บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):

Action SELL (Maintain)

TP upside (downside) -15.2%

Close Apr 7, 2022 Price (THB) 4.60

12M Target (THB) 3.90

Previous Target (THB) 4.16

What’s new?

  • Presale 1Q65 อยู่ที่ 2.1 พันลบ. เติบโต 2.8% YoY และคิดเป็นเพียง 16% เมื่อเทียบกับเป้าหมายทั้งปีของบริษัท เนื่องจากไม่มีโครงการเปิดใหม่
  • คาดผลประกอบการ 1Q65 เติบโตทั้ง QoQ และ YoY หลักๆ มาจากการโอนโครงการแนวสูงใหม่ 1 โครงการ

Our view

  • ปรับประมาณการปี 2565/66 ลง 16% และ 11% เป็น 594 ลบ. และ 838 ลบ. ตามลำดับ
  • ราคาปัจจุบันเทียบเท่า PER 2565 ที่ 11.4x สูงกว่าอย่างมีนัยสําคัญเมื่อเทียบกับกลุ่มที่ราว 7.9x คงคำแนะนำ “ขาย” ปรับราคาเหมาะสมสิ้นปี 2565 ลงจาก 4.16 บาท/หุ้น เป็น 3.90 บาท/หุ้น

LPN DEVELOPMENT Presale 1Q65 ต่ำจากการเลื่อนเปิดตัวโครงการใหม่

บริษัทรายงาน Presale 1Q65 เพิ่มขึ้นเล็กน้อย YoY

บริษัทรายงาน Presale 1Q65 อยู่ที่ 2.1 พันลบ. (-19.0% QoQ, +2.8% YoY) คิดเป็นเพียง 16% เมื่อเทียบ กับเป้าหมายทั้งปีของบริษัทที่ 1.3 หมื่นลบ. แบ่งเป็นแนวสูงที่ 1.6 พันลบ. (-10.9% QoQ, +5.1% YoY) และแนวราบที่ 570 ลบ. (-35.2% QoQ, -3.1% YoY) ต่ำสุดในรอบ 9 ไตรมาส

Presale ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ QoQ เนื่องจากบริษัทไม่มีการเปิดตัวโครงการใหม่ โดยเลื่อนเปิดตัวโครงการแนวสูงจำนวน 2 โครงการ ได้แก่ Lumpini Charan Fai chai (เฟส 2) (2.3 พันลบ.) และ Lumpini Place Chaengwatthana Pakkret Station (1.2 พันลบ.) ไปเป็น 2Q65 ทั้งนี้ หากบริษัทมีการเลื่อนเปิดตัวโครงการในช่วงที่เหลือของปีไปยังปี 2566 คาดจะส่งผลให้เป้าหมาย Presale ทั้งปีของบริษัทมี Downside ราว 15-25%

คาดกําไรสุทธิ 1Q65 เติบโต QoQ และ YoY

แนวโน้มผลประกอบการ 1Q65 คาดที่ 140-170 ลบ. (+337-431% QoQ, +14-38% YoY) ปรับตัวเพิ่มขึ้น ทั้ง QoQ และ YoY หลักๆ มาจากการโอนโครงการแนวสูงใหม่ 1 โครงการ คือ Lumpini Place Taopoon Interchange (มูลค่า 1.7 พันลบ. มียอดขายแล้ว 53%) และโอนกรรมสิทธิ์ได้ 28% ใน 1Q65 ขณะที่ 1Q64 และ 4Q64 ไม่มีโครงการสร้างเสร็จใหม่

นอกจากนี้ ยังมี 2 ปัจจัยเพิ่มเติมที่ทำให้ผลประกอบการเติบโตเด่น QoQ คือ 1) อัตรากำไรขั้นต้นจากการขาย คาดปรับตัวเพิ่มขึ้น QoQ เนื่องจากอัตรากำไรขั้นต้นของโครงการใหม่ข้างต้นสูงกว่าค่าเฉลี่ยสินค้าคงเหลืออื่นๆ ที่บริษัทใช้กลยุทธ์การลดราคาอย่างต่อเนื่อง และ 2) SG&A/Sales คาดลดลง QoQ จากปัจจัยทางฤดูกาลที่มีค่าใช้จ่ายในการบริหารสูงในช่วง 4Q64

สำหรับช่วงที่เหลือของปี บริษัทมีโครงการแนวสูงสร้างเสร็จ 3 โครงการในทุกไตรมาส ได้แก่ Lumpini Selected Charan 65 Sirindhorn Station (1.1 พัน ลบ. มียอดขายแล้ว 20%), Lumpini Ville Chaengwatthana Pakkret Station (1.1 พันลบ. มียอดขายแล้ว 28%) โดยเป็นการเลื่อนมาเร็วขึ้น 1 ไตรมาส และ Lumpini Ville Chaengwatthana 10 (540 ลบ. มียอดขายแล้ว 19%) ตามลำดับ

ปรับประมาณการปี 2565/66 ลงเป็น 594 ลบ. และ 838 ลบ. ตามลำดับ

เราปรับประมาณการกำไรปี 2565/66 ลง 16% และ 11% เป็น 594 ลบ. (+98.6% YoY) และ 838 ลบ. (+41.1% YoY) ตามลำดับ การปรับประมาณการปี 2565 ลง หลักๆ มาจากการปรับสมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้นจากการขายลง 7.4 ppt เป็น 22.4% เพื่อสะท้อนการใช้กลยุทธ์การลดราคาเพื่อระบายสินค้าคงเหลืออย่างต่อเนื่องในปีนี้ นอกจากนี้ เรามีการปรับรายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์ขึ้น 7.2% เป็น 6.4 พัน ลบ. (+57.8% YoY) โดยยังต่ำกว่าเป้าของบริษัทที่ 7.5 พันลบ. อยู่ 15%

คงคำแนะนำ “ขาย” ราคาเหมาะสมสิ้นปี 2565 ที่ 3.90 บาท/หุ้น

เรามีมุมมองต่อเป้าหมายการโอนกรรมสิทธิ์ และ Presale ของบริษัทว่ายังมีความท้าทายจากอุปสงค์โครงการแนวสูงที่คาดต้องใช้เวลาอย่างน้อยถึงสิ้นปี 2566 จึงจะกลับเข้าสู่สภาวะปกติ การระบาย Inventory จึงคาดต้องใช้กลยุทธ์ทางด้านราคาต่อเนื่องในปี 2565 นอกจากนี้ Backlog ณ สิ้นปี 2564 อยู่ที่เพียง 3.1 พันลบ. คาดจะรับรู้เป็นรายได้ในปี 2565 ที่ 2.9 พันลบ. คิดเป็นเพียง 36% ของประมาณการรายได้ทั้งปี 2565 ของเราที่ 8.1 พันลบ.

คงคำแนะนำ “ขาย” ปรับราคาเหมาะสมสิ้นปี 2565 ลงจาก 4.16 บาท/หุ้น เป็น 3.90 บาท/หุ้น เนื่องจากมีการปรับประมาณการลง แม้คาดผลประกอบการปี 2565 จะฟื้นตัวขึ้นเด่นเมื่อเทียบกับฐานที่ต่ำในปี 2564 แต่ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อ-ขายบน PER2565 ที่ระดับ 11.4x สูงกว่าอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับกลุ่มที่ราว 7.9x เชิงกลยุทธ์จึงยังไม่แนะนำให้เข้าลงทุนจนกว่าจะมีปัจจัยบวกใหม่

- Advertisement -