SA ไฟเขียวรับมติจ่ายเงินปันผลงวดปี 2564 พร้อมจัดสรรวอร์แรนท์ฟรี สัดส่วน  100 หุ้น ต่อ 35 ใบสำคัญแสดงสิทธิ รวมทั้งมีมติเพิ่มทุนไม่เกิน 118 ล้านหุ้น จัดสรร PP ด้านแผนการดำเนินุรกิจ เดินหน้าเปิด 6 โครงการใหม่ มูลค่า 11,621 ล้านบาท รุกขยายโครงการอสังหาฯ แนวราบ  เน้นสร้าง Recurring Income จากกลยุทธ์หลัก Asset Play นำสินทรัพย์ที่มีแตกแขนงพัฒนาธุรกิจใหม่ 6 สาขา  ดันผลงานเติบโตก้าวกระโดด หนุนรายได้ทั้งปีเข้าเป้าที่ 4,900 ล้านบาท

 

นายขจรศิษฐ์ สิ่งสรรเสริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไซมิส แอสเสท จำกัด (มหาชน) หรือ SA เปิดเผยว่า ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นมีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลงวดปี 2564 ให้กับผู้ถือหุ้นเป็นเงินสด ในอัตราหุ้นละ 0.049 บาท  รวมเป็นเงินปันผลทั้งสิ้น 58.27 ล้านบาท โดยกำหนดให้ผู้ถือหุ้นที่จะมีชื่อปรากฎ ณ วันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้น (Record Date) ในวันที่ 15 มีนาคม 2565 และกำหนดวันจ่ายเงินปันผลในวันที่ 29 เมษายน 2565 นี้

พร้อมกันนี้ ได้มีมติอนุมัติออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญครั้งที่1 (SA-W1) จำนวนไม่เกิน 456,473,591 หน่วย เพื่อจัดสรรให้กับผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทตามสัดส่วนจำนวนหุ้นที่ผู้ถือหุ้นแต่ละรายถืออยู่ (Right Offering) โดยไม่คิดมูลค่า (ศูนย์บาท) ในอัตราส่วน 100 หุ้นสามัญ ต่อ 35 หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิครั้งที่ 1 ซึ่งมีอายุ 3 ปี และมีราคาใช้สิทธิเท่ากับ 23 บาทต่อหุ้น

นอกจากนี้ ยังมีมติอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทจำนวน 575,038,160 บาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 575,038,160 หุ้น เพื่อรองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท รุ่นที่ 1 (SA-W1) และรองรับการออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแบบมอบอำนาจทั่วไป (General Mandate) จำนวนไม่เกิน 118,564,569 หุ้น เพื่อเสนอขายต่อบุคคลในวงจำกัด (Private Placement)

สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2565 มั่นใจว่าจะสามารถสร้างการเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง โดยได้ตั้งเป้าหมายรายได้เติบโตอยู่ที่ 4,500-4,900 ล้านบาทจากปีก่อน โดยมีรายได้หลักจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ประกอบกับแผนกลยุทธ์ปรับสัดส่วนการพัฒนาโครงการแนวราบ การมุ่งเน้นพัฒนาพื้นที่ศักยภาพโดยเปลี่ยนการรับรู้รายได้จากการขายเป็นการรับรู้รายได้อย่างสม่ำเสมอ (Recurring Income) และการพัฒนาธุรกิจใหม่ เพื่อขยายธุรกิจ สู่ธุรกิจ New S-Curve ซึ่งจะเป็นธุรกิจที่มีการเติบโตในอนาคตอีกด้วย

ขณะที่มีโครงการที่กำลังดำเนินงานอยู่ จำนวน 4 โครงการ มูลค่า 23,976.3 ล้านบาท ซึ่งในปีนี้จะมีโครงการที่แล้วเสร็จคือ Landmark @ MRTA Station  ขณะที่มีโครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ จำนวน 8 โครงการ มูลค่า 18,938.9 ล้านบาท โดยเป็นอสังหาริมทรัพย์เพื่อขายมูลค่า 15,432 ล้านบาท ซึ่งมีมูลค่าคงเหลือเป็น Inventory ที่พร้อมขาย เพื่อรับรู้รายได้อีก 5,059.6 ล้านบาท และมีแผนจะเปิดโครงการใหม่ในปี 2565 จำนวน 6 โครงการ มูลค่ารวม 11,621.9 ล้านบาท โดยปัจจุบันบริษัทมี Backlog มูลค่ารวม 4,324.2 ล้านบาท โดยวางแผนจะรับรู้รายได้ในช่วงปี 2565-69  และโครงการที่แล้วเสร็จจะทำการขายและรับรู้รายได้ประมาณ 200-300 ล้านบาทต่อเดือน

“แผนการสร้าง New S-Curve บริษัทมุ่งมั่นที่จะต่อยอดธุรกิจใหม่จากธุรกิจหลัก โดยสร้างมูลค่าจากสินทรัพย์ที่มีอยู่ให้สอดคล้องกับหลัก Asset Play โดยแตกแขนงออกเป็น 6 ธุรกิจประกอบด้วย ธุรกิจด้านพลังงานสีเขียว ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการบริการ ธุรกิจเกี่ยวกับเทคโนโลยีของการพักอาศัย ธุรกิจเกี่ยวกับการบริการผู้สูงอายุ ธุรกิจเกี่ยวกับ Spa & Wellness และธุรกิจการเงินและการลงทุน ซึ่งเชื่อมั่นว่าจะเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ช่วยสนับสนุนผลการดำเนินงานของ SA ให้สามารถเติบโตได้อย่างโดดเด่น มั่นคงและยั่งยืนต่อไป” นายขจรศิษฐ์ กล่าว

*******

- Advertisement -