 ที่ทำได้ 14%

ปรับประมาณการกำไรปีนี้ขึ้น 12% เป็น 1.2 พันล้านบาท ถือเป็นกำไรสูงสุดของบริษัท แต่เชื่อตลาดจะลดความสำคัญของกำไรในปีนี้ และให้น้ำหนักกับกำไรในปีหน้าที่ลดลง จึงปรับลด Expected PER ในการประเมิน FV ลงจาก 12 เท่า เหลือ 9 เท่า (Historical 8Y-1SD) ให้ราคาเหมาะสม 12.40 บาท มี Upside 22% และคาดหวังปันผลปีนี้ 9.8% แนะนำ ซื้อ

คาด 2Q64 กำไรสุทธิ 426 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 400%YoY
ผลดำเนินงาน 2Q64 ได้แรงหนุนจากราคาเหล็กแผ่นรีดร้อนที่ปรับขึ้นทุกเดือนจาก 27.9 บาท/ก.ก. ในเดือน เม.ย. เป็น 33.12 บาท/ก.ก. ในเดือน มิ.ย. ส่งผลให้ Gross margin ทำได้สูงถึง 14.2% แม้ปริมาณขายจะลดลงเหลือเพียง 1.7 แสนตัน เทียบกับ1Q64 ที่ขายได้ 2.06 แสนตัน แต่ราคาขายเฉลี่ยที่ปรับเพิ่มขึ้น 24%QoQ ช่วยให้ยอดขายยังเติบโตได้เล็กน้อยจาก 1Q64 ประเมินกำไรสุทธิงวด 2Q64 จะทำ New High อยู่ที่ 426 ล้านบาท
เพิ่มขึ้น 400%YoY และคาดหวังเงินปันผลระหว่างกาลเป็นครั้งแรกที่อัตรา 0.50 บาท/หุ้น

แนวโน้มกำไรผ่านจุด Peak ไปแล้ว แต่เชื่อยังอยู่ในระดับสูงเทียบกับภาวะปกติ
ราคาเหล็กแผ่นรีดร้อนในจีนปรับฐานลง 17% จากจุดสูงสุดช่วงกลางเดือน พ.ค 64 มาอยู่ที่ 870 USD/ton แต่เมื่อรวมค่าขนส่งถึงไทยจะอยู่ที่ 32 บาท/กก. ถือเป็น Benchmark ราคาเหล็กในประเทศ ทิศทางราคาเหล็กที่ไม่ได้ปรับขึ้นต่อเหมือนช่วง 1H64 จะทำให้ Gross margin ของ TMT ค่อยๆลดลงสู่ระดับปกติที่ 7-9% แต่ช่วง 3Q64 ยังมีอานิสงค์จากสต็อกต้นทุนต่ำที่ทำให้ Gross margin ยังอยู่ในระดับสูงกว่าปกติได้เล็กน้อย

ปรับ FV ปีนี้ลงเหลือ PER 9 เท่า สะท้อนกำไรที่ผ่านจุด Peak ไปแล้ว
ปรับประมาณการกำไรปีนี้ขึ้น 12% เป็น 1.2 พันล้านบาท ถือเป็นกำไรสูงสุดของบริษัท แต่เชื่อตลาดจะลดความสำคัญของกำไรในปีนี้ และให้น้ำหนักกับกำไรในปีหน้าที่ลดลง จึงปรับลด Expected PER ในการประเมิน FV ลงจาก 12 เท่า เหลือ 9 เท่า (Historical 8Y-1SD) ให้ราคาเหมาะสม 12.40 บาท มี Upside 22% และคาดหวังปันผลปีนี้ 9.8% แนะนำ ซื้อ

ประเด็นความเสี่ยง

1. หากเชื้อไวรัส Covid-19 ไม่สามารถควบคุมได้ และการกระจายวัคซีนทำได้ล่าช้า จนต้องกลับ lockdown ครั้งใหม่ จะส่งผลกระทบต่อปริมาณขายเหล็กของให้ต่ำกว่าคาด
2. ราคาเหล็กที่ผันผวนถือเป็นปัจจัยเสี่ยงอันดับต้นๆของ TMT โดยฝ่ายวิจัยได้ประเมิน Sensitivity Analysis พบว่าราคาเหล็กเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้น (ลดลง) ทุกๆ 1 บาท/กก. จะทำให้กำไรสุทธิปี 2564 เพิ่มขึ้น (ลดลง) 5% ของประมาณการปัจจุบัน

แนะนำ : ซื้อ
ราคาปัจจุบัน (บาท) 10.20
ราคาเป้าหมาย (บาท) 12.40
Upside (%) 21.57
Dividend Yield (%) 9.80

- Advertisement -