สรุปภาวะตลาด

วันอังคารที่ผ่านมา ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนบวก ตลอดช่วงการซื้อขาย โดยบวกราว 10-12 จุด ดัชนีปรับตัวขึ้นจากแรงซื้อในหุ้น Big cap. ในกลุ่มพลังงาน ค้าปลีก และหุ้น JTS ที่ปรับตัวขึ้นร้อนแรง รวมไปถึงการเล่นเก็งกำไรในหุ้นขนาดกลาง-เล็ก โดยรวมยังมีปัจจัยกดดันจากอัตราผลตอบแทนสหรัฐที่เร่งตัวต่อเนื่อง ทำให้ FED เร่งขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,675.62 จุด +7.56 จุด +0.45% มูลค่าการซื้อขาย 74,313 ลบ.ต่างชาติ +2,371.71 ลบ. TFEX -10,707 สัญญา ตราสารหน้ี -2,183.81 ลบ.

ปัจจัยบวก+

+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดพุ่งขึ้น 499.51 จุด หรือ +1.45% ขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งเกินคาดของบริษัทจด ทะเบียน รวมทั้งการแสดงความเห็นเชิงบวกเกี่ยวกับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

+ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือน มี.ค. สู่ระดับ 1.793 ล้านยูนิต สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าลดลงสู่ระดับ 1.745 ล้านยูนิต

+ สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า รัฐบาลจีนตัดสินใจให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ศรีลังกาเป็นกรณีฉุกเฉิน เพื่อช่วยให้ศรีลังการับมือกับปัญหาเศรษฐกิจในปัจจุบัน

+ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) เปิดเผยว่า โดยปกติในช่วงเทศกาลสงกรานต์ของทุกปี เป็นช่วงเวลาที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางเป็นจำนวนมาก โดยปีนี้มีปริมาณเที่ยวบินรวม 8,532 เที่ยวบิน หรือเฉลี่ยวันละ 1,220 เที่ยวบินต่อวัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 15%

+/- ศบค.รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่รวม 20,455 ราย มีผู้เสียชีวิต 128 ราย รักษาหาย 25,933 ราย

ปัจจัยลบ –

– สัญญาน้ำมันดิบ WTI ร่วงลง 5.65 ดอลลาร์ หรือ 5.2% ปิดที่ 102.56 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีนี้และปีหน้า ซึ่งทำให้นักลงทุนกังวลว่าการชะลอตัวของเศรษฐกิจอาจส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมันในตลาด

– ธนาคารยูบีเอส กรุ๊ป, บาร์เคลย์ และสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีนตลอดทั้งปีนี้ เนื่องจากมีการใช้มาตรการควบคุม และล็อกดาวน์เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างเข้มงวด

– บิซิเนส อินไซเดอร์ รายงานระบุว่า เจ้าของร้านอาหารจำนวนมากในสหรัฐเกิดความตึงเครียดจากอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น เนื่องจากผู้บริโภคประมาณ 84% วางแผนที่จะใช้จ่ายน้อยลงในการรับประทานอาหารนอกบ้าน อันเนื่องมาจากภาวะเงินเฟ้อ

– ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐ (CDC) เปิดเผยว่า ไวรัสสายพันธุ์ BA.2 และ BA.2.12.1 รวมกันครอง สัดส่วนมากกว่า 90% ของไวรัสโควิด-19 ทั้งหมดที่มีการตรวจพบในสหรัฐ

– IMF คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจโลกจะมีการขยายตัว 3.6% ทั้งในปี 2565 และ 2566 โดยลดลงจากตัวเลขคาดการณ์ในเดือนม.ค.ที่ระบุว่าเศรษฐกิจโลกจะมีการขยายตัว 4.4% ในปี 2565 และ 3.8% ในปี 2566

แนวโน้มตลาดวันนี้

คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยมีโอกาสปรับตัวขึ้นตามทิศทางตลาดต่างประเทศ โดยมีแรงหนุนจากที่ประธานเฟดสาขา แอตแลนตา และประธานเฟดสาขาชิคาโก ต่างก็สนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป ขณะที่ นักลงทุนยังกังวลอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีที่พุ่งขึ้นต่อเนื่อง ดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,670-1,685 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

  • กรณีสงครามยืดเยื้อ ราคาน้ำมันทรงตัวในระดับสูง บวกต่อ PTTEP PTTGC TOP, สินค้าเกษตร ข้าวสาลี และ กากถั่วเหลืองขึ้น เป็นบวกต่อ TMILL TVO และเป็นลบต่อธุรกิจอาหารสัตว์ทำให้ต้นทุนเพิ่มขึ้น CPF GFPT ASIAN
  • จ่อปลดล็อกเข้าประเทศทุกเงื่อนไข 1 มิ.ย.นี้ เลิก ThailandPass/Test&Go : AOT ERW CENTEL MINT AWC
  • หุ้นที่ได้ประโยชน์จากอากาศร้อน SNC KOOL SAPPE ICHI TACC

หุ้นรายงานพิเศษ

  • กำไรในช่วง 1Q65 ของหุ้นกลุ่มธนาคารมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นทั้ง YoY และ QoQ โดยมีปัจจัยหนุนจากคุณภาพสินทรัพย์ที่ปรับดีขึ้น ส่งผลให้ผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นลดลงจากปี 64 ขณะที่คาดว่าสินเชื่อน่าจะขยายตัวดีในช่วง 2H65
  • Outlook ในช่วงเวลาที่เหลือภาพรวมเศรษฐกิจมีปัจจัยเสี่ยงจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สถานการณ์ตึงเครียดยูเครน-รัสเซีย และภาวะเงินเฟ้อสูง
  • ความเห็น ฝ่ายวิจัยให้น้ำหนักการลงทุนในหุ้นกลุ่มธนาคารเป็น “Neutral” แนะนำ Top Pick ได้แก่ KBANK, BBL, TISCO และ SCBX (เริ่มซื้อขายวันแรก 28 เม.ย.65)

หุ้นมีข่าว

(+) SSP (Bloomberg Consensus 16.00 บาท) จับตา SSP ลงทุนเมกะเทรนด์ รับฐานทุนแน่นเงินสด 2 พันล้านบาท เดินหน้าเจรจาโครงการพลังงานทดแทนต่อปิดดีลปีนี้ 1 ดีล แถมสนธุรกิจเมกะเทรนด์ทั้งโซลาร์รูฟ กัญชง กัญชา และเหรียญดิจิทัลด้วย บิ๊กบอส “วรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์” เล็งปรับเป้ากำลังผลิตเพิ่มเกิน 400 เมกะวัตต์ ช่องทางลงทุนเพียบ (ที่มา ทันหุ้น)

(+) HL (Bloomberg Consensus 35.00 บาท) ส่งสัญญาณยอดขายไตรมาส 1/2565 ทุบสถิติสูงสุด ใหม่ รับเทรนด์สุขภาพ แถมได้สินค้าใหม่หนุน ตั้งเป้าโกยเงิน 50 ล้านบาท ชี้กระแสตอบรับดี พร้อมผนึกพันธมิตรปั้นนิวโปรดักต์ ฟากบอสใหญ่ “ธัชพล ชลวัฒนสกุล” ใส่เกียร์ผุดสาขาใหม่ครบ 8 สาขา ในไตรมาส 3/2565 พร้อมรับรู้ยอดขายเข้าทันที (ที่มา ทันหุ้น)

(+) J (Bloomberg Consensus – บาท) เดินเกมในโครงการมิกซ์ยูสย่านนนทบุรี หวังเพิ่มมูลค่า ต่อยอดธุรกิจ บิ๊ก “สุพจน์ สิริกุลภัสสร์” จ่อทุ่มงบ 300 ล้านบาท ช็อปที่ดินแปลงสวยลุยอสังหา แนวราบ เติม Backlog เพิ่ม แจงเพิ่มทุน-แจกวอร์แรนต์ ชี้นำเงินเพิ่มความสามารถลงทุนเท่าตัว แถมปักธงปี 2565 ผลงานโต 100% จากปีก่อน รับคอมมูนิตี้มอลล์ใหม่-อสังหาหนุน (ที่มา ทันหุ้น)

(+) APCS (Bloomberg Consensus 5.70 บาท) กางแผนธุรกิจปี 2565 อยู่ระหว่างศึกษาการลงทุนเครื่องจักรยานยนต์ หวังรับงานเกี่ยวเนื่องด้าน EV เข้ามาเพิ่ม แถมเนื้อหอมลูกค้าเข้ามาเจรจาหลายราย ด้าน EPC ปีนี้เด่น มีลุ้นคว้าโครงการใหม่ขนาดกลาง-ใหญ่หนุนพอร์ต วางงบ 2,000 ล้านบาท ลงทุนเครื่องจักรเสริมแกร่ง (ที่มา ทันหุ้น)

ปัจจัยจับตาในประเทศ

  • สัปดาห์ที่ 4 กระทรวงพาณิชย์แถลงตัวเลขการ ส่งออก-นําเข้า
  • ภายใน 21 เม.ย. หุ้นกลุ่มธนาคารส่งงบการเงินงวด 1Q65
  • 22 เม.ย. ประชุมสบค.ประเมินสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 หลังสงกรานต์ เตรียมรับมือเปิดเทอม และปรับแผนเข้าออกประเทศ
  • 25 เม.ย. สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) แถลงยอดการผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และชิ้นส่วนยานยนต์
  • 29 เม.ย. ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย
  • 18 พ.ค. ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ครั้งที่ 3/2565

ปัจจัยจับตาต่างประเทศ

  • 20 เม.ย. ธนาคารกลางจีนกําหนดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ LPR

อียู รายงาน ดุลการค้าเดือน ก.พ. การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือน ก.พ.

สหรัฐ รายงานยอดขายบ้านมือสองเดือน มี.ค. สต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book จากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) (เช้าวันที่ 21 เม.ย.)

  • 21 เม.ย. อียู รายงานอัตราเงินเฟ้อเดือน มี.ค.

สหรัฐ เปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ดัชนีการผลิตเดือน เม.ย. จากเฟดฟิลาเดลเฟีย

- Advertisement -