ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้

เทรดไซด์เวย์ ก่อนเข้าช่วงหยุดยาว

ฝ่ายวิจัย KGI ประเมิน SET Index วันจันทร์เทรดไซด์เวย์… หลังจากเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว ตลาดหุ้นไทยรีบาวด์ได้เล็กน้อย (ตามคาด) หลังจากหุ้นท่องเที่ยวและหุ้นกลุ่มการบริโภคแข็งแกร่ง ตามตัวเลขภาคการท่องเที่ยวที่ค่อยๆ ดีขึ้น… สำหรับในวันนี้ ปัจจัยโดยรวมต่อตลาดหุ้นเป็นกลาง i) ในสัปดาห์นี้ ตลาดหุ้นไทยจะเปิดทำการเพียง 2 วัน ก่อนหยุดยาวในเทศกาลสงกรานต์ 13-15 เม.ย. ii) นักลงทุนยังคงติดตามสถานการณ์ในยูเครน หลังจากฝั่งรัสเซียแถลงว่าได้เปลี่ยนผู้บัญชาการรบในยูเครน และน่าจะเน้นปฏิบัติการทางทหารในฝั่งตะวันออกของยูเครนเท่านั้น (ลดระดับการโจมตีแถบกรุงเคียฟ อย่างมีนัยสำคัญ) iii) สำหรับในสัปดาห์นี้ ยังควรติดตามการแถลงแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ จากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟด ซึ่งภาพรวมน่าจะอยู่ในโทนที่ hawkish ต่อไป โดยขณะนี้สัญญาเฟดฟันด์ฟิวเจอร์ ให้น้ำหนักว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งละ 0.50% ในการประชุม FOMC 2 ครั้งที่จะถึงนี้ ด้านปัจจัยภายในประเทศ เช้าวันนี้ ศบค. รายงานจำนวนผู้ติดเชื้อ COVID-19 ทรงตัวในระดับสูง อยู่ที่ 22,387 ราย เสียชีวิต 105 ราย และหายป่วยกลับบ้าน 27,680 ราย

หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน

เก็งกำไร ASW, WHA*, OTO

  • ASW (เป้าพื้นฐาน 10.4 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 7.9 บาท / แนวต้าน 8.25 บาท หาก Breakout ผ่านแนวต้านนี้ไปได้ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป 9.2 – 9.4 บาท (Stop loss 7.7 บาท) 2) ยอด Presales ณ สิ้นเดือน มี.ค. = 3.25 พันล้านบาท (+ 79% YoY, +19% QoQ) โดยเป็นโครงการพร้อมโอนราว 46% 3) ปีนี้เปิดตัวโครงการใหม่มูลค่ารวม 1.2 หมื่นล้านบาท โดยยังคงเน้นโครงการคอนโด Low rise สร้างเสร็จไว (+/-1.5 ปี) และเติมพอร์ตบ้านเดี่ยวอีก 2 โครงการมูลค่ารวม 4.85 พันล้านบาท 4) ประเมินราคาหุ้น Laggard กลุ่มอสังหาฯที่คาดว่าแนวโน้มอุตสาหกรรมฟื้นตัวในปีนี้ โดย Forward PE ต่ำเพียง 6.2 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มฯที่ +9 เท่า
  • WHA* (เป้าพื้นฐาน 4.2 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 3.32 บาท / แนวต้าน 3.42 บาท หาก Breakout ผ่านแนวต้านนี้ได้ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป +/-3.5 บาท (Stop loss 3.2 บาท) 2) ประเมิน Sentiment บวกจาก i) ยอดขอบีโอไอ 1Q65 ที่ยังสูงเกิน 1 แสนล้านบาท โดยมียอดลงทุนจากต่างประเทศ (FDI) ที่เติบโต +29% YoY เป็น 7.7 หมื่นล้านบาท ii) การเตรียมเปิดประเทศหลังสถานการณ์โควิด-19 เริ่มผ่อนคลาย สร้างความเชื่อมั่นนักลงทุน 3) Forward PE ปีนี้ต่ำเพียง 14.3 เท่า คิดเป็นเพียง -1 เท่าของส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของค่าเฉลี่ยในอดีต ขณะที่ฝ่ายวิจัยฯคาดกำไรปีนี้โต +35% YoY
  • OTO (เป้าพื้นฐาน 16.2 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 13.8 บาท / แนวต้าน 14.7 – 15.1 บาท หากผ่าน กรอบแนวต้านนี้ได้ประเมินแนวต้านถัดไป +/-16.0 บาท (Stop loss 13.2 บาท) 2) เข้าลงทุนธุรกิจ Esports โดยจะมีรายได้จาก i) สปอนเซอร์ทีม Esports (ปัจจุบันเป็นเจ้าของทีม PSG Esport และเตรียมลงทุนในทีมอื่นๆเพิ่ม) และส่วนแบ่งเงินรางวัลจากการเข้าร่วมการแข่งขัน ii) รายได้จากการสมัครสมาชิก เล่นแข่งขัน เกมส์ออนไลน์ ผ่าน Platform Hubber.gg… คาดสร้างส่วนแบ่งกำไรให้ OTO ในปีนี้ได้ทันที 3) Upside จากการลงทุนในเหรียญ HUB ซึ่งจะเป็น Utility token ที่ใช้ในระบบของ Platform Hubber.gg โดยคาดเตรียมเข้าจดทะเบียนในตลาดรองภายใน 3Q65

หุ้นมีข่าว

(+) GULF* อัพรายได้ปีนี้โต 80% ลุยโรงไฟฟ้าเขื่อนลาวเพิ่ม ผู้ถือหุ้นไฟเขียวออกหุ้นกู้ 8 หมื่นล้าน อายุไม่เกิน 30 ปี (ข่าวหุ้น) GULF ปรับเพิ่มเป้ารายได้ปีนี้เติบโต 80% จากเดิมคาดไว้ 60% เหตุกโครงการ GSRC ยูนิต 3 และ 4 จ่ายไฟเข้าระบบในปีนี้ ขณะที่โซลาร์รูฟท็อปทยอยติดตั้งอีก 100 เมกะวัตต์ และบุก INTUCH เต็มปี ฟาก “สารัชถ์” ลั่น เดินหน้าศึกษาลงทุนโรงไฟฟ้าเขื่อนในลาวเพิ่ม ส่วนผู้ถือหุ้นอนุมัติวงเงินออกหุ้นกู้ 8 หมื่นล้านบาท อายุไม่เกิน 30 ปี

(+) PJW เซ็น EA* ร่วมผลิตอีวี ป้อนพลาสติกคุณภาพสูง (ทันหุ้น) PJW เซ็นเอ็มโอยู EA วิจัยและพัฒนา เปลือกแบตเตอรี่ ระบบหล่อเย็นสำหรับแบตเตอรี่ และระบบหล่อเย็นมอเตอร์ขับเคลื่อนด้วยพลาสติกคุณภาพสูง ลดน้ำหนักแบตเตอรี่ วิ่งได้ระยะทางไกลขึ้น เริ่มผลิตแบบจำลองปีนี้ ก่อนจำหน่ายเชิงพาณิชย์ปีหน้า มันใจโกยยอดขายปีแรก 100 ล้านบาท ก่อนเพิ่มเป็น 500 ล้านบาท ภายใน 2569

(+) MINT* ปิดดีลซื้อคอร์บินแอนด์คิง ฮุบกิจการร้านอาหารในลอนดอน ถือหุ้น 100% (ข่าวหุ้น) MINT ประกาศความสำเร็จในการประมูล “คอร์บิน แอนด์ คิง” ซื้อกิจการร้านอาหารในลอนดอน หลังเป็นผู้ชนะได้เข้าถือหุ้นเพิ่มเป็น 100% เสริมสร้างความแข็งแกร่งในธุรกิจ

(+) FVC ปักธงปี 65 รายได้เพิ่ม 30% ยื่นไฟลิ่ง KTMS เข้าตลท.ปีนี้ (ข่าวหุ้น) “ฟิลเตอร์ วิชั่น” วางเป้าปีนี้รายได้โต 30% จากปีก่อนมีรายได้ 645 ล้าน ลุยเพิ่มเครื่องฟอกไตเทียมเป็น 250-300 เครื่อง พร้อมขยายสาขาอีก 3-7 สาขา ส่วนแผนนำ KTMS เข้าจดทะเบียนในตลท. ยังเดินหน้าตามกระบวนการ คาดยื่นไฟลิงปีนี้แน่นอน พร้อมให้ผู้ถือหุ้น FVC มีสิทธิรับหุ้น IPO

หุ้นที่เคยแนะนำก่อนหน้า

  • BBL* (เป้าพื้นฐาน 160 บาท) แนวรับ 136 บาท / แนวต้าน 138.5-140 บาท (Stop loss 135.5 บาท)
  • BAFS (เป้าพื้นฐาน 33 บาท) แนวรับ 26.5 บาท / แนวต้าน 28-29 บาท (Stop loss 26 บาท)
  • BCH* (เป้าพื้นฐาน 28 บาท) แนวรับ 21.4 บาท / แนวต้าน 21.9-23.0 บาท (Stop loss 20.9 บาท)
  • IP (เป้า Consensus 25.9 บาท) แนวรับ 200 บาท / แนวต้าน 20.8-21.0 บาท (Stop loss 19.8 บาท)
  • ERW (เป้าพื้นฐาน 3.7 บาท) แนวรับ 3.4 บาท / แนวต้าน 3.48-3.6 บาท (Stop loss 3.3 บาท)
  • M (เป้าพื้นฐาน 58 บาท) แนวรับ 54.5 บาท / แนวต้าน 56-57 บาท (Stop loss 53.5 บาท)
  • BCP* (เป้าพื้นฐาน 35 บาท) แนวรับ 30 บาท / แนวต้าน 31.5-32.5 บาท (Stop loss 29.5 บาท)
  • GULF* (เป้าพื้นฐาน 55 บาท) แนวรับ 49.5 บาท / แนวต้าน 51-52.5 บาท (Stop loss 49 บาท)
  • IVL* (เป้าพื้นฐาน 68 บาท) แนวรับ 45 บาท / แนวต้าน 47-48 บาท (Stop loss 45 บาท)

Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้

  • COM7* แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 52 บาท ฝ่ายวิจัยฯ คาดกำไร 1Q65 = 771 ล้านบาท (+36% YoY, -15% QoQ) โดยกำไรที่คาดจะอ่อนตัวลง QoQ คาดเป็นผลจากปัจจัยฤดูกาล ขณะที่คาดแนวโน้มกำไรยังเติบโตเด่นจากกลยุทธ์ทางธุรกิจที่หลากหลาย จึงยังคงคำแนะนำ “ซื้อ”
  • SPRC* แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 13 บาท ฝ่ายวิจัยฯคาดกำไร 1Q65 = 4.9 พันล้านบาท (+142% YoY, +162% QoQ) จากกำไรสต๊อก และค่าการกลั่นที่ปรับขึ้นแรง อย่างไรก็ดี จะมีการบันทึกรายจ่ายพิเศษจากกรณีน้ำมันรั่วในไตรมาสนี้ ยังคงแนะนำ “ซื้อ” เพราะยังคงมุมมองเป็นบวกต่อธุรกิจโรงกลั่นในปีนี้

 

หมายเหตุ: 1.* บริษัทอาจเป็นผู้ออกใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์บนหลักทรัพย์นี้ / 2. เป้าพื้นฐาน หมายถึง ราคาเป้าหมายเชิงพื้นฐาน (Forecasted 12M Target price) ที่อ้างอิงจากบทวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานฉบับล่าสุดของฝ่ายวิจัยฯ / 3. เป้า Consensus หมายถึง ค่าเฉลี่ยของราคาเป้าหมายเชิงพื้นฐานที่จัดทำโดย Bloomberg consensus หรือ IAA Consensus

- Advertisement -