บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):

Action BUY (Maintain)

TP upside (downside) +31.1%

Close Apr 11, 2022 Price (THB) 4.88

12M Target (THB) 6.40

Previous Target (THB) 6.40

What’s new?

  • คาดผลประกอบการ 1Q65 ขาดทุนที่ 1.04 พันล้านบาท ผลประกอบการดีขึ้น QoQ เทียบกับขาดทุน 1.3 พันล้านบาท ใน 4Q64 แต่อ่อนแอลง YoY เทียบกับ ขาดทุน 610 ล้านบาทใน 1Q64 สาเหตุหลักๆ มาจากรายได้กลุ่ม Mobile service revenue ที่อ่อนแอลงทั้ง QoQ และ YoY

Our view

  • เราคงประมาณการและราคาเหมาะสม TRUE ที่ 6.40 บาทต่อหุ้น อิงสมมติฐานสำคัญ ได้แก่ 1) โอกาสเกิดขึ้นของดีลควบรวมกิจการที่ 70% และ 2) Synergy กรอบ 1 หมื่นล้านบาทในช่วง 3 ปีแรกของการควบรวมกิจการ จับตาการพิจารณาของภาครัฐในช่วง 1-2 เดือนต่อจากนี้ เป็นปัจจัยสำคัญที่จะปลดล็อคราคาหุ้น

TRUE CORPORATION จับตาการพิจารณาดีลควบรวมกิจการของ กสทช.

คาดผลประกอบการ 1Q65 อ่อนแอ … แต่ไม่ใช่สาระสำคัญต่อราคาหุ้น

คาดผลประกอบการ 1Q65 ขาดทุนที่ 1.0 พันล้านบาท ผลประกอบการดีขึ้น QoQ เทียบกับขาดทุน 1.3 พันล้านบาทใน 4Q64 แต่อ่อนแอลง YoY เทียบกับขาดทุน 610 ล้านบาทใน 1Q64 สาเหตุหลักๆ มาจากรายได้กลุ่ม Mobile service revenue ที่อ่อนแอลงทั้ง QoQ และ YoY สรุปสาระสำคัญดังนี้

1) รายได้ Mobile service revenue ex. IC คาดที่ 1.96 หมื่นล้านบาท (-1.2% QoQ, -1.4% YoY) Netadd ชะลอตัวลงแต่ยังเป็นบวก ขณะที่ ARPU ยังถูกกดดันจากการแข่งขันด้านราคาที่รุนแรงในช่วงก่อนควบรวมกิจการ ARPU ที่อ่อนแอยังเป็นปัจจัยหลักที่กดดันรายได้ Mobile service revenue ฐานลูกค้า 5G เริ่มเติบโตช้าลง QoQ ตลาดมือถือขาดสินค้ารุ่นใหม่ๆ จากปัญหา Chip Shortage ทำให้การย้ายลูกค้าไปสู่ 5G ทำได้ลำบากมากขึ้น Trend คล้ายกับ ADVANC อย่างไรก็ดี TRUE ยังคงเป้าหมายฐานลูกค้า 5G เพิ่มขึ้นจาก 2 ล้านราย ณ สิ้นปี 2564 เป็น 4 ล้านราย ณ สิ้นปี 2565

2) รายได้ Online คาดที่ 6.4 พันล้านบาท (+1% QoQ, +0.2% YoY) Netadd เริ่มชะลอตัว ขณะที่การ แข่งขันกดดัน ARPU

3) รายได้ PayTV คาดที่ 1.8 พันล้านบาท (-2.5% QoQ, -7.7% YoY) ลดลงตาม low season ของ Advertising

4) รายได้ขาย Device คาดลดลง QoQ

5) ขาของต้นทุน ภาพรวม TRUE ยังพยายามควบคุมต้นทุนให้ลดลง QoQ ยกเว้นบาง items ที่ปรับขึ้นบ้าง เช่น เงินเดือนพนักงานมีรอบการจ่าย Bonus ประจำปีใน 1Q หรือ Depre และดอกเบี้ยจ่ายที่คาดทรงตัว QoQ

6) ส่วนแบ่งกำไรจาก DIF กลับมาอยู่ในระดับปกติ หลังจาก 4Q64 มีรายการพิเศษจากการประเมินมูลค่าเพิ่มใน DIF

กำไรพิเศษจากการจำหน่ายหุ้นซื้อคืน 24 ล้านหุ้น มีการจำหน่ายในวันที่ 1 เม.ย.65 ทำให้จะถูกบันทึกใน 2Q65 ส่วนการ Write-off asset ที่ซ้ำซ้อนกับ DTAC ซึ่ง PWC Guidance จะตัดโดยตรงที่ Retain Earnings ของบริษัทฯ ใหม่จะยังไม่เกิดขึ้น โดยจะเกิดขึ้นก่อนการควบรวมกิจการและต้องรอการควบรวมกิจการผ่านขั้นตอนกับภาครัฐก่อน

ดีลควบรวมกิจการอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของภาครัฐ…คาดเห็นความคืบหน้าภายใน 2Q65

หลังจากที่ประชุมผู้ถือหุ้น Vote ผ่านดีลการควบรวมกิจการในวันที่ 4 เม.ย.65 ขั้นตอนถัดไปคือการขออนุมัติ Stakeholder อื่นๆ เช่น เจ้าหนี้ และ Regulators การขออนุญาตเจ้าหนี้ เราคาดไม่เกิดปัญหา เนื่องจากบริษัทฯ ใหม่แข็งแกร่งขึ้น มีโอกาสที่เจ้าหนี้จะไม่อนุมัติ ขณะที่การพิจารณาของภาครัฐ เรายังประเมินโอกาสเกิดขึ้น 70% ขั้นตอนปัจจุบัน กสทช. เริ่มรับพิจารณาเอกสารการควบรวมกิจการระหว่าง TRUE และ DTAC ในช่วงกลางเดือนก.พ.65 โดยปกติ กสทช. จะมีกรอบเวลาในการพิจารณาราว 90 วัน ดังนั้นเราคาดว่าจะเห็นความคืบหน้าจากการพิจารณาของภาครัฐภายในเดือนมิ.ย.65 เป็นอย่างช้า โดยเรายังคงมุมมอง กสทช. ไม่ระงับการควบรวม แต่จะออกกฎเกณฑ์เพื่อกำกับดูแล Merge Co. ซึ่งกฎเกณฑ์ที่ออกมาน่าจะเพื่อปกป้องผู้บริโภคเป็นหลัก แต่ Synergy ที่เราคาดหวังอยู่ในด้านการลดต้นทุนซ้ำซ้อนระหว่างกัน ดังนั้นมีโอกาสที่ Synergy จะไม่เกิดขึ้นภายใต้กฎเกณฑ์ที่จะออกมาในอนาคต

คงคำแนะนำ “ซื้อ” อิงราคาเหมาะสมที่ 6.40 บาทต่อหุ้น

เราคงประมาณการและราคาเหมาะสม TRUE ที่ 6.40 บาทต่อหุ้น ซึ่งสมมติฐานสำคัญ ได้แก่ 1) โอกาสเกิดขึ้นของดีลควบรวมกิจการที่ 70% และ 2) Synergy กรอบ 1 หมื่นล้านบาทในช่วง 3 ปีแรกของการควบรวมกิจการ  จับตาการพิจารณาของภาครัฐในช่วง 1-2 เดือนต่อจากนี้เป็นปัจจัยสำคัญที่จะปลดล็อคราคาหุ้น

ความเสี่ยงสำคัญ คือ ดีลการควบรวมกิจการไม่เกิดขึ้น

- Advertisement -