บล.เคจีไอ (ประเทศไทย):

Bangkok Bank (BBL.BK/BBL TB)* ผลประกอบการ 1Q65: รายได้อ่อนแอในหลายด้าน

Event

กำไรสุทธิของ BBL ใน 1Q65 อยู่ที่ 7.1 พันล้านบาท (+13% QoQ และ +3% YoY) ต่ำกว่าประมาณการของเรา/consensus 5%/8% เนื่องจากรายการ FVTPL ต่ำกว่าที่คาดไว้ แต่หากไม่รวมการตั้งสำรอง และรายการ FVTPL กำไรจากธุรกิจหลักจะต่ำกว่าประมาณการของเรา 5% ทั้งนี้ กำไรสุทธิใน 1Q65 คิดเป็น 25% ของประมาณการกำไรปีนี้ของเรา

Impact

สินเชื่อไม่โต QoQ แต่เพิ่มขึ้น 9% YoY ในขณะที่ yield สินเชื่อและ NIM ลดลง

สินเชื่อรวมขยับเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย (+0.1% QoQ และ +10% YoY) ใน 1Q65 โดยสินเชื่อที่ขยายตัวอย่างอ่อนแอมาจากทั้งสินเชื่อในประเทศไทย และอินโดนีเซีย ในขณะเดียวกันมาร์จิ้นลดลงเล็กน้อย Sbps QoQ และ Tbps YoY เนื่องจากยึดถูกกดดันทั้งในส่วนของสินเชื่อ และการปล่อยกู้ในตลาดเงิน

อัตราการขยายตัวของรายได้ค่าธรรมเนียมยังอ่อนแอ

รายได้จากธุรกรรมการธนาคารหลักลดลงอย่างมาก (-9% QoQ และ 6% YoY) ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นการสะท้อนถึงรายได้ค่าธรรมเนียมจากสินเชื่อ และตลาดทุนที่ลดลงเช่นเดียวกับธนาคารอื่นๆ ทั้งนี้ ภาวะที่ไม่เอื้ออำนวย และการบริโภคในประเทศที่ยังอ่อนแอ เป็นตัวบ่งชี้ว่าอัตราการขยายตัวของรายได้ค่าธรรมเนียมจะยังอ่อนแอต่อไปอีก ดังนั้นเราจึงปรับลดสมมติฐานอัตราการขยายตัวของรายได้ ค่าธรรมเนียมปี 2565/2566 ลงเหลือ 3%/5% (จากเดิม 8%/5%)

บันทึกผลขาดทุนก้อนใหญ่จากการบันทึกมูลค่าการลงทุนตามราคาตลาด (MTM loss on investment) อัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่เพิ่มขึ้นส่งผลลบผลกับธุรกิจการลงทุนในตราสารหนี้ของธนาคาร ทำให้กำไรพอร์ตตราสารหนี้ลดลงอย่างมากเหลือเพียง 1.3 พันล้านบาท (จากเฉลี่ยไตรมาสละ 4.5 พันล้านบาท ในปี 2564) นอกจากนี้ ธนาคารยังบันทึกผลขาดทุนทางบัญชีจากจากการลงทุนตามราคาตลาด (MTM) ผ่านงบดุลอีกประมาณ 2.5 พันล้านบาท ทั้งนี้ หากตลาดตราสารหนี้ยังคงผันผวนอย่างต่อเนื่องจะสร้างแรงกดดันต่อผลตอบแทนจากการลงทุนในตราสารหนี้ ดังนั้น เราจึงปรับลดสมมติฐานผลกำไร MTM ที่บันทึกในงบ P/L เหลือปีละ 8.5 พันล้านบาทในปี 2565/2566 (จากเดิม 1.2 หมื่นล้านบาท)

ปรับลดกําไรปี 2565/2566 ลง 7%/9% ลด TP- 2565F ลงเหลือ 155 บาท และปรับลดคำแนะนำเป็นถือ

อัตราการขยายตัวของสินเชื่อที่อ่อนแอ ภาวะตลาดทุนที่ไม่เอื้ออำนวย และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่เพิ่มขึ้นจากความคาดหมายเรื่องดอกเบี้ยกดดันรายได้ค่าธรรมเนียม และกำไรจากการลงทุนของ BBL ดังนั้น เราจึง 1) ปรับลดสมมติฐานอัตราการขยายตัวของรายได้ค่าธรรมเนียมปี 2565-2566 เหลือ +3%/+5% และ 2) ปรับลดสมมติฐานกำไร MTM ปี 2565/2566 เป็นปีละ 8.5 พันล้านบาท 3) ปรับลดสมมติฐานค่าใช้จ่ายในการตั้งสำรองปี 2565/2566 เหลือ 2.7 หมื่นล้านบาท 2.3 หมื่นล้านบาท (จาก 3.0 หมื่นล้านบาท/2.4 หมื่นล้านบาท) ทั้งนี้ เมื่อใช้ PBV ที่ 0.6x ทำให้เราได้ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 155 บาท (จากเดิม 160 บาท) และทําให้เราปรับคำแนะนําจากซื้อเป็นถือ

Risks

ความผันผวนของกำไรจากการลงทุน, รายได้ธรรมเนียมหดตัว, NPL และคชจ. สำรองเพิ่ม

- Advertisement -