Market Overview

Market wrap & Outlook

  • ศุกร์ที่ผ่านมาดัชนี Sideways หุ้นใหญ่บวกยันตันไว้ ได้แก่ JTS KTB (งบดีกว่าคาดมาก) โรงแรม CENTEL MINT CBG และหุ้นบวกแรงอื่นๆ มี NINE FSMART FORTH KASET CFRESH CM TKC DITTO ส่วนฝั่งปิดลบกดดันดัชนี นำโดย BBL SCBB PTTEP HMPRO RAM AOT
  • วันนี้คาดดัชนี Sideways down คาดแรงกดดันจากการปรับฐานของตลาดหุ้นสหรัฐฯ จะมีผลต่อการปรับฐานของหุ้นไทยจำกัด และมองการปรับฐานของหุ้นไทยเป็นจังหวะในการเลือกซื้อหุ้น เล็งเลือกหุ้นจากธีมลงทุนในสัปดาห์นี้ เล่นหุ้นที่จะประกาศงบดีกว่าคาดการณ์เดิม (วันอังคารมีงบออก SCGP DELTA HMPRO พุธ SCC TIDLOR พฤหัส PTTEP BH ศุกร์ GLOBAL สามารถดูคาดการณ์งบ และวันประกาศในรายงานกลยุทธ์ประจำสัปดาห์) ทั้งนี้เราคาดว่าหุ้นที่มีแนวโน้มจะรายงานกําไรดีขึ้นกว่าคาดการเดิมจากการ Preview ล่าสุด เช่น GFPT DELTA CENTEL RCL PSL BDMS…

What to watch

  • เริ่มเกิดภาพการปรับฐานในตลาดหุ้นสหรัฐฯ (วานศุกร์ร่วงยกแผงเกือบ 3%) ตามที่ MS ออกรายงานเตือนการปรับฐานรอบนี้จะมาจาก Earnings downward revision งบการเงิน บจ.ตลาดหุ้นสหรัฐฯ มีแนวโน้มจะแย่กว่าที่ตลาดคาดการณ์ (ดู NETFLIX เป็นตัวอย่าง) โดยพิจารณาจาก NTW EPS (EPS 12 เดือนข้างหน้า) ถ้า มีการปรับกําไรลงกันถ้วนหน้าแบบปี 2015-16 เกิดภาพ Growth consolidation (แค่โตช้าลงไม่ใช่เกิดเศรษฐกิจถดถอย) ปรับกำไรลงราว 10-30% MS คาดว่าเราจะได้เห็น SP500 ร่วงลงไปที่โซน 4,000 จุด (เท่ากับการร่วงจากนี้มี Downside อีก ราว 6.3%)
  • แล้วหุ้นไทยละจะรอดไหมนะ กลยุทธ์คาดลงตาม แต่เมื่อตั้งหลักได้คาดหุ้นไทยจะกลับขึ้นเร็วกว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯ เพราะ

1. EPS revision ของไทยยังเป็นบวก (ดูกราฟประกอบในรายงาน Weely tactical)

2. ต่างชาติเพิ่งเริ่มซื้อหุ้นไทยกลับแบบจริงๆ จัง ก็เมื่อปลายปีที่แล้ว หลังจากขายจนเหลือน้อยมาก (Underowned)

3. มาตรวัดความโลภและความกลัวของ SET ไทยอยู่ในโซนกลางๆ (อันนี้หาอ่านได้ในรายงานวิเคราะห์เชิงปริมาณ) ไม่ได้อยู่ในโซนโลภมากจนเกินไป หมายความว่าคนที่เล่นหุ้นไทย เล่นแบบระมัดระวังไม่ได้ทุ่มแบบสุดตัว (อาจไม่ได้ใช้เครื่องมือทางการเงินเพิ่มอัตราทดให้สูงขึ้นแบบจัดเต็ม) ดังนั้นถ้า SET จะลงก็ไม่น่าจะมีของออกมาขายกระหน่ำแบบมีนัยยะ

  • กลยุทธ์ไม่แนะนำให้ขายล้างพอร์ตหุ้นเพราะ Panic ตาม แต่แนะให้ตั้งสติ และค่อยๆ เก็บหุ้นตามที่เราเรียกซื้อ….
  • GDP 1Q หลายประเทศที่จะรายงานตลอดสัปดาห์นี้ คาดเห็นสัญญาณของการชะลอลง แต่เชื่อว่าการชะลอลงไม่ถึงขั้นถดถอย ขณะที่ตัวเลขเงินเฟ้อส่วนใหญ่ในสัปดาห์นี้ คาดเพิ่มขึ้นในอัตราที่ช้าลง โดยสรุปเรามองตัวเศรษฐกิจโลกสัปดาห์นี้ไม่ได้มีผลเชิงลบอย่างมีนัยยะต่อตลาดหุ้นไทย

หุ้นแนะนำวันนี้

RCL PSL เลือกหุ้น Low PE ทางรอดในเวลาที่ตลาดหุ้นโลกพร้อมใจขายหุ้น PE สูง

Global Investing News

PayPal (PYPL) มีกำหนดเผยงบในวันที่ 27 เม.ย. นี้ โดยตลาดคาดรายได้อาจโต 6%YOY ขณะที่กำไรต่อหุ้น (EPS) อาจลดลง 29%YoY จากแนวโน้มการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่เปลี่ยนมายังหน้าร้านค้ามากขึ้น อีกทั้งสภาพเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มชะลอตัวลง และอัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูงอาจเป็นปัจจัยกดดันต่อการใช้จ่ายในสินค้าฟุ่มเฟือย ส่งผลให้เราคาดว่า PayPal อาจมีการปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการปี 65 โดยปัจจุบันบริษัทคาดรายได้จะโต 15-17%YoY

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ

3 ดัชนีหลักปิดลบในคืนวันศุกร์ปิดท้ายสัปดาห์ นำโดย Intuitive Surgical (ISRG) -14.3%, Caterpillar (CAT) -6.6%, Nike (NKE) -4.7% โดยดัชนี DJIA ปรับตัวลงเป็นสัปดาห์ที่ 4 ในขณะที่ดัชนี S&P 500 และ Nasdaq ปรับลงเป็นสัปดาห์ที่ 3 หลังได้รับแรงกดดันจากความกังวลต่อการเร่งขึ้นดอกเบี้ยของ Fed ที่อาจปรับพื้นที่อัตรา 0.5% เพื่อต่อสู้กับเงินเฟ้อ ซึ่งตลาดคาดว่าอาจปรับขึ้นในอัตราดังกล่าวในการประชุมเดือน พ.ค.และ มิ.ย. นอกจากนี้ยังมีแรงกดดันจากตัวเลขดัชนี PMI ที่ออกมาอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือนที่ 55.1

ตลาดหุ้นฮ่องกง

ดัชนีฮั่งเส็งยังคงปรับตัวลง 0.2% เมื่อวันศุกร์ นําโดย Tencent (700) -2.1%, Ping An (2318) -1.9%, Alibaba (9988) -1.4% จากความกังวลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ถึงแม้ธนาคารกลางจีน (PBOC) ได้ปรับลดอัตราเงินสํารองธนาคาร (RRR) ลง 0.25% แต่เป็นการปรับลงในอัตราที่น้อยที่สุดเป็นประวัติการณ์ เราจึงคาดว่าภาพรวมตลาดหุ้นฮ่องกงอาจยังคงถูกกดดันจนกว่ารัฐบาล จะมีมาตรการกระตุ้นที่ชัดเจนออกมาตามที่ได้ให้คำมั่นว่าจะสนับสนุนเศรษฐกิจและตลาดหุ้น

ตลาดหุ้นเวียดนาม

ดัชนี VN ปิดบวก 0.7% เมื่อวันศุกร์ ฟื้นตัวหลังจากปรับตัวลงตั้งแต่ต้นสัปดาห์ นำโดย VCB +4.8%, GAS +7%, VHM +1.1% และ VNM +1.2% ด้านกรมการขนส่งโฮจิมินห์ได้ยื่นเสนอต่อรัฐบาลเวียดนามให้เพิ่มบริการรถไฟฟ้าและทางรถไฟใหม่ เพื่อเพิ่มการเชื่อมต่อระหว่างท่าเรือและสนามบิน เพื่อรองรับความต้องการในการเดินทางที่คาดว่าจะมีมากขึ้นในอนาคต ซึ่งคาดว่าจะครอบคลุมทั้งการขนส่งด้านการค้าและการเดินทางด้านการท่องเที่ยวเช่นกัน

- Advertisement -