บล.ทรีนีตี้:
Better World Green – เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน (BWG)
4Q64 ขาดทุนต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 6 อีก 105 ล้านบาท
- BWG รายงานผลการดำเนินงาน 4Q64 ขาดทุนสุทธิที่ -105 ล้านบาท ขาดทุนมากกว่าที่เราคาดไว้ จาก 4Q63 ที่ขาดทุน -56 ล้านบาท และ 3064 ที่ขาดทุน -25 ล้านบาท เนื่องด้วยมีค่าใช้จ่ายเพลิงไหม้และด้อยค่าสินทรัพย์รวมประมาณ 70 ล้านบาท
- รายได้จากธุรกิจกำจัดขยะเพิ่มขึ้น +4% YoY แต่ลดลง -3% QoQ มาอยู่ที่ 372 ล้านบาท ในขณะที่ Gross Margin อยู่ที่ 8% ลดลง YoY จาก 4Q63 ที่ 18% จากการแข่งขันที่ยังสูง ส่งผลกดดันอัตรากำไรขั้นต้น ในขณะที่ทรงตัว QoQ และธุรกิจไฟฟ้าจากบริษัท ETC ไตรมาสนี้มีรายได้ 192 ล้านบาท +3% YoY, +10% QoQ
- เราคงประมาณการผลประกอบการปี 2565 ที่ขาดทุน -76 ล้านบาท บทสมมติฐานการเติบโตของธุรกิจกำจัดขยะที่ 10% YoY และ GP ของธุรกิจกำจัดขยะที่ 10%
- คงคำแนะนำขาย และคงราคาเป้าหมายที่ 0.82 บาท อิงวิธี PBV ที่ 0.70 เท่า อิง Avg 10 ปี (2554-2564) -1SD ทั้งนี้ธุรกิจรับกำจัดขยะยังมีการแข่งขันกันสูง กดดันต่อผลการดำเนินงานของบริษัท ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาราคาหุ้นมีความผันผวนที่สูง โดยราคาสูงสุดอยู่ที่ 1.30 บาท และราคาต่ำสุดอยู่ที่ 0.76 บาท และปัจจุบัน ราคาอยู่ที่ 1.02 บาท ซึ่งมาจากกระแสข่าวจะถูกเข้าซื้อกิจการ ในขณะที่ทางบริษัทชี้แจงว่ายังไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ดังนั้นจึงมองว่าเป็นความเสี่ยงที่นักลงทุนควรให้ความระมัดระวัง
ผลการดำเนินงาน 4Q64 ยังขาดทุนมากกว่าคาดที่ -105 ล้านบาท
BWG รายงานผลการดำเนินงาน 4Q64 ขาดทุนสุทธิที่ -105 ล้านบาท ขาดทุนมากกว่าที่เราคาดไว้จาก 4Q63 ที่ขาดทุน -56 ล้านบาท และ 3Q64 ที่ขาดทุน -25 ล้านบาท เนื่องด้วยมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นรวมประมาณ 70 ล้านบาท จาก 1) เหตุเพลิงไหม้ราว 27 ล้านบาท และ 2) ด้อยค่าอาคารและสินทรัพย์ที่เสื่อมสภาพราว 43 ล้านบาท ถ้าไม่นับรวมรายการดังกล่าว ผลประกอบการทั้งปี 2564 จะขาดทุนสุทธิที่ -89 ล้านบาท (ใกล้เคียงกับที่เราคาดไว้ที่ -85 ล้านบาท)
รายได้จากธุรกิจกำจัดขยะ ( 66% ของรายได้รวมในงวด 4Q64) เพิ่มขึ้น +4% YoY แต่ลดลง -3% QoQ มาอยู่ที่ 372 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปริมาณการกำจัดที่เพิ่มขึ้นมากกว่าราคาขายที่บริษัทมีการปรับลดลง สำหรับ Gross Margin อยู่ที่ 8% ลดลง YoY จาก 4Q63 ที่ 18% จากการแข่งขันที่ยังสูงส่งผลกดดันอัตรากำไรขั้นต้น ในขณะที่ทรงตัว QoQ
ธุรกิจไฟฟ้าจากบริษัท ETC (34% ของรายได้รวมในงวด 4Q64) ไตรมาสนี้มีรายได้ 192 ล้านบาท +3% YoY, +10% QoQ และมี Gross Margin ที่ 43% ลดลง YoY จาก 4Q63 ที่ 54% และทรงตัว QoQ (บริษัท ETC ไม่ได้มี MD&A ตั้งแต่ 2Q64 ทำให้การเข้าถึงข้อมูลที่จำกัด)
คงประมาณการกำไรปี 2565 ขาดทุน -76 ล้านบาท
เราคงประมาณการผลประกอบการปี 2565 ที่ขาดทุน -76 ล้านบาท บนสมมติฐานประมาณการเติบโตของธุรกิจกำจัดขยะที่ 10% YoY และ GP ของธุรกิจกำจัดขยะที่ 10% (ในปี 2564 ธุรกิจกำจัดขยะจะเติบโตกว่า 18% YoY เนื่องมาจากฐานที่ต่ำในปี 2563 ที่ได้รับกระทบจาก COVID 19) และประเมินปี 2566 จะขาดทุนลดลงเหลือ -67 ล้านบาท
คงคำแนะนำ “ขาย” และคงราคาเป้าหมายที่ 0.82 บาท
คงคำแนะนำขาย และคงราคาเป้าหมายที่ 0.82 บาท อิงวิธี PBV ที่ 0.70 เท่า อิง Avg 10 ปี (2554-2564) -1SD ทั้งนี้ธุรกิจรับกำจัดขยะยังมีการแข่งขันกันสูง กดดันต่อผลการดำเนินงานของบริษัท ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาราคาหุ้นมีความผันผวนที่สูง โดยราคาสูงสุดอยู่ที่ 1.30 บาท และราคาต่ำสุดอยู่ที่ 0.76 บาท ซึ่งมาจากกระแสข่าวจะถูกเข้าซื้อกิจการ ในขณะที่ทางบริษัทชี้แจงว่า ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ดังนั้นจึงมองว่าเป็นความเสี่ยงที่นักลงทุนควรให้ความระมัดระวัง
ความเสี่ยง ความไม่แน่นอนของรายได้ธุรกิจกำจัดขยะและงานก่อสร้าง และข้อจำกัดในการเข้าถึงข้อมูลบริษัทและบริษัทในเครือ