สรุปภาวะตลาด
วันศุกร์ที่ผ่านมา ดัชนีปรับตัวลงเคลื่อนไหวในแดนลบ ลงต่ำสุดราว -10 จุด ทดสอบบริเวณ 1,680 จุด ก่อนที่ลดช่วงลบ และดัชนีปิดทรงตัว การปรับตัวลงเป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นตปท. ปัจจัยกดดันจากเฟดจะพิจารณาการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.50% ในการประชุมนโยบายในวันที่ 3–4 พ.ค.น้ี ส่วนปัจจัยบวกในประเทศ มาจากการที่ศบค.ยกเลิก Test&Go เหลือแค่ตรวจ ATK มีผล 1 พ.ค. คาดทำให้นักท่องเที่ยวเข้าประเทศมากขึ้น เป็นบวกต่อเศรษฐกิจ ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,690.59 จุด +0.04 จุด 0.00% มูลค่าการซื้อขาย 71,019 ลบ. ต่างชาติ -928.16 ลบ. TFEX -28,052 สัญญา ตราสารหนี้ -918.39 ลบ.
ปัจจัยบวก+
+ เกาหลีใต้จะอนุญาตให้ประชาชนสามารถรับประทานอาหารในโรงภาพยนตร์ โรงยิมในร่ม และศาสนสถาน ตั้งแต่สัปดาห์หน้า หลังจากยกเลิกข้อจำกัดด้านการเว้นระยะห่างทางสังคมต้นสัปดาห์นี้
+ สกุลเงินยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ หลังมีรายงานว่านายเอ็มมานูเอล มาครง ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศส
+ รมว.เกษตรและสหกรณ์ในฐานะประธานคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ (Fruit Board ) เปิดเผยว่า ไทยสำเร็จในการส่งออกทุเรียนไทยล็อตใหญ่ที่สุด 500 ตัน 27 ตู้คอนเทนเนอร์ของฤดูกาลผลิตผลไม้ปี 2565 ที่ขนส่งในเส้นทางรถไฟสาย ลาว-จีนตามนโยบายอีสานเกตเวย์
+ ค่าเงินแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบกว่า 4 เดือน ที่ 33.95 บาทต่อดอลลาร์ หนุนการส่งออก
+/- ศบค.รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่รวม 14,994 ราย ATK 6,761 ราย มีผู้เสียชีวิต 124 ราย รักษาหาย 23,524 ราย
ปัจจัยลบ –
– ดัชนีดาวโจนส์ปิดร่วงลง 981.36 จุด -2.82% ถูก กดดันจากการคาดการณ์ผลประกอบการของบจ.ในสหรัฐที่อ่อนแอกว่าคาด และนักลงทุนวิตกว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะได้รับผลกระทบจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
– สัญญาน้ำมันดิบ WTI ร่วงลง 1.72 ดอลลาร์ -1.7% ปิดที่ 102.07 ดอลลาร์/บาร์เรลถูกกดดันจากดอลลาร์ สหรัฐแข็งค่าขึ้น และจากความกังวลที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
– S&P โกลบอลเปิดเผยว่า PMI รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐ ปรับตัวลงสู่ระดับ 55.1 ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือน จากระดับ 57.7 ในเดือนมี.ค.
– WHO เผยพบเด็กป่วยโรคตับอักเสบเฉียบพลันเพิ่มขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุ
– นายอนุสรณ์ ธรรมใจ อดีตกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า สัญญาณจุดเปลี่ยนระบบการเงินโลกครั้งใหญ่ทะยอยเพิ่มขึ้น หลังตลาดลอนดอน ซื้อขายโลหะมีค่า (London Metals Exchange ME) อาจยุติซื้อขาย ทองคำ เงิน และนิกเกิลในตลาดซื้อขายอนาคตล่วงหน้า
แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยมีโอกาสปรับตัวลงตามทิศทางตลาดต่างประเทศ โดยนักลงทุนวิตกว่าเศรษฐกิจจะได้รับผลกระทบจากการที่เฟดเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ขณะที่สงครามรัสเซีย-ยูเครนที่ยืดเยื้อเป็นปัจจัยกดดันต้นทุน พลังงาน คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,670-1,695 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
- กรณีสงครามยืดเยื้อ ราคาน้ำมันทรงตัวในระดับสูง บวกต่อ PTTEP PTTGC TOP, สินค้าเกษตร ข้าวสาลี และ กากถั่วเหลืองขึ้น เป็นบวกต่อ TMILL TVO และเป็นลบต่อธุรกิจอาหารสัตว์ทำให้ต้นทุนเพิ่มขึ้น CPF GFPT ASIAN
- จ่อปลดล็อกเข้าประเทศทุกเงื่อนไข 1 มิ.ย.นี้ เลิก ThailandPass/Test&Go : AOT ERW CENTEL MINT AWC
- หุ้นที่ได้ประโยชน์จากอากาศร้อน SNC KOOL SAPPE ICHITACC
- หุ้นที่ได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทอ่อนตัว TU CFRESH ASIAN DELTA KCE SMT
หุ้นรายงานพิเศษ
กลุ่มน้ำมันปาล์ม VPO LST UVAN UPOIC
- อินโดนีเซียเป็นผู้ผลิตและส่งออกน้ำมันปาล์มรายใหญ่ที่สุดของโลก โดยมีปริมาณคิดเป็นสัดส่วนมากกว่าครึ่งหนึ่งของโลก ประกาศระงับการส่งออกน้ำมันปาล์มตั้งแต่วันที่ 22 เม.ย. โดยระบุว่าสิ่งนี้จะกระทบต่อผู้บริโภคทั่วโลก ไม่เพียงแต่ในอินเดีย เนื่องจากน้ำมันปาล์มถือเป็นน้ำมันพืชที่มีการบริโภคมากที่สุดในโลก และมีการใช้ในการผลิตสินค้าหลายอย่าง เช่น บิสกิต มาร์การีน ช็อกโกแลต และน้ำยาซักผ้า ก่อนหน้านี้ อินโดนีเซียเคยประกาศระงับส่งออกน้ำมันปาล์มในเดือน ม.ค. ก่อนที่จะยกเลิกประกาศดังกล่าวในเดือนมี.ค.
- ความเห็น หลังอินโดนีเซียประกาศระงับการส่งออก ทำให้ราคาน้ำมันปาล์มปรับตัวขึ้น 3% ส่งผลบวกต่อผู้ผลิตน้ำมันปาล์มในไทย ส่งผลให้ราคาขายและอัตราการทำกำไรปรับตัวดีขึ้น โดยหุ้นที่ได้ประโยชน์ VPO LST UVAN UPOIC
หุ้นมีข่าว
(+) NRF (Bloomberg Consensus 8.88 บาท) เจรจาดีลธุรกิจโปรตีนจากพืชต่างประเทศ พร้อมวางเกมเทกธุรกิจอีคอมเมิร์ซ 2-3 ดีล ต่อยอดเติบโต ปีนี้รายได้โตโดด 50-70% สัดส่วนรายได้อีคอมเมิร์ซทะลุ 20% เคลื่อนธุรกิจสู่บริษัทคลีนฟู้ดเทคระดับโลก ด้านผู้ถือหุ้นอนุมัติปันผล 0.041 บาทต่อหุ้น (ที่มา ทันหุ้น)
(+) CBG (Bloomberg Consensus 114.00 บาท) ยันไม่มีแผนปรับขึ้นราคาขาย หวังมาร์เก็ตแชร์เพิ่ม ชูยอดขายตลาดจีนเติบโต 50-60% ดันยอดขายไตรมาส 2/2565 โตเด่น ลุยออกสินค้าใหม่ 3-4 โปรดักต์ แย้มสินค้า CBD พร้อมวางขายช่วงไตรมาส 2/2565 เดินหน้าลดต้นทุนรักษาระดับมาร์จิ้น หนุนรายได้รวมทั้งปี 2565 โตไม่ต่ำกว่า 20% (ที่มา ทันหุ้น)
(+) AKR (Bloomberg Consensus – บาท) ออเดอร์หม้อแปลงไตรมาส 1/2565 เป็นบวก 10-20% หลังเอกชนเดินหน้าลงทุนเพิ่ม พร้อมประมูลงานใหม่ 2-2.5 พันล้านบาท คาดหวังได้งาน 10-12% สยายปีกโกอินเตอร์ โกยออเดอร์ใหม่ออสเตรเลียเพิ่ม คาดเติบโต 50% จากปีก่อน อวดแบ็กล็อกในมือ 700 ล้านบาท หนุนรายได้รวมปี 2565 เติบโต 20-25% จากปีก่อน ล่าสุดจับมือพันธมิตรลุยธุรกิจชาร์จอีวี (ที่มา ทันหุ้น)
(+) WICE (Bloomberg Consensus 22.00 บาท) โชว์บริการขนส่งรถไฟลาว-จีน 4 เดือนแรกกว่า 200 เที่ยว มั่นใจทั้งปีนี้ทำได้ตามเป้า 3,000 เที่ยว คาดสร้างรายได้เพิ่มกว่า 500-600 ล้านบาท ขณะที่ลุ้นขนส่งทางอากาศโตต่อเนื่อง หากมีการเปิดน่านฟ้ามากขึ้น ส่วนขนส่งทางทะเลรับผลบวก ค่าระวางพุ่ง-ตลาดส่งออกสหรัฐฯ สดใส หนุนรายได้รวมปีนี้ 9 พันล้านบาท โต 20% (ที่มา ข่าวหุ้น)
ปัจจัยจับตาในประเทศ
- 25 เม.ย. สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) แถลงยอดการผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และชิ้นส่วนยานยนต์
- 29 เม.ย. ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย
- 18 พ.ค. ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ครั้งที่ 3/2565
ปัจจัยจับตาต่างประเทศ
- 25 เม.ย. สหรัฐรายงานดัชนีกิจกรรมเศรษฐกิจทั่วประเทศเดือนมี.ค.จากเฟดชิคาโก
- 26 เม.ย. สหรัฐรายงานยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือน มี.ค. ราคาบ้านเดือน ก.พ.จากเอสแอนด์พี/เคส-ชิลเลอร์ ยอดขายบ้านใหม่เดือน มี.ค. ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน เม.ย.จาก Conference Board ดัชนีการผลิตเดือนเม.ย.จากเฟดริชมอนด์
- 27 เม.ย. สหรัฐเปิดเผยยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือน มี.ค. สต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA)
- 28 เม.ย. สหรัฐ รายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) 1Q65 (ประมาณการเบื้องต้น)
