Daily Focus: Value and Domestic Play
2022 SET Target: 1770
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index แกว่งตัวขึ้นได้ต่อเนื่อง ปิดบวกอีกเล็กน้อย 5.44 จุด ณ สิ้นวัน นำโดยหุ้นที่ได้อานิสงส์จากราคาน้ำมันดิบที่อ่อนตัวลง มูลค่าการซื้อขายหนาแน่นขึ้นเป็น 7.7 หมื่นลบ. สถาบันในประเทศยังคงขายสุทธิในตลาดหุ้นอีก 886 ลบ. ขณะที่นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิหนาแน่นและเร่งขึ้นเป็น 3.7 พันลบ. (แต่พลิกมา Short SET50 Index Futures กว่า 1 หมื่นสัญญา)
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาด SET Index จะยังคงแกว่งตัว Sideways to Sideways Up โดยมีแนวต้านหลักที่ 1,695-1,700 จุด ระยะสั้นคาดมีแรงหนุนจากการทำ Window Dressing ช่วงปิดไตรมาส ตลาดคาดหวังเชิงบวกต่อพัฒนาการของสงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่ดูผ่อนคลายขึ้นบ้าง โดยรัสเซียลดปฏิบัติการทางทหารในเคียฟ ขณะที่การเจรจาเมื่อวานมีรายงานว่ามีความคืบหน้า ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบและ Commodity ต่างๆมีจังหวะปรับลงแรง แต่ภาพรวมยังผันผวน ส่วนในประเทศวันนี้ติดตามการประชุมกนง.โดยเฉพาะการปรับ GDP และเงินเฟ้อ เราประเมินการปรับขึ้นของ SET Index ยังมี Upside จำกัด เนื่องจากปัจจุบันส่วนต่าง Bond Yield อายุ 2 ปีและ 10 ปีของสหรัฐฯแคบลงเหลือเพียง 0.03% ใกล้เกิด Inverted Yield Curve สะท้อนความกังวลของตลาดต่อการเกิดภาพ เศรษฐกิจถดถอย ขณะที่เงินเฟ้อสูงกดดันให้ FED ต้องเร่งขึ้นดอกเบี้ย ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อสินทรัพย์เสี่ยง เราจึงยังให้น้ำหนักการลงทุนในกลุ่ม Value และ Domestic Play ที่มี Valuation ไม่สูง ทนทานต่อภาวะเงินเฟ้อและนโยบายการเงินของธนาคารกลางทั่วโลกที่ตึงตัวได้ดี และกระทบจากสงครามน้อยกว่าภูมิภาคอื่น กลุ่มที่เราชอบยังคงเป็น ธนาคาร โรงกลั่น ค้าปลีก อสังหาฯ อาหารและเครื่องดื่ม การแพทย์ เป็นต้น
กลยุทธ์ : เน้นลงทุนในกลุ่ม Value และ Domestic Play ที่กระทบจากปัจจัยต่างประเทศจำกัด และได้อานิสงส์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ
หุ้นเด่นเดือน มี.ค. : BDMS, CPALL, OSP, PJW, TOP
หุ้นเด่นวันนี้ : IVL
- แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายเฉลี่ยจาก Consensus 58.21 บาท
- คาดกำไร 1H22 โตแกร่งจากราคาขาย PET และ Spread PET-PTA ที่ดีขึ้น โรงงานที่หยุดซ่อมบำรุงกลับมาเดินเครื่อง ธุรกิจเข้า High Season ใน 2Q22
- Consensus คาดกำไรปี 2022 +17% Y-Y เร่งตัวขึ้นต่อเนื่อง และมีแรงหนุนจากการรับรู้กำไรจาก Oxiteno ที่คาดปิดดีลได้ในเร็วๆนี้ และระยะยาวเน้นผลิตภัณฑ์ HVA มากขึ้น
- แนวรับ 46-45 บาท แนวต้าน 47-48//50 บาท
Fund Flow: วานนี้กระแสเงินทุนยังคงไหลออกจากภูมิภาคตามคาดแต่บางลงเหลือ US$156 ล้าน เม็ดเงินยังคงไหลออกจากไต้หวันและเกาหลีใต้ US$240 ล้านและ US$99 ล้าน ตามลำดับ ส่วนอาเซียนยังแข็งแกร่งโดยไหลเข้าไทยและอินโดนีเซีย ต่อเนื่องอีก US$109 ล้านและ US$77 ล้าน ตามลำดับ แนวโน้มของกระแสเงินทุนคาด ว่ายังค่อนไปในทิศทางไหลออกสำหรับเอเชียตะวันออก แต่เชื่อว่ายังไหลเข้าอาเซียน ตลาดยังคงจับตาการเจรจาระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ขณะที่ Bond Yield สหรัฐฯที่เริ่มใกล้เกิด Inverted Yield Curve มากขึ้น
ประเด็นสำคัญวันนี้
(0) จับตาประชุมกนง.วันนี้ เราคาดว่ายังอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.5% อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะมีการปรับประมาณการ GDP ลงจากปัจจุบันที่คาดปี 2022 +3.4% Y-Y โดยรวมผลกระทบจากสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน และมาตรการคว่ำบาตรของชาติตะวันตกไว้ในประมาณการ ขณะที่คาดการณ์เงินเฟ้อคาดว่าจะมีการปรับขึ้น และต้องจับ ตาถ้อยแถลงว่าธปท.มีความกังวลมากน้อยเพียงใด ซึ่งหากลากยาวอาจมีผลต่อการตัดสินใจขึ้นอัตราดอกเบี้ยใน 2H22
(+) CHAYO ตกลงขาย NPL ก้อนใหญ่มูลค่า 900 ลบ.แล้ว เราประเมินว่าจะมีการบันทึกกําไรหลังภาษีราว 150-180 ลบ.ใน 2Q22 หรือ 3Q22 ขึ้นอยู่กับ Cash Settlement ทำให้ประมาณการกำไรปี 2022 ปัจจุบันที่คาด +60% Y-Y มี Upside ราว 25-30% ขณะที่การดำเนินงานหลักใน 1Q22 แข็งแกร่ง เราคาดกำไรเร่งตัว +44% Q-Q, +9% Y-Y ยังคงราคาเป้าหมาย 16.60 บาท คงค่าแนะนำ “ซื้อ” อย่างไรก็ตาม ยังชอบ JMT (ราคาเป้าหมาย 80) มากที่สุดในกลุ่ม AMC (Source: FSSIA)
(+) TFG หลังสถานการณ์ COVID-19 คลี่คลาย ทำให้คำสั่งซื้อสูงขึ้นจากทั้งในประเทศและตลาดส่งออก เริ่มหาสายเรือได้มากขึ้น และมีการปรับราคาส่งออกเพื่อสะท้อนต้นทุนที่สูงขึ้น ทั้งราคาวัตถุดิบและค่าระวางเรือ จึงคาดกำไรจะกลับมาฟื้นตัวดีขึ้นตั้งแต่ 1Q22 (เบื้องต้นคาด +143% Q-Q แต่ยัง -15% Y-Y) ทั้งนี้บริษัทมีการล็อกราคาวัตถุดิบไว้ครอบคลุมถึง 2Q22 จึงคาดรายได้และ Marin จะฟื้นตัวได้ดีใน 1H22 และยังต้องติดตามแนวโน้มราคาวัตถุดิบใน 2H22 ซึ่งหากยังอยู่ในระดับสูงจะกระทบต่อ Margin ในระยะถัดไปได้ อย่างไรก็ตาม เราปรับลดกําไรปี 2022 ลงเหลือ +247% Y-Y จากฐานต่ำปีก่อน และปรับราคาเป้าหมายลงเหลือ 5.20 บาท สะท้อนต้นทุนที่สูงกว่าที่เคยคาด แต่ยังคง คำแนะนำ “ซื้อ”
(+) ตลาดดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 338.30 จุด หรือ 0.97% ปิดที่ 35,294.19 จุด จากความคืบหน้าในการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครน ขณะที่ผลสํารวจดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับขึ้นเป็น 107.2 ในเดือนมี.ค. ใกล้เคียงนักวิเคราะห์คาดที่ 107.5 จาก 105.7 ในเดือนก.พ.
(+) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดบวก จากความคืบหน้าการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครน
(+) ตลาดหุ้นเอเชีย ส่วนใหญ่ปรับขึ้น หลังราคาน้ำมันดิบชะลอลง และความหวังการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครน
(-) ค่าเงินบาทอ่อน ค่าลง ล่าสุดอยู่ที่บริเวณ 33.53 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ลดลง 1.72 ดอลลาร์ หรือ 1.6% ปิดที่ 104.24 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังมีความคืบหน้าเกี่ยวกับการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครน รวมถึงกดดันจากจีนล็อกดาวน์เมืองเซี่ยงไฮ้ ขณะที่ติดตาม EIA รายงานสต็อกน้ำมันในวันนี้ เวลา 21.30 น.ตามเวลาไทย ท่ามกลางนักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 1.7 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่ผ่านมา
(-) ราคาทองคำ COMEX ลดลง 26.7 ดอลลาร์ หรือ 1.37% ปิดที่ 1,918 ดอลลาร์/ออนซ์ จากแรงขายสินทรัพย์ปลอดภัย หลังมีรายงานความคืบหน้าในการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครน
SPDR Gold Trust ถือครองทองค่า 1,091.43 / -1.75