Our View? “ความไม่มั่นใจเกิดขึ้นได้”
คาดตลาดวันนี้ “ย่อ” มองแนวรับที่บริเวณ 1,687 / 1,677 แนวต้านที่ บริเวณ 1,700 / 1,705 คาดตลาดอาจเผชิญแรงขายทำกําไรได้บ้าง หลังเมื่อวานนี้ปรับตัวขึ้นได้ดีจากความคาดหวังการเจรจาเสรีภาพระหว่างรัสเซีย-ยูเครน มีความคืบหน้าเพิ่มขึ้น จากการที่กระทรวงกลาโหมรัสเซียส่งสัญญาณจะลดปฏิบัติการทางทหารลงอย่างมากรอบกรุงเคียฟ ขณะที่คณะเจรจาของยูเครนได้ยื่นข้อเสนอการเป็นประเทศที่มีสถานะเป็นกลาง ไม่เข้าร่วมเป็นสมาชิกองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (NATO) และจะไม่ยินยอมให้ต่างชาติเข้ามาตั้งฐานทัพในประเทศ อย่างไรก็ตาม เราคาดตลาดอาจเผชิญจิตวิทยาเชิงลบจากการที่นายจอห์น เคอร์บี โฆษกกระทรวงกลาโหมของสหรัฐ ออกมาเปิดเผยว่าสหรัฐไม่มั่นใจค่ามั่นสัญญาของรัสเซียในการลดปฏิบัติการทางทหารในกรุงเคียฟและเมืองเชอร์นิฮิฟ โดยมองเป็นการออกมาเพื่อการตั้งหลักเท่านั้น อีกทั้งยังมีรายงานกองกำลังทหารรัสเซียยังคงระดมยิงปืนใหญ่ในพื้นที่รอบนอกกรุงเคียฟและเมืองเชอร์นิฮิฟ เรามองปัจจัยดังกล่าวคาดส่งผลให้ตลาดกลับมาไม่มั่นใจในสถานการณ์ดังกล่าวอีกครั้งในระยะสั้น กระตุ้นแรงขายทํากําไรกดดันตลาดย่อตัวลงได้ในระยะสั้น
ขณะที่เมื่อคืนนี้กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลข GDP 4Q’64 ออกมาขยายตัวที่ระดับ 6.9% กว่าคาดเล็กน้อยที่ระดับ 7.1% เรามองจะไม่ส่งผลต่อตลาดมากนัก อย่างไรก็ตาม เรามองการที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ (US-Bond Yield) ยังคงชะลอกำลังลงต่อเนื่อง โดยล่าสุดเช้านี้รุ่นอายุ 10 ปี อ่อนตัวอยู่ที่ระดับ 2.3415% (-0.38%) คาดจะลดแรงกดดันจากมุมมองส่วนต่างระหว่างผลตอบแทนสินทรัพย์เสี่ยงสินทรัพย์ปลอดภัย (Earning yield Cap) ได้ต่อในระยะสั้น
ทางด้านราคาสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI. ส่งมอบเดือน พ.ค. เมื่อคืนนี้รีบาวด์ได้บ้างในระยะสั้น ปิดที่ระดับ 107.82 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 3.58 ดอลลาร์ หรือ +3.43% หลังสํานักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของ รัฐบาลสหรัฐ (EIA) รายงานตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 3.4 ล้านบาร์เรล ในสัปดาห์ที่แล้ว มากกว่าที่ตลาดคาดที่ลดลง 1.7 ล้านบาร์เรล สะท้อนความต้องการใช้น้ำมันในสหรัฐในยังอยู่ในระดับสูง อย่างไรก็ตาม เรามองเป็นเพียงการรีบาวด้ในระยะสั้น เราคาดราคาน้ำมันยังคงเผชิญแรงกดดันจาก
1) แนวโน้มความคืบหน้าของการเจรจาสันติภาพ รัสเซีย-ยุเครน
2.) สหภาพยุโรป (EU) จะมีแนวโน้มทยอยผ่อนคลายมาตรการกีดกันการส่งออกพลังงานของรัสเซีย ได้ในระยะถัดไป
3.) อุปสงค์จากจีนลดลงตามการ Lockdown
4.) แนวโน้มการกลับมาส่งออกน้ำมันของเวเนซุเอลา และอิหร่าน
ขณะที่วันนี้แนะนำติดตามการประชุม OPEC+ คาด OPEC+ จะยังคงเพิ่มกำลังการผลิตตามข้อตกลงเดิม คือ เพิ่มกําลังการผลิตแค่ 4.32 แสนบาร์เรล/วัน เรามองจะเป็นปัจจัยลบกดดันหุ้นในกลุ่มพลังงานอ่อนตัวลงถ่วงตลาดหุ้นไทยได้ต่อ
สำหรับปัจจัยภายในประเทศ เรามีมุมมองเชิงบวกต่อการที่เมื่อวานนี้ที่ประชุม กนง. มีมติเอกฉันท์คงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.5% ระบุเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่อง ตามการฟื้นตัวของอุปสงค์ในประเทศและการท่องเที่ยว อีกทั้งมองการแพร่ระบาดของ Omicron และวิกฤตยูเครนคาดไม่ส่งผลต่อเศรษฐกิจไทยโดยตรง ขณะที่มองอัตราเงินเฟ้อจะเพิ่มสูงขึ้นมากในปีนี้ แต่จะลดลงเข้ากรอบเป้าหมายในปีหน้า ในส่วนของการปรับลด GDP เรามองที่ประชุมปรับลดลงเพียงเล็กน้อย จากคาดการณ์เดิมที่ระดับ 3.4% ลงเหลือ 3.2% มองตลาดจะผ่อนคลายความ กังวลดังกล่าว ขณะที่เรายังคงชอบหุ้นในกลุ่มเครื่องดื่ม (OSP, ICHI และ SAPPE) คาดจะได้ปัจจัยบวกจากปัจจัยเชิงฤดูกาล รวมทั้งแนวโน้มการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีส่วนผสมของ CBD ในช่วง 2Q65 คาดจะเป็นจิตวิทยาเชิงบวกต่อทิศทางราคาหุ้นในกลุ่มดังกล่าวได้ อีกทั้งเรายังมีมุมมองเชิงบวกต่อการที่กระทรวงท่องเที่ยวเตรียมเสนอ ศบค. ปลดล็อกมาตรการเข้าประเทศ โดยยกเลิก Thailand Pass คาดเริ่มวันที่ 1 มิ.ย. คาดจะหนุนทิศทางหุ้นในกลุ่ม ท่องเที่ยว-โรงแรมปรับตัวขึ้นได้ต่อ (AOT, AWC, ERW, CENTEL และ MINT)
ธีมการลงทุน “Selective Play”
หุ้นแนะนําวันนี้ “BGRIM”
กลยุทธ์ แนวรับ 35.00/34.00 Target 38.00 / 40.00 Stop <33.50