ยังไม่เร่งรีบเข้าลงทุน ระยะสั้นแนะ KKP MAJOR

เมื่อคืนที่ผ่านมา Dow Jones ปรับขึ้นแข็งแกร่ง 1.45% หลังจากที่บริษัทจดทะเบียนรายงานกำไรดีกว่าตลาดคาดการณ์ อาทิ Johnson & Johnson รวมถึงประธาน FED สาขาแอตแลนตาและชิคาโกสนับสนุนให้ FED ขึ้น ดอกเบี้ยแต่เป็นลักษณะค่อยเป็นค่อยไป เนื่องจากกังวลว่าดอกเบี้ยที่ขึ้นเร็วจนเกินไปจะส่งผลกระทบกับเศรษฐกิจ ส่วนราคาน้ำมันดิบ BRT ปรับฐานแรง 5.2% กังวลอุปสงค์หายไปหลังจากที่ IMF ออกมาปรับลด GDP โลกลงเหลือ ขยายตัวเพียง 3.6%YoY จากคาดการณ์เดิม 4.4%YoY ผลจากการสู้รบกันระหว่างยูเครน-รัสเซีย ส่งผลให้เกิด แรงกดดันจากเงินเฟ้อที่เร่งตัวขึ้น แม้ IMF จะเชื่อว่าสงครามจะยุติในไม่ช้า แต่การที่เมืองหลวงถูกทำลาย รวมถึงเกิดการอพยพของประชาชนในยูเครนจะเป็นปัจจัยส่งผลเชิงลบต่อเศรษฐกิจอีกยาวนาน พร้อมกันทั้งนี้ คาดเงินเฟ้อสหรัฐในปีนี้เฉลี่ย 7.7%YoY และประเทศเกิดใหม่ ราวๆ 8.7%YoY ความเห็นเราแม้การปรับลดประมาณการ GDP ของ IMF จะไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะมีหลายสำนักได้ออกมาปรับลดก่อนหน้านี้แล้ว แต่กับการลงทุนใน SET จะยิ่งท้าทายมากขึ้นเพราะ (1) ปัจจุบันยังไม่เห็นสัญญาณปรับลดประมาณการ ซึ่งเชื่อว่าหลังจากนี้จะตามมาเมื่อผลประกอบการเริ่มทยอยประกาศ (2) ระดับ Valuation ค่อนข้างแพงความผันผวนจะยิ่งมากขึ้น

ด้านปัจจัยในประเทศยังไม่มีอะไรใหม่ๆ ยังคงเป็นเรื่องของผลประกอบการ ล่าสุด KKP รายงานกำไรสุทธิ 1Q22 ที่ 2.06 พันล้านบาท (+41%YoY +1%QoQ) ดีกว่าเราคาด 15% หนุนจากค่าใช้จ่ายสำรองหนี้ที่ลดลง ทั้งนี้แม้ว่าอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) ปรับลดลงแต่ผลการดำเนินงานแข็งแกร่ง เนื่องจากสินเชื่อขยายตัวขึ้นพร้อมกับรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยขยายตัวได้ดีขึ้น ด้าน Coverage Ratio ยังสูงถึง 181% ซึ่งจะช่วยคลายความกังวลจากหนี้เสียที่อาจ สูงขึ้นในอนาคตจากนี้หากเศรษฐกิจมีความผันผวน โดยประเมิน SET INDEX วันนี้เคลื่อนไหวกรอบ 1669-1681 ไม่คาดว่าการปรับขึ้นของ Dow Jones จะมีผลมากนัก เพราะเป็นการเคลื่อนไหวด้วยปัจจัยเฉพาะจากผลประกอบการที่แข็งแกร่ง เชิงกลยุทธ์เน้นการถือครองเงินสดระดับสูงเช่นเดิม หากแต่จะลงทุนระยะสั้นแนะหุ้นมีปัจจัยบวก (KKP) กลุ่มที่มีน้ำมันเป็นต้นทุน (SCC SCGP TASCO TOA)

KKP (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 79 บาท) ผลการดำเนินงานงวด 1Q22 แข็งแกร่งที่ 206 พันล้านบาท (+41% YoY, +1% QoQ) ดีกว่าคาด 15% จากค่าใช้จ่ายสำรองหนี้ลดลงล้อกับหนี้เสียที่ลดลง และการขาดทุนรถยึดน้อยกว่าคาด โดยเชื่อว่ากำไรสุทธิปี 2022 ที่ 7.1 พันล้านบาท (+ 12% YoY) จากสำรองหนี้ฯลดลงและรายได้จากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น

MAJOR (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 23.70 บาท) คาดผลการดำเนินงานจะค่อยๆ ปรับดีขึ้นในปี 2022 จากจุดต่ำในปี 2021 เพราะจะมีภาพยนตร์คุณภาพดีที่ถูกเลื่อนมาฉายในปีนี้จำนวนมาก หลังจากก่อนหน้านี้เผชิญกับมาตรการคุม เข้มด้านโควิด-19

 

หมายเหตุ: ชุดหุ้นที่แนะนำเหมาะสำหรับการซื้อเพื่อถือลงทุน 7-14 วัน หากนักลงทุนมีกำไรก็สามารถทำกำไรได้ โดยแนะตั้ง Stop loss หากขาดทุนเกินกว่า 5% ส่วนราคาเป้าหมายเป็นราคาภายใน 1 ปีจากปัจจุบันที่มาจาก ปัจจัยพื้นฐาน

- Advertisement -