บล.ทิสโก้:

บมจ. เซ็ปเป้ คาดกําไร 1Q22F เติบโตก้าวกระโดด

ทําการตลาดส่งออกเติบโตก้าวกระโดด

เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” 1) คาดกำไรสุทธิ 1Q22F เพิ่มขึ้น จากการส่งออกที่เติบโตก้าวกระโดดทุกประเทศ โดยเฉพาะในแถบเอเชีย 2) คาดยอดขายไตรมาส 2Q22F ยังเติบโตต่อเนื่อง จากเข้าสู่ช่วงฤดูร้อนทั้งในประเทศและส่งออก รวมถึงการเร่งทำการตลาดและสินค้าใหม่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และเครื่องดื่มส่วนผสมสารกัญชง CBD ที่จะเข้ามาใน 2Q22F เราคาดกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 11% (CAGR3y) ราคาเป้าหมาย 33.50 บาท

คาดกำไรสุทธิ 1Q22F เติบโตแรงทั้ง YoY และ QoQ

เราคาด SAPPE จะมีกำไรสุทธิ 1Q22F ที่ 134 ล้านบาท (+55%YoY, +140%QoQ) จากการการเติบโตของยอดส่งออกเป็นหลัก คาดรายได้รวมอยู่ที่ 969 ล้านบาท (+32%YoY และ 18%QoQ) โดย 1) คาดยอดขายในประเทศลดลง -10%YoY และ -9%QoQ เป็นไปตามภาพรวมของตลาด functional drink ที่ลดลง และบริษัทยังไม่มีการทำการตลาดและการออกสินค้าใหม่ 2) คาดส่งออกเพิ่มขึ้น +60%YoY, +32%QoQ เติบโตจากฐานลูกค้าของบริษัทกว่า 90 ประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศแถบเอเชียที่เติบโตมาก ได้แก่ เกาหลีใต้ ฟิลลิปินส์ อินโดนีเซีย ตามด้วยกลุ่มประเทศยุโรป และตะวันออกกลาง ยกเว้นโซนอเมริกาที่ติดลบเล็กน้อย ประกอบกับเทศกาลรอมฎอนปีนี้ที่เร็วขึ้น เป็นต้น เม.ย. ทำให้มีออเดอร์ล่วงหน้าเพิ่มขึ้น คาดอัตรามาร์จิ้นเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 40.5% จาก utilization rate ที่อยู่ระดับ 90% เพิ่มขึ้นตามยอดขาย และคาดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 33.6% ตามยอดขายที่เพิ่มขึ้น และการบันทึกค่าบริการค่าขนส่งระวางเรือให้กับลูกค้า แต่บริษัทได้มีการบันทึกเก็บค่าบริการนี้ในรายได้อื่นๆ

พัฒนาออกสินค้าใหม่ และขยายทำการตลาดส่งออกเติบโตต่อเนื่อง

เราคาดแนวโน้มผลประกอบการ 2Q22F จะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทั้งในประเทศและส่งออก จากเข้าสู่ high season ฤดูร้อน และบริษัทเตรียมออกสินค้าใหม่ รวมถึงเครื่องดื่มผสมสารกัญชง เราคาดกำไร 2Q22-23F อยู่ที่ 445 ล้านบาท (+8% YoY) และ 497 ล้านบาท (+12% YoY) ตามลำดับ จากคาดรายได้รวมเพิ่มขึ้นปีละ 10% ทั้งในประเทศและการส่งออก จากการทยอยออกสินค้าใหม่ จากการขยายตลาด Traditional Trade มากขึ้น และการทำการตลาดในต่างประเทศ โดยเฉพาะทวีปเอเชีย ยุโรป และอเมริกา โดยจะเน้นทั้ง Offline/Online marketing คาดอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 38.7% จาก 39.2% ลดลงจากการขยายการลงทุนโครงการใหม่ ในขณะที่คุมต้นทุนได้ดีขึ้นจากการปรับประสิทธิภาพเครื่องจักรไลน์ผลิต ด้านต้นทุนเรซิ่นขวด PET ที่เพิ่มขึ้น บริษัทคาดบริหารจัดการได้ในช่วง 1H22 จากการล็อกราคาไว้ล่วงหน้า และมีการเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต 10% และการส่งออกที่มีมาร์จิ้นที่ดีกว่าในประเทศ ส่วนใน 2H22 ยังคงต้องติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง บริษัทวางงบลงทุน 350 ล้านบาทใช้ใน 2 ปีนี้ จากโครงการ cost saving project งบลงทุน 100 ล้านบาท ในช่วง 2Q22-3Q22 และขยายคลังสินค้า

เรายังคงคำแนะนำเป็น “ซื้อ”

เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” คาดผลประกอบการเพิ่มขึ้นจากการทำตลาดและพัฒนาสินค้าใหม่ และการควบคุมต้นทุนที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยราคาเป้าหมายอยู่ที่ 33.50 บาท อ้างอิง PER เฉลี่ยย้อนหลังที่ 23x จากราคาหุ้นปัจจุบันต่ำกว่าค่าเฉลี่ย PER22F อยู่ที่ 19.2x ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่ม เครื่องดื่มที่ 27.3X และ Dividend Yield 22F อยู่ที่ 3.9% มากกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มเครื่องดื่มที่ 3.2% ฐานะการเงินแข็งแกร่งเป็นเงินสดสุทธิ (net cash)

ความเสี่ยง : เศรษฐกิจ, ต้นทุนวัตถุดิบ

- Advertisement -