บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):

Action BUY (Upgrade)

TP upside (downside) +17.6%

Close Apr 12, 2022 Price (THB) 9.35

12M Target (THB) 11.00

Previous Target (THB) 10.00

What’s new?

  • คาด SPRC จะบันทึกค่าใช้จ่ายเหตุการณ์น้ำมันรั่วไหล 1.4 พันล้านบาทใน 1Q65 ส่วนเงินเคลมประกันจะเข้ามาภายหลัง (ปี 2566) และอาจไม่ครบทั้งจํานวน
  • อย่างไรก็ตาม อัตราการกลั่น และค่าการกลั่นที่ดีใน 1Q65 รวมทั้งกำไรสต็อกน้ำมันจำนวนมาก 5.0 พันล้านบาท จะช่วยชดเชยผลกระทบน้ำมันรั่วไหลได้ทั้งหมด คาดกำไรสุทธิ 4.6 พันล้าน บาท (+149% QoQ, +130% YoY) สูงสุดตั้งแต่เข้าตลาดฯ

Our view

  • ต้นทุนน้ำมัน 2Q65 จะทยอยสูงขึ้น โดยจะสูงขึ้นมากตั้งแต่เดือน พ.ค. อย่างไรก็ตาม การพุ่งขึ้นของส่วนต่างราคาน้ำมันสำเร็จรูปในเดือน เม.ย. เพียงพอจะหนุนค่าการกลั่น 2Q65 เพิ่มขึ้น QoQ และ YoY
  • ปรับกำไรปี 2565 ขึ้น 104% สะท้อนค่าการกลั่น และกำไรสต็อกน้ำมันที่พุ่งขึ้นมากกว่าคาดใน 1H65
  • ราคาเหมาะสมใหม่ 11.00 บาท มองว่าราคาหุ้นสะท้อนข่าวลบจากน้ำมันรั่วไปแล้ว ปรับเพิ่มคำแนะนำเป็น “ซื้อ” หุ้นมี Catalyst จาก Earnings Upgrade ของ Consensus และเงินปันผลสูง 7.2%

STAR PETROLEUM REFINING หุ้นสะท้อนข่าวลบไปมากแล้ว

GRM และกำไรสต็อกชดเชยผลกระทบน้ำมันรั่วได้ทั้งหมด

เหตุการณ์น้ำมันรั่วไหลช่วงปลายเดือนม.ค. 2565 ที่ผ่านมา ทำให้บริษัทฯ จะมีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการขจัดคราบน้ำมัน และเงินช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบ ขณะที่เงินเคลมประกันภัยอาจไม่ครอบคลุม ทั้งจำนวนและใช้เวลาพิจารณาหลายเดือน (คาดว่าจะได้รับปี 2566) ทำให้งบการเงิน 1Q65 จะมีค่าใช้จ่ายส่วนนี้ 1.4 พันล้านบาท และระหว่างท่อ SPM ที่เกิดปัญหาอยู่ระหว่างแก้ไข จะทำให้ค่าขนส่งน้ำมันสูงขึ้น US$0.7-0.8/bbl (หรือราว 1 ร้อยล้านบาท/เดือน) อย่างไรก็ตาม เราคาดว่าความต้องการใช้น้ำมันในประเทศที่ฟื้นตัว และอุปทานน้ำมันในตลาดตึงตัวจากเหตุการณ์สงครามรัสเซีย-ยูเครน จะทำให้ 1Q65 SPRC มี 1) อัตราการใช้กำลังผลิตสูงขึ้นเป็น 87% (+7% QoQ, +8% YoY) 2) ค่าการกลั่นเร่งตัวขึ้นเป็น US$8/bbl (+34% QoQ, +127% YoY) สอดคล้องส่วนต่างราคาน้ำมันสำเร็จรูปที่พุ่งขึ้นสูงสุดในรอบหลายไตรมาส รวมทั้ง Premium ของราคาขายผลิตภัณฑ์ที่ดีขึ้นจากอุปสงค์ในประเทศ และ 3) กำไรสต็อกน้ำมัน 5.0 พันล้านบาท (เทียบกับ 931 ล้านบาทใน 4Q64 และ 2.7 พันล้านบาทใน 1Q64) ส่งผลให้คาดว่ากำไรสุทธิจะทำได้ 4.6 พันล้านบาท (+149% QoQ, +130% YoY) นับเป็นกำไรรายไตรมาสสูงสุดตั้งแต่เข้าตลาดฯ ปี 2558

ต้นทุนน้ำมันมี Lag-time… งบ 1H65 แข็งแกร่ง มี Catalyst จาก Upgrade กำไร

หาก 1Q65 เป็นไปตามคาด จะสูงกว่าประมาณการเดิมทั้งปีของเรา กอปรกับทิศทางกำไรปกติ 2Q ยังดีต่อเนื่อง  หนุนด้วยอุปสงค์ในประเทศฟื้นตัว และค่าการกลั่นระดับสูง เพียงพอชดเชยต้นทุนน้ำมัน (Crude Premium) จากตะวันออกกลางที่เร่งตัวขึ้นตั้งแต่เดือน พ.ค.ได้ทำให้ประเมินเบื้องต้นว่า 2Q65 อัตราการผลิตและค่าการกลั่นจะสูงขึ้น QoQ และ YoY เป็นราว 90% และ US$10/bbl ตามลำดับ จากเหตุผลข้างต้น เราปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2566 ขึ้น 104% เป็น 6.5 พันล้านบาท (+38% YoY สูงสุดรอบ 5 ปี) โดยปรับสมมติฐานหลักดังนี้ 1) อัตราการผลิตเป็น 89% 2) ค่าการกลั่นเป็น US$7.2/bbl 3) กำไรสต็อกน้ำมันเป็น US$1.5/bbl หรือ 2.8 พันล้านบาท 4) รวมค่าใช้จ่ายจากเหตุการณ์น้ำมันรั่วไหล 1.4 พันล้านบาท ทั้งนี้ สมมติฐานของเรายังอยู่บนความระมัดระวัง โดยรวมโอกาสขาดทุนสต็อกน้ำมัน – ค่าการกลั่นที่อ่อนตัวลงสู่ระดับปกติช่วง 2H65 ไว้แล้ว นอกจากนี้ เรายังคงคาดการณ์ปี 2566 ที่ 4.0 พันล้านบาท ซึ่งยังไม่รวมเงินเคลมประกันภัยเข้ามาในประมาณการ

หุ้นสะท้อนข่าวน้ำมันรั่วไปมากแล้ว เพิ่มคำแนะนำเป็น “ซื้อ”

ประเมินราคาเหมาะสมใหม่ 11.00 บาท (เดิม 10.00 บาท) อ้างอิง PBV 1.2 เท่า (คงเดิม) เรามีมุมมองบวกต่อหุ้น SPRC มากขึ้น จาก 1) ราคาหุ้นปรับตัวลดลง -5% YTD เทียบกับ TOP +5% และ BCP +21% ถือว่าสะท้อนข่าวลบจากเหตุการณ์น้ำมันรั่ว-ค่าใช้จ่ายตั้งสำรองสูงกว่าคาดไปแล้ว 2) แนวโน้มผลประกอบการ 1H65 แข็งแกร่ง หนุนจากราคาน้ำมันดิบ – ค่าการกลั่นที่พุ่งขึ้นแรงกว่าที่เราและตลาดประเมินไว้ก่อนหน้า ทำให้หุ้นมี Catalyst จากการปรับเพิ่มประมาณการกำไรของ Consensus 3) กำไรสุทธิปี 2565 จะสูงสุดในรอบ 5 ปี ทำให้คาดว่าหุ้นจะมีผลตอบแทนเงินปันผลปี 2565 สูง 7.2% (สมมติฐาน Payout 45% เทียบกับนโยบายจ่ายเงินปันผลของบริษัทฯ ที่ 50%) จากเหตุผลข้างต้นเราปรับคำแนะนำขึ้น (จาก TRADING) เป็น “ซื้อ” (บริษัทฯ จะรายงานงบการเงินวันที่ 12 พ.ค.)

- Advertisement -