Daily Focus: Earnings and Value Play

2022SET Target: 1770

ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index ปรับตัวขึ้นได้แข็งแกร่งกว่าคาดต่อเนื่อง ปิดบวกได้อีก 10.20 จุด นำโดยกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์อย่าง DELTA รวมถึง SCBB ที่รีบาวด์ สถาบันในประเทศและนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นต่อเนื่องอีก 946 ลบ.และ 978 ลบ. ตามลำดับ (ต่างชาติพลิกมา Long SET50 Index Futures กว่า 1.8 หมื่นสัญญา)

แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาด SET Index จะเริ่มกลับมาอ่อนตัวลงหากรอบ 1,680-1,685 จุด จากแรงกดดันหลังประธาน FED ระบุเตรียมปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.5% ในการประชุมเดือนหน้า เพื่อดึงเงินเฟ้อให้ปรับลงสู่กรอบเป้าหมาย 2% โดยเร็วหลังล่าสุดเงินเฟ้อสหรัฐฯสูงสุดในรอบ 40 ปี ส่งผลให้ Dollar Index แข็งค่าขึ้นอีกครั้ง และ Bond Yield พุ่งขึ้น กดดันสินทรัพย์เสี่ยง อย่างหุ้นโดยเฉพาะกลุ่ม Tech และ Growth ที่มี PER สูงคาดถูกกดดัน โดยรวมเรายังประเมิน SET Index ในช่วงที่เหลือของ เม.ย. ต่อเนื่อง พ.ค. ยังมีโอกาสพักตัวระยะสั้นหาระดับ 1,650+- จุดหรือต่ำกว่า ซึ่งมองเป็นโอกาส “สะสมหุ้นพื้นฐาน” เพื่อถือลงทุนระยะกลางยาว โดยยังให้น้ำหนักบวกต่อกระแสเงินทุนต่างชาติที่จะไหลเข้าตลาดหุ้นไทยต่อเนื่องในตามทิศทางเศรษฐกิจไทยที่เติบโตเร่งตัวขึ้น โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวที่จะเริ่มฟื้นชัดใน 2H22 เป็นต้นไป หุ้นที่เราชอบยังคงเป็นกลุ่ม Value และ Domestic Play ที่มี PER/PBV ได้แก่ กลุ่มธนาคาร โรงกลั่น ค้าปลีก อสังหาฯ อาหารและเครื่องดื่ม การแพทย์ เป็นต้น ส่วนระยะสั้นเลือกเก็งกำไรหุ้นที่คาดประกาศผลประกอบการ 1Q22 แข็งแกร่ง

กลยุทธ์ : เก็งกําไรหุ้นที่คาดงบ 1Q22 แข็งแกร่ง และยังเน้นลงทุนหุ้น Value และ Domestic Play

หุ้นเด่นเดือน เม.ย. : BCP, ICHI, IVL, ORI, SHR

หุ้นเด่นวันนี้ : SMT

  • แนะนำ “เก็งกำไร” มีแนวโน้มปรับเพิ่มราคาเป้าหมายเป็น 6 บาท
  • แนวโน้มกำไร 1Q22 ฟื้นดีกว่าที่เคยคาด +17% Q-Q, +6% Y-Y หลังปัญหาวัตถุดิบดีขึ้นจากไตรมาสก่อน ทำให้รายได้และ Margin ฟื้นตัว ขณะที่ 2Q22 คาดเร่งตัวจากคำสั่งซื้อของจริงที่ครอบคลุมทั้งไตรมาสและเริ่มยาวถึง 3Q22
  • จากแนวโน้มกำไรที่ดูดีกว่าคาด ทำให้เรามีโอกาสปรับเพิ่มประมาณการกำไรปีนี้ขึ้นราว 13% จากปัจจุบันที่คาด +5% Y-Y และเป็น Upside ต่อราคาเป้าหมาย
  • แนวรับ 5-4.90 บาท แนวต้าน 5.25-5.30//5.50 บาท

Fund Flow: วานนี้กระแสเงินทุนยังคงไหลเข้าภูมิภาคอีกบางๆ US$232 ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลเข้าไต้หวัน US$147 ล้าน แต่ไหลออกจากเกาหลีใต้ ส่วนอาเซียนไหลเข้าทุกประเทศยกเว้นฟิลิปปินส์ นำโดยอินโดนีเซีย US$83 ล้าน อย่างไรก็ตาม เราคาดกระแสเงินทุนจะเริ่มพลิกมาไหลออกอีกครั้งหลังประธาน FED สนับสนุนการขึ้นดอกเบี้ย 0.5% ในเดือนหน้า เพื่อดึงเงินเฟ้อให้ลงหาเป้าหมาย 2% ให้เร็วที่สุด

ประเด็นสำคัญวันนี้

(+) SCBB กำไร 1Q22 ใกล้เคียงคาด +29% Q-Q, +1% Y-Y โดยหลักๆเกิดจากการตั้งสำรองที่ลดลงอย่างมีนัยยะ เนื่องจาก SCB ยังคงให้ความช่วยเหลือแก่ลูกหนี้ปรับโครงสร้าง ขณะที่ NPL มีแนวโน้มที่ดีขึ้น ส่วนสินเชื่อขยับเพิ่มได้เล็กน้อย Q-Q SCBX ยังคงเป็นหนึ่งใน Top Pick ของกลุ่มธนาคารในระยะยาวจากการ Transformation ที่เอื้อให้รุกตลาดใหม่ๆ ทั้งด้านการกู้ยืมและด้าน Digital ได้มากขึ้น และคาดว่าราคาจะกลับมา Outperform หลังจากการ Swap หุ้นแล้วเสร็จ ราคาเป้าหมายอยู่ที่ 160 บาท แนะนำ “ซื้อ” (Source: FSSIA)

(-) BBL กำไร 1Q22 ต่ำกว่าตลาดคาด +13% Q-Q, +3% Y-Y จากสินเชื่อที่ทำได้เพียงทรงตัว ขณะที่รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยร่วงแรงจากธุรกิจ Bancassurance และค่าธรรมเนียม Mutual Fund ระยะกลาง BBL จะมี ROE และการเติบโตของกำไรต่ำกว่าธนาคารขนาดใหญ่อื่น ยังคงราคาเป้าหมาย 134 บาท แนะนำ “ถือ”

(+) KTB กำไร 1Q22 ดีกว่าคาดมาก +78% Q-Q, +57% Y-Y จากสำรอง ECL และต้นทุนบุคลากรที่ลดลง  รวมถึงควบคุมคุณภาพสินทรัพย์ได้ค่อนข้างดี เราเห็น Upside 12-14% ต่อประมาณการกำไรปีนี้ แต่ปี 2023-224 อาจมี Downside เล็กน้อย ปัจจุบันราคาเป้าหมายอยุ่ที่ 15.50 บาท แนะนำ “ซื้อ”

(0) DELTA ระยะสั้นคาดกำไร 1Q22 ลุ้นทำ New High +20% Q-Q, +43% Y-Y จากรายได้ที่เติบโตแกร่ง ขณะที่ Product Mix ดีขึ้น ทำให้ Margin ฟื้นตัวดี อย่างไรก็ตาม แนวโน้ม 2Q22 อาจอ่อนตัวลงจากทั้งแรงกดดันของสงครามการ Lockdown ของจีน และจำนวนวันผลิตที่น้อยลง ทำให้เบื้องต้นเรายังคงประมาณการกำไรปีนี้ +51% Y-Y คงราคาเป้าหมาย 330 บาท ราคาหุ้นยังเต็มมูลค่า จึงแนะนำเพียง “เก็งกำไร” ผลประกอบการ

(0) CPW คาดกำไร 1Q22 -66% Q-Q ตามฤดูกาล และ -32% Y-Y แม้จะคาดรายได้ +50% Y-Y จากการรวมร้านค้าปลีกและค้าส่งของ IBIZ Plus แต่ Margin ของ IBIZ Plus ต่ำมาก เพราะมีธุรกิจค้าส่ง กำไร 1Q22 คิดเป็นเพียง 14% ของประมาณการทั้งปี แต่น่าจะทยอยดีขึ้น จากสาขาที่มากขึ้นและสินค้าที่หลากหลายขึ้น แม้จะคาดกำไรปีนี้ +39% Y-Y แต่ปัจจุบันมี PE ถึง 30 เท่า และเกินราคาเป้าหมายที่ 4.50 บาท แนะนำ “ขาย”

(-) ตลาดดาวโจนส์ ลดลง 368.03 จุด หรือ 1.05% ปิดที่ 34,792.76 จุด หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าเฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.5% ในการประชุมเดือนพ.ค.

(+) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดบวก จากการเปิดเผยผลประกอบการ 1Q22 ของบริษัทจดทะเบียนที่แข็งแกร่ง ท่ามกลางติดตามสถานการณ์สงครามในยูเครน

(-) ตลาดหุ้นเอเชีย ปรับลง หลังประธานเฟดส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ย 0.5% ในเดือนหน้า

(-) ค่าเงินบาท อ่อนค่าลง อยู่ที่บริเวณ 33.91 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX เพิ่มขึ้น 1.6 ดอลลาร์ หรือ 1.6% ปิดที่ 103.79 ดอลลาร์/บาร์เรล จากรายงานว่าเจ้าหน้าที่ EU กำลังร่างมาตรการที่จะห้ามนำเข้าผลิตภัณฑ์น้ำมันจากรัสเซีย โดยประเทศสมาชิก EU จะเจรจาเกี่ยวกับการคว่ำบาตรน้ำมัน หลังการเลือกตั้งฝรั่งเศสรอบสุดท้ายในวันที่ 24 เม.ย.

(-) ราคาทองคำ COMEX ลดลง 7.4 ดอลลาร์ หรือ 0.38% ปิดที่ 1,948.2 ดอลลาร์/ออนซ์ จากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐปรับขึ้น รวมถึงความกังวลเฟดจะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 1104.13 / -2.61

- Advertisement -