น้ํามันปรับฐานแรง 6.8% วันนี้แนะ Anti Oil (SCC TOA)
เมื่อคืนที่ผ่านมา Dow Jones ปิดบวกได้ 0.27% รับแรงหนุนจากหุ้นกลุ่ม TECH แต่ในช่วงแรกนั้นเกิดการปรับ ฐานลงเพราะตลาดกังวลถึงภาวะ Inverted Yield Curve ระหว่างพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 30 ปี (2.53%) กับ 5 ปี (2.55%) ส่งผลให้ส่วนต่างติดลบราว 0.016% อย่างไรก็ตาม แนะว่าต้องพิจารณาที่ 10 ปี กับ 2 ปี ซึ่งปัจจุบันส่วนต่างระหว่าง 10 ปี กับ 2 ปี ค่อนข้างแคบอยู่ที่เพียง 0.074% โดยครั้งล่าสุดระหว่าง 10 ปี และ 2 ปี ที่เกิด Inverted Yield Curve คือช่วง ส.ค. 2019 ก่อนที่ในปี 2020 จะเกิดภาวะ COVID-19 ส่งผลให้เศรษฐกิจทั่วโลกถดถอย ขณะที่ในอดีตย้อนหลังพบว่าเกิด Inverted Yield Curve ทั้งหมด 8 ครั้ง พบว่าถึง 7 ครั้งที่เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยตามมา ดังนั้นถือเป็นเครื่องมือที่ค่อนข้างแม่นยำ และเป็นปัจจัยที่ต้องติดตามใกล้ชิดจากนี้
ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปรับฐานลงมา 6.8% ตลาดกังวลถึงอุปสงค์ที่จะหายไปหลังจีนประกาศ Lock Down เมืองเซี่ยงไฮ้เพื่อควบคุมการแพร่ระบาด COVID-19 โดยประชาชนถูกสั่งห้ามออกจากบ้านเรือน รวมถึงการขนส่ง ต่างๆจะถูกปิดบริการ ขณะที่ธุรกิจต่างๆก็ต้องปิดให้บริการ นอกจากนี้ทาง EU ยังสามารถตกลงกันได้ต่อมาตรการ คว่ำบาตรด้านพลังงานจากรัสเซีย
โดยคืนนี้ไม่มีปัจจัยทางเศรษฐกิจที่โดดเด่น สำหรับไทยรอติดตามผลการประชุม กนง. ในวันพรุ่งนี้ คาดที่ประชุมยังคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับเดิม แต่แนะติดตามถ้อยแถลงด้านเศรษฐกิจ เชื่อว่าจะเกิดการปรับลดประมาณการทาง เศรษฐกิจสะท้อนเงินเฟ้อที่สูง
ประเมิน SET INDEX เคลื่อนไหวกรอบ 1678 – 1688 อาจเผชิญแรงกดดันจากกลุ่มน้ำมัน (PTTEP) กดดันตลาด อย่างไรก็ตาม ด้วยจิตวิทยาเช้านี้จาก Nikkei ที่เป็นบวก แกว่งบวกอยู่ราว 0.55% ประกอบกับน่าจะได้แรงหนุน จากกลุ่ม Anti Oil (SCC SCGP TOA) จึงน่าจะมีแรงหนุนมาประครองดัชนี เชิงกลยุทธ์การลงทุนยังมองระดับ Valuation ปัจจุบันไม่ใช่จุดควรเพิ่มพอร์ตการลงทุนแต่อย่างใด และควรเพิ่มการถือครองเงินสด ส่วน Trading ระยะสั้นยังสามารถกระทำได้ วันนี้แนะ Theme Anti Oil (SCC SCGP TOA TASCO) โรงไฟฟ้า (BGRIM GPSC)
SCC (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 445 บาท) คาดถึงภาพรวมเชิงบวกในปี 2022 จากอุปสงค์ที่ฟื้นตัวในธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง (CBM) และบรรจุภัณฑ์หลังคลายล็อกดาวน์ บวกกับราคาเคมีภัณฑ์ที่สูงขึ้น นอกจากนี้น้ำมันที่ ปรับฐานจะเป็นปัจจัยหนุนต่อกำไร
TOA (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 32 บาท) แม้คาดว่าผลประกอบการจะลดลงทั้ง QoQ และ YoY ใน 1Q22 เนื่องจาก GPM ที่กดดันจากต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้น ถึงแม้ว่ารายได้จะเพิ่มขึ้นแข็งแกร่ง YoY อย่างไรก็ตาม ระยะสั้นมีปัจจัยหนุนจากราคาน้ำมันที่ปรับฐาน ส่งผลตรงต่ออัตรากำไรขั้นต้น
*หมายเหตุ ชุดหุ้นที่แนะนำเหมาะสำหรับการซื้อเพื่อถือลงทุน 1-14 วัน หากนักลงทุนมีกำไรก็สามารถทำกำไรได้โดย แนะตั้ง Stop loss หากขาดทุนเกินกว่า 5% ส่วนราคาเป้าหมายเป็นราคาภายใน 1 ปีจากปัจจุบัน