บล.เคจีไอ (ประเทศไทย):

Muangthai Capital (MTC.BK/MTC TB)

เผชิญแรงกดดันพร้อมกัน 2 ทาง

Event

ปรับลดประมาณการกำไร และปรับลดคำแนะนำ

Impact

สินเชื่อขยายตัวเพียงอย่างเดียงไม่ช่วยให้กําไรโตได้

เราคิดว่ากลยุทธ์ที่จะรุกขยายสินเชื่อถึง 25-30% ในปีนี้จะไม่ช่วยหนุนกำไรในปีนี้มากนัก ภายใต้แผนการโตสินเชื่อบริษัทเน้นที่จะขยายสินเชื่อส่วนบุคคล (P-Loan) และสินเชื่อลิสซิ่งรถมอเตอร์ไซค์ เพื่อเพิ่มยีดส์ โดยยีลด์ของสินเชื่อ P-Loan อยู่ที่ 24% และสินเชื่อลิสซึ่งอยู่ที่ 22% (สูงกว่า yield ของสินเชื่อจำนำทะเบียนรถมอเตอร์ไซค์ รถยนต์ที่ 16%/18%) อย่างไรก็ตาม เนื่องจากสินเชื่อ P-Loan และสินเชื่อลิสซิ่งรถมอเตอร์ไซค์ ยังมีสัดส่วนที่ต่ำเพียง 10% และ 8% ตามลำดับ ดังนั้น ถึงแม้สินเชื่อลิสซิ่งจะโตถึง 70% และสินเชื่อ P-Loan จะโตถึง 40% ก็ทำให้สินเชื่อรวมเพิ่มขึ้นประมาณ 10-15bps เท่านั้น

ต้นทุนทางการเงินเพิ่มขึ้น

ต้นทุนทางการเงินของ MTC มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเร็วกว่าคาด จากผลของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรพุ่งสูงขึ้นอย่างมากก่อนที่จะมีการขึ้นดอกเบี้ย ทั้งนี้ จากข้อมูลของ Thai BMA อัตราดอกเบี้ย (coupon) ของหุ้นกู้อายุสามปีที่ได้เรตติ้ง A- มีต้นทุนเพิ่มขึ้นถึงกว่า 70bps ในขณะที่ของหุ้นกู้อายุ 5 ปีเพิ่มขึ้น 90-110bps เมื่อเทียบกับหุ้นกู้ที่ออกในปลายปี 2564 ซึ่งหากเราใช้อัตราดอกเบี้ยใหม่นี้กับหุ้นกู้และสินเชื่อที่จะครบกำหนดในปีนี้ จะทำให้ต้นทุนทางการเงินของ MTC เพิ่มขึ้นประมาณ 30bps และฉุดให้กำไรลดลงประมาณ 3% ทั้งนี้พอร์ตเงินกู้ของ MTC ประกอบด้วยหุ้นกู้ 70% สินเชื่อระยะยาว 23% และสินเชื่อระยะสั้น 6% ซึ่งมียอดหนี้ 2.0-2.4 หมื่นล้านบาทที่จะครบกำหนดชำระคืนในปี 2565

NPL และ credit cost เพิ่มขึ้น

MTC กำลังเผชิญกับกระแส NPL เกิดใหม่ก้อนใหญ่ หลังจากที่มาตรการบรรเทาผ่อนผันหนี้สิ้นสุดลง โดย NPL ที่แสดงสัญญาณการเพิ่มขึ้นใน 4Q64 จะยิ่งเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมใน 1Q65 และ 2Q65 ซึ่งจะไปกดดันให้ credit cost เพิ่มขึ้นไปแตะที่ระดับสูงสุดของช่วงที่กำหนดไว้ที่ 1.2-1.5% ของสินเชื่อในปี 2565 และอาจจะสูงกว่าที่บริษัทตั้งเป้าเอาไว้ ถ้าบริษัทไม่สามารถขาย NPL ออกไปจากพอร์ตสินเชื่อได้ ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าจะกดให้ NPL <2% (รวมการขาย NPL ออกไปแล้ว)

ปรับกำไรปี 2565F/2566F ลง 5%/10% และลดราคาเป้าหมายปี 2565F ลงเหลือ 49.50 บาท (PE ที่ 20x)

เราคิดว่า MTC กำลังแสดงสัญญาณแนวโน้มที่อ่อนแอจากแรงกดดันต้นทุนทางการเงินเพิ่ม และคชจ. สำรองเพิ่ม ซึ่ง MTC จะเป็นหนึ่งในผู้เล่นในกลุ่มนอนแบงก์ที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด เราปรับลดประมาณการกำไรปี 2565/2566 ลง 5%/9% ทั้งนี้ เมื่อใช้ PE ใหม่ลดลงเหลือ 20x (จากเดิม 22x) ทำให้เราได้ราคาเป้าหมายปี 2565F ใหม่ที่ 49.50 บาท (จากเดิม 55 บาท) และปรับลดคำแนะนำจากถือเป็นขาย

Risks

เพิ่ม yield สินเชื่อ ไม่สำเร็จ, NPLs เพิ่มขึ้น และตั้งสำรองเพิ่มขึ้น

- Advertisement -