Market Overview
Market wrap & Outlook
- วันทำการที่ผ่านมา ดัชนียังคงพักฐานหุ้นลง ได้แก่ PTT PTTEP PTTGC CPN TU OR และกลุ่มธนาคาร ส่วนหุ้นบวกดีกว่าตลาด ได้แก่ JMT JMART SINGER J RCL PSL EA TEAMG
- วันนี้คาดดัชนี Sideways และสัปดาห์นี้คาดดัชนี Sideways เริ่มยืนได้ดีขึ้นหลังปรับฐานทดสอบ แนวรับ 1670 จุด (EMA 75 วัน) ไปเมื่อในสัปดาห์ที่ผ่านมา และกลยุทธ์ คงคำแนะนำ รับหุ้นกลุ่มเด่นที่น่าสนใจสำหรับการเก็บรอบนี้ 1. หุ้นที่ปรับฐานลงมาก่อนหน้านี้ จากราคาน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้น ได้แก่ โรงไฟฟ้า SPP, เรือคอนเทนเนอร์, รับเหมาก่อสร้าง, อสังหาฯ, ปิโตรเคมี, ปูนซีเมนต์ ค้าปลีก และโรงกลั่น ที่มีต้นทุนพลังงานทั้งทางตรง และแฝงในค่าขนส่ง ฯลฯ เช่น SCGP RCL GPSC CIVIL IVL SCC CPALL TOP เป็นต้น 2. หุ้นที่กำไร 1Q22 มีโอกาสจะดีกว่าคาดการณ์เดิม (ไม่ได้แย่อย่างที่เคยคิด) 3. หุ้นเชื่อมโยงกับการบริโภคในประเทศ Reopening
What to watch
- แบงก์ชาติจีนประกาศปรับลด RRR มีผล 25 เม.ย.นี้ สำหรับสถาบันการเงินทุกแห่ง ยกเว้นสถาบันการเงินที่มีการกันสำรองอยู่ที่ระดับ 5% อยู่แล้ว ธนาคารกลางระบุว่า หลังการปรับลด RRR ในครั้งนี้ ค่าเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของ RRR สำหรับสถาบันการเงินของจีนจะอยู่ที่ระดับ 8.1%
- แบงก์ชาติจีนตรึงดอกเบี้ยนโยบายเงินกู้ระยะกลาง หวังรักษาสภาพคล่องในระบบ โดยตรึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะกลางไม่เปลี่ยนแปลงเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน ตามคาด
- นายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีนกล่าวในการประชุมรัฐสภาจีน รัฐบาลจีนจะออกมาตรการต่างๆ เพื่อกระตุ้นการอุปโภคบริโภค โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจให้กลับมามีเสถียรภาพ
- นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ภาพรวมยอดจองบัตรโดยสารเครื่องบินล่วงหน้ามายังประเทศไทยเดือน เม.ย.-มิ.ย. หรือไตรมาส 2 ปี 2565 ของนักท่องเที่ยวยุโรปเริ่มเห็นสัญญาณการชะลอลง เมื่อเทียบกับ ม.ค.-มี.ค. 2565 ราว 28% นักท่องเที่ยวจำนวน 341,340 คน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2564 ประมาณ 1,584% แต่ลดลงจากช่วงเดียวกันของปี 2562 ก่อนโควิด-19 ระบาด 96% สร้างรายได้ 23,083 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2564 อัตรา 983% แต่ลดลงจากช่วงเดียวกันของปี 2562 ประมาณ -94%
หุ้นแนะนำวันนี้
- SCGP RCL เก็บหุ้นที่ปรับฐานลงมาก่อนหน้านี้ จากราคาน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้น
Global Investing News
Elon Musk ประกาศขอซื้อหุ้น Twitter (TWTR) ทั้งหมดในราคา $54.2 ต่อหุ้น (มูลค่าราว $43.4bn) ซึ่งสูงกว่าราคาปิดเมื่อ 14 เม.ย. ราว 20% โดยเผยถึงความเชื่อมั่นว่า Twitter มีศักยภาพที่จะเป็นแพลตฟอร์มแห่งเสรีภาพในการสื่อสารมากกว่าที่เป็นอยู่ อย่างไรก็ดี คณะกรรมการ Twitter ได้ลงมตินำแผนยาพิษ (Poison Pill) มาใช้ และมีผลถึง 14 เม.ย. 66 เพื่อป้องกันการเข้าซื้อของ Musk โดยผู้ถือหุ้นรายอื่นจะได้สิทธิซื้อหุ้นออกใหม่ในราคาที่มีส่วนลด ซึ่งอาจส่งผลให้มูลค่าหุ้นปรับตัวลงในระยะสั้น
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ หยุดทำการในวันศุกร์เนื่องในวันศุกร์ประเสริฐ (Good Friday) 3 ดัชนีหลักปิดลบ ในคืนวันที่ 14 เม.ย. นำโดย Apple (AAPL) -3%, Intel (INTC) -2.9% และ Microsoft (MSFT) -2.7% โดยในสัปดาห์ที่ผ่านมาทั้ง 3 ดัชนีหลักแกว่งตัวในแดนลบ กดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ที่ดีดตัวขึ้น โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 2.8% เป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปลายปี 61 ด้านดัชนี CPI เดือน มี.ค. ขยายตัว 8.5%YoY สูงกว่าที่ตลาดคาดและสูงสุดในรอบ 40 ปี ซึ่งอาจกระตุ้นให้ Fed เร่งขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ อย่างไรก็ดี เราคาดว่าเงินเฟ้ออาจอยู่ในบริเวณจุดสูงสุดแล้ว และอาจทยอยปรับลงจากแนวโน้มการทำ QT ของ Fed ในเดือน พ.ค.
ตลาดหุ้นฮ่องกง
ตลาดหุ้นฮ่องกงหยุดทำการในวันศุกร์เนื่องในวันศุกร์ประเสริฐ (Good Friday) และหยุดทําการในวันนี้เช่นกัน เนื่องในวันอีสเตอร์ (Easter Monday) ดัชนีฮั่งเส็งปิดบวก 0.7% เมื่อวันที่ 14 เม.ย. นำโดย Anta Sports (2020) +4.3%, Ping An (2318) +3.6% และ Sunny Optical (2382) +2.7% ขณะที่ภาพรวมของสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีฮั่งเส็งปรับตัวลง 1.6% ปรับลงเป็นสัปดาห์ที่ 2 กดต้นจากการระบาดของโควิต-19 ในจีน ด้านธนาคารกลางจีน (PBOC) ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเมื่อวันศุกร์ ผ่านการปรับลดอัตราเงินสํารองธนาคาร (RRR) ลง 0.25% ส่วนธนาคารขนาดเล็กจะปรับลด 0.5% ทำให้อัตรา RRR โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 0.81% ซึ่งจะมีผล 25 เม.ย. นี้ และหนุนสภาพคล่องเข้าสู่ระบบ RMB530bn ทั้งนี้เราคาดว่า PBOC อาจมีการปรับลดอัตรา RRR อีกในปีนี้ เพื่อส่งเสริมให้เศรษฐกิจเติบโตตามเป้าหมายที่โต 5.5%YoY หลังคาดว่าจะยังถูกกดดันจากการระบาดของโควิด-19 เนื่องจากรัฐบาลยืนยันที่ใช้นโยบายรับมือแบบ Zero-COVID
ตลาดหุ้นเวียดนาม
ดัชนี VN ปิดลบ 0.9% เมื่อวันศุกร์ นำโดยกลุ่มการเงิน BID -3%, TCB +3.6% และ VCB -1% ด้านกลุ่มผู้บริโภคและค้าปลีกปรับตัวขึ้น SAB +1%, VNM +0.3%, MWG -0.4% และ PNJ +0.1% ทั้งนี้ในภาพรวมของสัปดาห์ก่อน ดัชนี VN ได้ปรับตัวลง 1.6% โดยเป็นการปรับตัวลง 2 สัปดาห์ติดกัน เนื่องจากยังคงมีปัจจัยกดดันจากคดีในภาคอสังหาฯ โดยกระทรวงความมั่นคงเวียดนาม ได้มีคำสั่งระงับการทำธุรกิจกับอดีตประธานบริษัท PLC ที่ถูกจับกุมข้อหายักยอกหุ้น
