บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):

Action BUY (Maintain)

TP upside (downside) +8%

Close Apr 12, 2022 Price (THB) 25.75

12M Target (THB) 27.90

What’s new?

  • เราคาด 1Q65 รายได้ทุบสถิติจากรายได้ทั้ง COVID-19 และลูกค้าปกติที่กลับมารักษา
  • ปี 2565 คาดผลประกอบการเติบโต Outperform คาดว่ากลุ่มจากคนไข้ต่างชาติที่กลับมา
  • เรามองว่าธุรกิจอยู่ในช่วงเก็บเกี่ยวกำไรลงทุน ไม่มีลงทุนขนาดใหญ่ เตรียมลงทุน Digital Health Ecosystems รับกระแส Metaverse

Our view

  • เรามองว่าผลประกอบการของ BDMS จะ Outperform กลุ่มในปี 2565 ซึ่งคาดยังเติบโตต่อเนื่อง ผลบวกจากรายได้ลูกค้าต่างชาติที่ฟื้นตัว ต่างจากหลาย รพ. ที่คาดกำไรปรับลดลงจากฐานที่สูง
  • เราคงมูลค่าพื้นฐานในปี 2565 ที่ 27.90 บาท อิงวิธี DCF ที่ส่วนลด WACC ที่ 6.8%

BANGKOK DUSIT MEDICAL SERVICE คาดกำไร 1Q65 เติบโตเด่น ทั้งปียังคาด Outperform กลุ่ม

คาด 1Q65 เติบโต QoQ และ YoY รายได้ทุบสถิติ

บริษัทให้ข้อมูลเชิงบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการใน 1Q65 โดยเราประมาณการรายได้ใน 1Q65 ที่ 22,676 ล้านบาท +5%QoQ และ +41%YoY ทุบสถิติสูงสุด โดยปัจจัยที่หนุนให้รายได้ยังเติบโตต่อเนื่อง มาจากการเติบโตทั้งรายได้ที่เกี่ยวกับ COVID-19 และรายได้จากลูกค้าปกติที่กลับมารักษามากขึ้น สำหรับรายได้เกี่ยวกับ COVID-19 อยู่ที่ราว 20% ของรายได้รวม ได้ผลบวกจากการแพร่ระบาดของสายพันธุ์โอมิครอน ซึ่งเคสตรวจ COVID-19 อยู่ที่ 7,800 เคสต่อวัน เทียบไตรมาสก่อนที่ 6,300 เคสต่อวัน และเทียบ 1Q64 ที่เพียง 1,500 เคสต่อวัน ส่วนฮอทพิเทล อยู่ที่ราว 6 พันเคส ส่วนคนไข้ปกติเริ่มกลับมา ได้ผลบวกจาก pent up demand ของโรคซับซ้อนที่รอการรักษา รวมถึงผลบวกจากการเปิดประเทศที่บินตรงเข้ามา หรือ Medical Tourism เริ่มเห็นเข้ามาบ้าง จากกลุ่มตะวันออกกลาง CLMV และบังคลาเทศ ด้านประสิทธิภาพในการทำกำไรยังทำได้ดีจากนโยบายการควบคุมต้นทุน เราคาดกำไรปกติที่ 2,882 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้น 9%Q0Q และ 115%YoY

ปี 2565 คาดเติบโต Outperform กลุ่ม

เรามองว่าปี 2565 BDMS ยังมีผลประกอบการเติบโตต่อเนื่อง และ Outperform กลุ่ม รพ. ส่วนใหญ่ ที่คาดว่าผลประกอบการมีโอกาสปรับลดลงจากฐานที่สูง ซึ่งเราประมาณการรายได้ปี 2565 ที่ 80,791 ล้านบาท +9% YoY ยังทุบสถิติสูงสุดต่อเนื่อง ซึ่งเติบโตจากทั้งรายได้จากการบริการเกี่ยวกับ COVID-19 และลูกค้าปกติ โดยคาดว่าบริษัทจะรับผลบวกจากการเปิดประเทศ ซึ่งคนไข้จากต่างประเทศจะกลับมารักษา รวมถึงยังมี pent up demand ของโรคซับซ้อนที่รอการรักษาอยู่มาก โดยคาดสัดส่วนรายได้จากกลุ่มลูกค้าต่างชาติจะเริ่มปรับตัวดีขึ้น และคาดกำไรปกติเติบโต 15% YoY เป็น 8,891 ล้านบาท

เข้าช่วงเก็บเกี่ยวกำไร

บริษัทมีเงินสดในมือค่อนข้างมากจากผลประกอบการที่ดีขึ้น ส่วนหนึ่งจะนำไปจ่ายปันผล และนำมาลงทุนในแพรทฟอร์ม Digital Health Ecosystems การลงทุนปี 2565 จะเป็นการลงทุนใน fix asset ไม่มากเหมือนก่อน ซึ่งบริษัทมองว่าเป็นช่วงเก็บเกี่ยว แต่จะเน้น Tele health (การตรวงรักษาระยะไกลผ่านเทคโนโลยี) มากขึ้น ตามยุคสมัยที่เปลี่ยนรับกระแส

คงคำแนะนำ “ซื้อ”

เรามองว่าผลประกอบการในปี 2565 เติบโต Outperform กลุ่ม ซึ่งผลประกอบการเติบโตจากทั้งรายได้ที่เกี่ยวกับ COVID-19 และการกลับมาของกลุ่มลูกค้าปกติ โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าต่างชาติที่รับผลบวกจากการเปิดประเทศ ขณะที่หลังผ่านพ้นวิกฤต COVID-19 เรายังมองว่าธุรกิจของ BDMS อยู่ในช่วงของการเก็บเกี่ยวกำไรจากเงินลงทุน  เนื่องจากผ่านการลงทุนขนาดใหญ่ไปแล้ว และ รพ.ใหม่ที่เปิดส่วนใหญ่ผ่านจุดคุ้มทุนแล้ว โดยเราประเมินมูลค่าพื้นฐานในปี 2565 ที่ 27.90 บาท อิงวิธี DCF ที่ส่วนลด WACC ที่ 6.8%

- Advertisement -